A free online Thai community magazine for trendy Thais living and visiting to the United Kingdom.
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2555
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
ลูกกอล์ฟเจ้าของสถาบัน ANGKRIZ


“ศิษย์เก่าเล่าซิ!” ได้รับเกียรติถูกเจิม ประเดิมคอลัมน์นี้โดย คุณลูกกอล์ฟ เจ้าของสถาบันสอนภาษาอังกฤษ ANGKRITZ อันลือลั่นแห่งสยามประเทศ รายละเอียดที่เหลือให้คุณลูกกอล์ฟเม้าท์มอยให้เราฟังเองดีกว่าค่ะ

เริ่มแรกอยากให้ลูกกอล์ฟบอกชื่อที่อยากให้ขึ้นหัวคอลัมน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเองมากที่สุดค่ะ

ก็จะต้องคิดหัวข้อคอลัมน์เองด้วย กลัวจะอวยตัวเอง ก็เลยจะบอกว่าเป็นตุ๊ดคนนึงที่สอนภาษาอังกฤษละกัน(หัวเราะ) เป็นเจ้าของสถาบัน ANGKRIZ สถาบันเล็กๆที่อยู่ในกรุงเทพฯนี่เองค่ะ

แนะนำตัวเองให้เพื่อนๆรู้จักนึดนึงค่ะ

ก็ขอแนะนำตัวเองนิดนึงนะคะ ชื่อคณาธิป สุนทรรักษ์ค่ะ อายุก็ 27 ปีแล้ว ตอนนี้หลักๆก็เป็นผู้อำนวยการและเป็นติวเตอร์ของสถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า ANGKRIZ นอกจากนั้นก็เป็นพิธีกรทาง Play Channel ของ GTH แล้วก็เล่น Facebook Twitter Instagram แค่นี้ค่ะ (หัวเราะ)

มาเรียนอะไรที่ประเทศอังกฤษคะ  พูดถึงความโดดเด่นของสถาบันที่ลูกกอล์ฟเรียนนิดนึง

มาเรียนที่ East 15 Acting School ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ University of Essex เรียนในด้าน MA in Theatre Directing เพราะว่าเป็นสิ่งที่ชอบตั้งแต่ตอนที่เรียนที่นิเทศศาสตร์จุฬาฯ ลูกกอล์ฟเรียนสาขาการแสดงมาก็เลยไปต่อเกี่ยวกับด้านการแสดงละครเวทีแต่เปลี่ยนแนวไปเป็น part กำกับการแสดง ที่จริงการเรียนต่อโทมันเป็นข้ออ้างของการแบบว่าอยากหนีไปแบบ 1ปี เพราะว่าอยากจะไปพักและก็หาประสบการณ์ ซึ่งได้กว่าคุ้ม เกินคุ้มมาก ได้ภาษา ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่ และที่สำคัญได้แฟนค๊า ความโดดเด่นของสถาบันคือเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการกำกับการแสดงและละครเวทีมาก

เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกมาเรียนที่นี่ และคิดว่าคุ้มค่ารึเปล่าที่ได้มาเรียนที่อังกฤษ

เหตุผลที่เลือกเรียนที่นี่คุ้มมากเพราะได้ทำ Research มาก่อนแล้วว่าถ้าจะเรียนเป็นด้านปฏิบัติซึ่งที่ East 15 Acting School ก็น่าจะให้ทางด้านนี้ได้ดีสุด ก็เลยตัดสินใจไปก็ถือว่าถูกทางนะเพราะว่าตรงสายกับที่อยากเรียน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไปก็ถือว่าคุ้มค่าและก็มีความสุขที่ได้เรียนในสิ่งที่ชอบจริงๆ

