บันทึก snsa 22 มค 2562 ep.16 ครบรอบการตรวจเลือดอีก 1 ครั้ง วันที่ตรวจคือ วันอาทิตย์ที่ 20 มค 2562 ต้องเล่าก่อนว่าก่อนตรวจเลือดครั้งนี้ สุขภาพโดยรวมดีมาก ทั้งเราเองเเละคนรอบข้างก็ทัก มีอาการที่เพิ่มมาคือลงบันได แล้วแปล๊บๆที่ข้อเท้าด้านหน้า วันตรวจคุณหมอเองยังทักว่าดีขึ้นมาก มีโอกาสลดยาถ้าผลเลือดออกมาดี แต่ข้อเท้าเรายังมีเนื้อเยื่อหนาอยู่ อันนี้คั่นนิดนึงนะคะ คุณหมอที่รักษาแต่ละท่านละเอียดต่างกันมากๆๆๆๆ จริงๆ เนื่องด้วยเวลาหรืออะไรก็แล้วแต่ ก่อนหน้าเรารักษาที่โรงพยาบาลไม่เคยได้รับการจับหรือเชคร่างกาย ถึงขั้นเคยถามคุณหมอว่า เหยียดแขนให้ดูมั้ยคะ ว่ามันยืดได้แค่ไหน คุณหมอบอกก็แล้วแต่ 5555 ซึ่งโชคดีมากๆที่ปัจจุบันเราเปลี่ยนมาเจอคุณหมอท่านนี้ มีการจับเช็คข้อทุกข้อ ตรวจตา ตรวจหัวใจ ดูองศาการเหยียด การก้ม (ตอนนี้รักษาคลีนิคค่ะ) กลับมาเข้าเรื่องเดิม สรุปว่าเมื่อวานฟังผลเลือด ค่าอักเสบเราเพิ่มขึ้นอีกเเล้ว ฮือ เสียใจอดลดยา แต่ข่าวดีคือ ค่าเกล็ดเลือดแดงเราลดลง แต่ยังไม่ถึงขั้นเกณฑ์ปกติ อันนี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าโรคเรากำลังไปในเเนวทางที่จะสงบ แต่ยังลดยาไม่ได้ เพราะถ้าลดตอนนี้อาจจะกลับมาอักเสบอีก จริงส่วนตัวเราคิดว่า ค่าอักเสบเราเพิ่มเพราะหลังๆเราไม่มีวินัยในการปฏิบัติตัว นอนดึก กินอาหารทุกอย่าง ไม่ควบคุม ขาดการออกกำลังกาย ยาก็ลืมกินบ้าง บางครั้งที่ต้องไปต่างจังหวัดหรือไปทำงานข้างนอก เราจะงดยา indomethacin เอง (อันนี้ไม่ดี) เพราะตัวนี้เวลากินเราจะมีอาการหายใจไม่สะดวก เพลียเหมือนจะวูบ ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นโรคหัวใจและได้ยาลดการเต้นของหัวใจและละลายลิ่มเลือดมากิน แต่จากการสิงอยู่ในกลุ่ม as สมาชิกหลายคนก็มีอการเดียวกันตอนทานยาตัวนี้ หลายคนขอหมอเปลี่ยนยา ซึ่งสำหรับเรา เราเคยแจ้งคุณหมอไปแล้ว แต่คุณหมอมั่นใจ เราก็เชื่อใจตามนั้น 5555 ผ่านมา 1 ปีกว่าสำหรับยาตัวนี้ ยังมีจะวูบบ้างแต่อาการเกี่ยวกับโรคดีขึ้นมาก และเราก็ไม่อยากเปลี่ยนไปกินซัลฟา สรุปยาปัจจุบันที่เรากิน 1.กดภูมิ 4 เม็ด ทุกวันพุธ 2. indomethacin เช้า 2 เม็ด เย็น 2 เม็ด 3.Folic 1 เม็ดต่อวัน 4.