สทศ.ยันข้อสอบโอเน็ตออกตามหลักสูตร
นักเรียน ม.6 ร้องเรียนผ่านสื่อ ว่า สทศ.แจ้งเปลี่ยนลักษณะข้อสอบและรูปแบบกระดาษคำตอบข้อสอบโอเน็ตกระชั้นชิด ทำให้เตรียมตัวไม่ทัน ยืนยันว่าทุกข้อออกตามหลักสูตรขั้นพื้นฐาน..
นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)
เปิด เผยถึงการตรวจสอบกรณีนักเรียนใช้น้ำยาลบคำผิดหรือลิควิคเปเปอร์แต้มบนดินสอ โดยอ้างเป็นของขลังว่า ผู้สอบได้ยืนยันกับ เจ้าหน้าที่ สทศ.ว่าเป็นเครื่องรางของขลัง สทศ.จะเชิญมาคุยที่ สทศ. จะได้รู้วิธีคิด ตนคิดว่าคงมีอะไรผิดปกติ
โดยเด็กระบุว่าต้องการสอบเข้าเรียนแพทย์ ก็จะชี้แจงให้ทราบว่า คณะแพทย์รับผลสอบโอเน็ต ม.6 ในปีที่จบ ไม่รับเด็กค้างปี
เมื่อคุยข้อมูลกับเด็กแล้วจะเสนอ คณะกรรมการบริหาร สทศ.พิจารณาว่าเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ส่วนกรณี นักเรียน ม.6 ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า สทศ.แจ้งเปลี่ยนลักษณะข้อสอบและรูปแบบกระดาษคำตอบข้อสอบโอ เน็ตกระชั้นชิด ทำให้เตรียมตัวไม่ทันนั้น สทศ.ได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ สทศ.ที่ //www.niets.or.th และส่งข้อมูลให้นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงกระทู้สดเรื่องเดียวกันต่อสภา ยืนยันว่าทุกข้อออกตามหลักสูตรขั้นพื้นฐาน
ผู้อำนวยการ สทศ.กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบข้อสอบจากเลือกตอบ 1 ใน 4 ตัวเลือก เป็นเลือกหลายตัวเลือกเพื่อให้การวัดผลแม่นยำขึ้นและการเดาถูกลดลง
เพราะการเลือกตอบ 1 ใน 4 ตัวเลือกทำให้เด็กมีโอกาสเดาถูก 25% สทศ.ไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบฉับพลัน แต่ค่อยๆ ปรับทีประมาณ 10-20% ของคะแนนเต็มและเปลี่ยนบางวิชาเท่านั้น และการสอบโอเน็ต ม.6 ปีหน้าก็จะดำเนินการต่อไป โดยวิชาใดที่ข้อสอบเป็นรูปแบบเดียวจะปรับเพิ่มเป็น 2 รูปแบบ ส่วนวิชาที่มากกว่า 1 รูปแบบอยู่แล้ว ก็จะคงรูปแบบเหล่านั้นและคงสัดส่วนเปอร์เซ็นต์นั้นต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมสนามสอบและพูดคุยกับเด็ก ม.6 แม้แต่เด็กตาบอดก็พบว่าเด็กเข้าใจ เด็กที่ร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ต้องการเข้าแพทยศาสตร์ กำหนด เกณฑ์ขั้นต่ำโอเน็ตต้องได้ 60% จึงกังวล และรูปแบบข้อสอบดังกล่าวอยากให้ครูนำไปสอบเด็กด้วย จะได้คุ้นเคยและฝึกคิดวิเคราะห์ ส่วนข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.6 ที่ถามเรื่องต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร เด็กนักเรียนต่างจังหวัดตอบไม่ได้นั้น สทศ.ตัดสินใจให้คะแนนฟรี 4 ข้อ รวม 16 คะแนนให้กับนักเรียน ป.6.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