อยากให้เล่าถึงเรื่องประทับใจตอนมาเรียนที่อังกฤษ

ตอนที่ไปเรียนที่อังกฤษหรอมีเรื่องราวที่น่าประทับใจมากหลายเรื่อง ลูกกอล์ฟชอบประเทศอังกฤษมาก ชอบลอนดอน ชอบทุกอย่างของที่นั้น รู้สึกว่ามันเป็นเมืองที่เหมาะกับเรา อากาศทุกอย่างถูกต้องถึงแม้ว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงบ่อย แต่มันเป็นเมืองที่เราเป็นเราได้ดีที่สุด ไม่ต้องยุ่งกับใคร ทุกคนดูแต่งตัวประหลาด แต่งตัวสวย (อาหารไม่ค่อยอร่อยเท่าเมืองไทยหรอก) แต่ว่าชอบอ่ะ ชอบการจิบชา เรื่องราวประทับใจหลักๆก็มีแฟน! จบ! เจอผู้ชายอังกฤษ จบแระถือว่าสมบูรณ์! (หัวเราะ) จะมีแต่เรื่องนี้แล้วกันนะ ;p

วัฒนธรรม ประเพณี หรือการใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษที่ลูกกอล์ฟชื่นชอบและซึมซับหรือตรงกับชีวิตของตัวเองบ้าง

เอาจริงๆไม่ได้ชอบวัฒนธรรมอะไรมากมาย เพราะรู้สึกว่าคนอังกฤษก็มีความชุ่ยประมาณหนึ่ง เช่น ไม่เคารพกฎจราจร แต่ที่ชอบก็ชอบอากาศ ชอบการแต่งตัว ตึกรามบ้านช่องแล้วก็ศิลปะอะไรแบบนี้มากกว่า นั่นคือสิ่งที่เราชอบ อาหารก็ไม่ได้ชอบมากจะมีแต่พวกฟิชแอนด์ชิฟ แล้วก็แบบมันไม่ค่อยอร่อย กินแล้วก็อ้วน (นึกออกมั้ย ;p) ชอบอาหารไทย และก็ไม่ได้มีอะไรในประเทศอังกฤษที่ซึมซับมามาก นอกจากภาษาอังกฤษมากกว่าเราว่า เพราะสิ่งที่ได้จริงๆก็คือภาษาอังกฤษและก็ได้เข้าใจถึงแก่นของภาษาอังกฤษจริงๆ ได้เข้าใจสำนวนต่างๆที่ใช้ในอังกฤษ (แต่ไปอเมริกาเค้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี (หัวเราะ) คือแต่ก็ชอบแหละ

ได้ข่าวมาว่าลูกกอล์ฟก็มาพบรักที่ประเทศอังฤษพอจะแอบเล่าให้เพื่อนๆฟังนึดนึงได้มั๊ยค่ะ

ได้ตอนนี้ก็ 3 ปีแล้วค่ะที่คบกันกับผู้ชายคนนึงที่ชื่อว่า Paul Burgess ค่ะ ใครที่ตามใน Facebook หรือ Instagram ก็จะรู้ว่าเค้าเป็นใคร ก็ไปเจอเค้าตอนไปดูละครเวทีที่เค้ากำกับ เราไปจีบเค้าก่อนค่ะ เพราะด้วยความที่เป็นกะเหรี่ยงก็อยากเปลี่ยนสถานะทางสังคม(หัวเราะ) บ้าหรอล้อเล่น;p ก็ชอบ ก็ไปจีบก็แค่นั้น ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเวิร์ค เพราะเป็นรักข้ามทวีป แต่ตอนนี้ก็ 3 ปีแล้ว ก็แค่นี้ล่ะกัน ถือว่าเป็นรักที่ดีมาก

อยากให้เพิ่มเรื่องมุมมองเรื่องความรักระหว่างสองคนที่มาจากต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา ว่ามันมาบรรจบกันได้ยังไง ยากรึเปล่าที่คนไทยจะเป็นแฟนกับฝรั่ง  นานรึเปล่ากว่าจะปรับตัวได้