ยาลดการบีบตัวของหัวใจ 5.ยาละลายลิ่มเลือด ุ6.ขมิ้นชันวันละ 2 แคปซูล น้ำหนักตัว(อ้วน) ปกติ เป็นสิว ผื่น ง่าย ผิวแห้ง มีแผลในปากบ่อย เสียงกรอบแกรบที่คอหายไป ที่เข่ายังดังอยู่ เขย่งปลายเท่า นั่งยอง คุกเข่า ได้ (ตรงไหนที่งอไม่ด้เมื่อก่อน เราพยายามฝืนทีละนิดค่ะ คิดเหมือนโยคะคือ เส้นมันน่าจะคลายไปที่ละนิดๆถ้าทำบ่อยๆ ซึ่งได้ผล สุดท้าย ที่อยากบอกหลายๆคนนะคะ สำคัญที่สุดคือใจ กำลังใจ ในกลุ่มที่เราอยุ่ และคนรอบข้างที่เป็นโรคนี้ (เดี๋ยวนี้คนเป็นเยอะจัง หรือก่อนนี้เราไม่สนใจ) แบบเเรกคือกำลังใจดีมาก มองว่ามันคือโรคที่ไม่ทำให้เราตาย ไม่ติดต่อ เราสู้มันได้ ยกตัวอย่าง พี่ที่เรารู้จัก ค่าอักเสบ 2000(จริงๆไม่พิมพ์ผิดค่ะ หมอยังตกใจ) เป็นรูมาตอยด์ เค้ามีเจ็บมีบวมบ้าง กินยาแรงกว่าเราเยอะ แต่ดูภายนอกปกติ และเค้าเเข็งแรงกว่าคนอื่น ทำงานหนัก กับสมาชิกอีกหลายๆคนที่อยากกลับมาวิ่งอีกครั้ง หรือ มีเป้าหมายว่าโรคต้องสงบ ส่วนอีกแบบคือ ไม่ว่าจะมีคนปลอบใจยังไง แนะนำยังไง จะคิดว่าอาการที่เป็นอยู่เกินเยียวยา แต่ไม่ปรับพฤติกรรม ไม่ปรับการกิน ไม่ลองวิธีการรักษาที่คนอื่นแนะนำ แบบนี้เราสงสารมาก เพราะอาการของโรคเหมือนเดิมไม่ดีขึ้น บางคนแย่ลงจนเรารู้สึกว่าเค้าป่วยใจมากกว่าป่วยกาย แรกๆตอนรู้ว่าเป็นโรคนี้ เราเองก็นอยด์และเชื่อว่าหลายคนมีใจเสียบ้าง ธรรมดาของคนที่ไม่รู้จักโรค แต่วันนี้เราต้องปรับตัวให้อยู่กับมันในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป อย่าคิดว่าตัวเองโชคร้ายกว่าคนอื่น เราเองก็เคยนอนติดเตียง ตัวแข็งแบบ head to toe จริงๆ กระโหลกศีรษะ ยันปลายนิ้วเท้า ผ่านมาได้เพราะกำลังใจรอบข้าง(ซึ่งเราโชคดีมากๆ ทั้งครอบครัว แฟน เพื่อน เพื่อนร่วมโรค) ที่มันทำให้ใจของเราเข้มแข็งขึ้นมา เราเขียนไว้ เผื่อใครเป็นโรคนี้แล้วผ่านมาอ่านนะคะ อย่างน้อยจะได้เลือกถูกว่าคุณจะเลือกเป็นคนป่วยแบบไหน เป็นกำลังใจให้นะคะ #snsa#as#แพ้ภูมิตัวเอง#ภูมิเพี้ยน Create Date : 22 มกราคม 2562 Last Update : 18 พฤศจิกายน 2566 11:06:10 น. 0 comments Counter : 1390 Pageviews.   Share Tweet