ยากมั้ยที่คนไทยจะเป็นแฟนกับฝรั่ง นานรึเปล่ากว่าจะปรับตัวได้? เราคิดว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตามากกว่า คือเราก็ไม่ได้คิดเหมือนกันว่ามันจะเกิดขึ้นกับเรา แต่ไปๆมาๆ มันดันเกิดขึ้น ถามว่ายากรึเปล่าที่คนไทยพบรักกับฝรั่ง? ก็ไม่ยากนะ แต่ว่ามันก็ต้อง Right Place/ Right Time/ Right Person มากกว่า คือที่ที่ถูก เวลาที่ถูกต้องและกับคนที่ใช่มันก็เลยเกิดขึ้นได้ คือเนื่องจากว่า ไม่รู้ซิ คือตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่จำความได้ ตั้งแต่ได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เยอรมัน ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าเราชีวิตเราต้องถูกส่งออกไปต่างประเทศ (หัวเราะ) เรารู้สึกว่าเรา domestic ไม่ได้ เพราะเราอาจเป็นสินค้าที่ค้างสต็อก (หัวเราะ) เราตั้ง Positioning ของเราว่าเป็นสินค้าต่างประเทศ (นี่เราแรงนะ(หัวเราะ)) ไม่หรอก เรารู้สึกมาตลอดว่าคู่แท้เราอยู่ต่างประเทศ แล้วมันก็ใช่จริงๆ คือเอาจริงๆเราจะบอกว่าถ้าเราจะเจอจริงๆ คนอะไร ชาติไหนมันก็ใช่แค่นั้นเอง ลืมบอกไปว่าเรื่องความรักเราไม่ได้ปรับตัวนานเลยแต่ภาษานั้นสำคัญนะเพราะฝรั่งบางคนเค้าก็จะไม่ได้ใจดีหรือเข้าใจเรา ถ้าเราพูดไม่รู้เรื่อง ดังนั้นพอภาษาเราดีมันก็ทำให้เราเข้าใจเค้าในเชิงลึก เอาง่ายๆคือเราไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร แต่บางคนทีคบกับคนต่างชาติอาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารหรืออาจมีความไม่เข้าใจกันทางภาษาบ้าง แต่ของเราแทบเป็นศูนย์ก็เลยโอเค

มาถึงตรงนี้ก็อยากให้ลูกกอล์ฟเล่าถึงเรื่องเกย์ซีนในลอนดอนดีกว่า ว่ามีความสนุกสนาน อิสระ หรือเปรี้ยว แซบ เผ็ด ร้อน ยังไงบ้าง

มีความสนุกสนานนะเพราะที่ลอนดอนค่อนข้างเปิดกว้าง เวลาเดินกับใครที่เป็นเกย์ใช่มั้ย คนก็ไม่ค่อยมอง ที่เมืองไทยคนก็ไม่ค่อยมองแต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดคนก็อาจจะมอง แต่ที่โน้นมันก็แทบจะปกติ แต่! ถามว่ามีเหยียดเกย์มั้ยก็มีนะ แต่เค้าก็จะแรงอย่างชัดเจน แต่เราก็ไม่สนใจมากกว่า ค่อนข้างเปิดกว้างค่ะ Old Compton Street เป็นโซนที่ดี  สนุกสนาน มีร้านเก๋ๆ แต่เกย์กล้ามปูค่อนข้างเยอะไปหน่อย ประมาณนั้นค่ะ แต่การเป็นตุ๊ดที่ลอนดอนค่อนข้างสนุก ดีและแฮปปี้ ผับสนุก

มีข้อเตือนใจเก้ง กว้าง ที่อยู่ที่นี่บ้างรึเปล่า

มีข้อเตือนใจอะไรเก้ง กว้าง? ก็เลือกคู่นอนดีๆแล้วกันค่ะ ก็คือหมายถึงถ้าออกไปแล้วต้องการอะไรแบบฉาบฉวยอะไรยังไง ร้อยพ่อพันแม่ค่ะ คืองี้เตือนเกย์ทั่วประเทศ ทั่วโลกแล้วกันค่ะว่าจะต้อง safe sex แล้วกันค่ะ ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เราก็ต้อง make sure ไว้ก่อนค่ะ เพราะถ้าพลาดแล้วมันเรียกอะไรกลับมาไม่ได้เนอะ

มีเรื่องอะไรที่ไม่ชอบและรู้สึกไม่ดีตอนที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่บ้างมั๊ยคะ

ไม่มีค่ะ ชอบทุกอย่าง คือที่ไม่ชอบก็คือตอนที่รู้สึกว่าตัวเองจะต้องกลับมา ที่ไม่ชอบอะไม่มีเพราะเราเป็นคนง่าย ฉะนั้นเมื่อเรามาอยู่ที่นี่เราก็จะตักตวงทุกวินาทีให้คุ้มค่า ทุกความเศร้าคือประสบการณ์ ดังนั้นไม่มีอะไรที่ไม่ชอบค่ะ

วีรกรรมอะไรที่เด็ดๆตอนอยู่อังกฤษ

วีรกรรมอะไรที่เด็ดๆตอนอยู่ที่ปรเทศอังกฤษหรอ? ก็นี่ไงคือการไปจีบผู้ชายมา (หัวเราะ) มันเด็ดมากนะคือการที่คนๆนึงอายุ 24 ปี ไม่เคยจีบใครมาตลอดกี่ปีๆ ก็กลับมาวางแผน ซื้อดอกไม้ คิดพลอตเรื่องขึ้นมาอะไรเงี๊ย ซึ่งค่อนข้างยากนะ(หัวเราะ) ก็สรุปว่าไปจีบผู้ชายคนนึง และก็จีบติดมา นี่คือวีรกรรมเด็ดสุดแล้วค่ะ

เคยเจอเหตุการณ์แบบว่าฝรั่งที่นี่หรือพวกต่างชาติดูถูกหรือเอาเปรียบรึเปล่าแล้วลูกกอล์ฟมีวิธีที่จะรับมืออย่างไร

ก็มีนะ แต่แบบ.. คือเราต้องหันมามองตัวเองเหมือนกันนะ คือหนึ่งเราไม่ได้เป็นคนที่เหมือนจะโดนเอาเปรียบอย่างงั้นอยู่แล้ว คือเราอยู่กับคนที่ถูกต้องอ่ะ คือแบบเพื่อนเราทุกคนหรือคนที่เราจะเลือกคบด้วยก็จะเป็นคนที่เหมือนดีอยู่แล้ว ดังนั้นแบบเค้าก็จะไม่มาเอาเปรียบเอาอยู่แล้ว อีกอย่างคือเราพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี ฉะนั้นมันก็เหมือนเรารู้ทันอ่ะ พอไปได้ครึ่งปีพอคบกับแฟนคนนี้ก็จะไม่มีคนมาเอาเปรียบเรา เพราะเราก็ไปกับเค้าในฐานะแฟนของคนอังกฤษอะไรแบบเนี๊ย แต่บางครั้งก็เคยโดนแซวตอนเดินไปข้างถนน เจอแบบโดนเป่านกหวีดแกล้งอะไรแบบนี้ แต่เราก็ได้แต่คิดในใจว่าหรือว่าเราสวยล่ะ (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆเราก็ไม่ค่อยสนใจมากกว่าเดินไปเร็วๆ อย่าไปยุ่งดีกว่า

มาคุยถึงเรื่องปัจจุบันดีว่าค่ะ….

เหตุผลที่ลูกกอล์ฟตัดสินใจกลับเมืองไทยหลังเรียนจบเพราะอะไรคะ  (เคยรู้มาว่าลอนดอนเป็นเมืองที่ลูกกอล์ฟอยากใช้ชีวิตอยู่มาก)

ตัดสินใจกลับเมืองไทยหลังเรียนจบเนื่องจากว่าอยากทำโรงเรียนนี่แหละค่ะ อยากทำมานานมาก แต่ที่จริงก็คิดมานานว่าจะกลับดีไม่กลับดี แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าอยากจะทำอะไรมีประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากกว่า เพราะอยู่ที่นั่นก็ยังหาทางออกตัวเองไม่เจอและก็ไม่อยากดิ้นรน คือมันเป็นความฝันที่อยากทำ ก็เลยลองทำดีกว่า เลยกลับมาเปิดโรงเรียนที่มีชื่อว่า ANGKRIZ นี่แหละค่า

ตอนนี้ลูกกอล์ฟทำอะไรอยู่ที่เมืองไทยบ้างคะ(ได้ข่าวมาว่างานเยอะมาก)

ตอนนี้เยอะจริงๆค่ะ ก็มีสอนค่ะ  6 วันต่อสัปดาห์ อีก 1 วันก็เป็นวันพิธีกรและอยู่บ้านพักผ่อน นอน อะไรประมาณนี้

อยากให้เล่าความเป็นมาของโรงเรียนสอนภาษาของลูกกอล์ฟนิดนึงค่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน รู้ตัวเองตอนไหนว่าชั้นนี่แหละจะต้องเป็นอาจารย์

เอาจริงๆความเป็นมาก็อยากแอบให้ไปตามใน Youtube เนอะเพราะมันยาวนี่ก็ขึ้นปีที่ 2 แล้ว ความเป็นมาก็คืออยากทำโรงเรียนแล้ว Set up มันขึ้นมาจากเล็กๆ และตอนนี้มันก็สู่แบบเต็มที่และเป็น scale ที่อยากทำ ผ่านกระทรวงศึกษาธิการและก็เป็น ANGKRIZ จนทุกวันนี้

การมาเรียนที่อังกฤษให้ประสบการณ์อย่างไรในการทำงานในปัจจุบันบ้างคะ

คือทุกอย่างนะคือขัดเกลาสุดๆและสามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพในขณะนี้มากๆ

อยากให้แนะนำน้องๆ หรือเพื่อนๆที่อยากจะมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่เรียนหรือการปรับตัวด้านภาษาอังกฤษ

คือก็ต้องเลือกเรียนให้เหมาะกับตัวเอง เพราะว่าหนึ่งคือด้วยความที่มันเป็นภาษาต่างชาติเราก็จะแบบยาก เราว่าภาษาอังกฤษสำคัญ ตอนแรกเราต้องทำให้ภาษาอังกฤษของตัวเองอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากประมาณหนึ่งเลยล่ะ เพราะการไปเรียนที่อังกฤษยิ่งเป็นปริญญาโทด้วยแล้ว เนื้อหามันไม่ได้แบบ High school อาจารย์ก็ไม่รอ ศัพท์ทางวิชาการก็เยอะ ฉะนั้นต้องดูก่อนว่าภาษาอังกฤษตัวเองอยู่ในระดับไหน ถ้าจะไปต่อโท แล้วคิดว่าระดับภาษาของเรายังไม่ดีเท่าที่ควรก็ต้องเตรียมตัวให้ดีก่อน ทำ background ของตัวเองให้แน่นก่อน และเลือกคณะที่จะเรียนให้เหมาะสมกับตัวเอง แล้วศึกษาข้อมูลของคณะนั้นว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร เพราะเราว่าที่นั่นเด็กค่อนข้างล้ำเหมือนกันนะเหมือนเค้าจะแน่นกว่าเรา บางครั้งไปที่นั่นมันทำให้เราค่อนข้างกลวงบางครั้ง เพราะฉะนั้นก็ให้คิดซะว่าเราไปปีเดียวเราต้องตักตวงให้ได้มากที่สุด ต้องยอมกัดฟัน เศร้าแค่ไหนก็ต้องยอมกัดฟัน ยังไงก็ตามเราเสียเงินมาที่นี่เราก็ต้องทำให้ได้ อย่าอ่อนแอ คือการไปเมืองนอกจะไปนั่ง Home sick อยู่ 6 เดือน แล้วคนที่เสียเงินให้เราไปเค้าจะรู้สึกอย่างไร period ของการไปเรียนเมืองนอกยังไงมันก็ต้องมีวันจบ จะ 1 ปีหรือกี่ปีก็ตามยังไงทุกคนก็ต้องมีวันกลับมา คือถ้าไม่แต่งงานมีครอบครัวไปก่อนที่นั่น ยังไงก็ต้องกลับมา ดังนั้นปีเดียวเองก็ต้องทำให้ได้อย่าเป็น loser

โดยเฉพาะเรื่องภาษาอังกฤษซึ่งสำคัญมากในการอยู่ที่นี่ ในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษลูกกอล์ฟอยากแนะนำเพื่อนๆที่เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ในการการพัฒนาภาษาอังกฤษให้รวดเร็วได้อย่างไรคะ
คือรวดเร็วตัดออกไปเลย เราว่ามันไม่เร็วหรอกค่ะ มันอยู่ที่ความใส่ใจแล้วต้องทำต่อเนื่อง และถ้าทำแล้วมันก็ต้องเห็นผล คือชอบมีคนถามว่าทำไมไปอยู่ 6 เดือนแล้วทำไมไม่เห็นเก่งเลย เราก็ต้องกลับมาถามตัวเองก่อนว่าแล้ว 6 เดือนที่ไปอยู่อยู่กับใครบ้าง ทำอะไรบ้าง อยู่แต่กับคนไทยรึป่าว พูดภาษาไทยบ่อยแค่ไหน ท่องศัพท์เยอะมั้ย คุยกับฝรั่งบ่อยมั้ย ได้ดูซีรี่ฝรั่งหรือดูข่าวภาษาอังกฤษบ้างมั้ยสนใจแค่ไหน หรือได้คุยกับคนที่ขายของอยู่ตามข้างทางบ้างมั้ย ถามทางบ้างรึป่าว สั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษด้วยตัวเองบ้างรึป่าว ส่วนใหญ่ถ้าไม่ทำแล้วจะบ่นกันไปทำไม ต่อให้อยู่อีก 10 ปีก็ไม่เก่งหรอกค่ะ คือนี่ก็พูดตามความจริง เราว่าตัดคำว่ารวดเร็วออกไป คือมันอยู่ที่ตัวเองแล้วล่ะว่าอยากตักตวงแค่ไหน

ส่งท้ายสั้นๆ ถึงผู้อ่านเล่าซิ! Magazine (คนไทยที่อยู่ที่อังกฤษตอนนี้)

ก็ไปอยู่ที่อังกฤษก็ขอให้ดูแลตัวเองแล้วกัน เพราะมันเป็นประเทศที่ดีมากประเทศหนึ่ง การได้มีโอกาสไปอยู่ที่นั่นถือว่าเราโชคดีนะ บางคนก็อาจโชคร้ายแต่ต่อให้โชคร้ายยังไงก็ตามก็ขอให้ผ่านไปได้แล้วกัน และถ้าคนที่ยังอยู่ตอนนี้ขอให้รู้ว่ามีตุ๊ดคนนึงที่อยู่เมืองไทยอิจฉาก็อยากกลับไปบ่อยๆ ขอให้ทุกคนติดตามและอ่าน Magazine นี้บ่อยๆ ค่ะ

อัพเดทเรื่องราวของ ANGKRIZ ได้ตลอด ลองเข้าไปดูได้นะคะ

Offiical Website: //www.angkriz.com

Facebook: //www.facebook.com/angkriz และ //www.facebook.com/LGandFriends

Youtube: https://www.youtube.com/TheLittleGolfball

//loudsi.com/columns/ukalumni/629/




Create Date : 05 ธันวาคม 2555
Last Update : 5 ธันวาคม 2555 7:04:57 น. 0 comments
Counter : 5258 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Games LoudSi
Location :
London United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add Games LoudSi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.