โครเอเชีย ตอนที่ 2: ชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก

เอาเป็นว่าเรื่องราวอันประทับใจของพระอาทิตย์อัสดงตกลงน้ำผมจะขอเก็บไว้เล่าในตอนของประเทศกรีซ ประเทศที่นักท่องเที่ยวร่วมกันโหวตให้เป็นจุดที่มีพระอาทิตย์ตกดินสวยและโรแมนติกที่สุดในโลก ยังไงก็อย่าลืมติดตามอ่านกันในเล่าดอทคอมที่นี่ต่อไปนะครับ ตอนนี้ยังไงขอพาทุกท่านกลับมาดื่มด่ำกับโครเอเชียกันต่อ

เควินอาสาถ่ายรูปให้เราสามคน โดยที่ผมก็ถ่ายรูปกลับให้เควินเหมือนกัน ซึ่งเควินดูจะดีใจเป็นพิเศษเพราะนี่คงเป็นรูปแรก ๆ ที่หนุ่มมาเลย์คนนี้มีโอกาสได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพ ผมเข้าใจเควินเป็นอย่างดีเพราะเห็นแล้วนึกถึงตัวเองเวลาต้องไปไหนมาไหนคนเดียว ยิ่งเป็นคนที่ชอบโดนถ่ายรูปด้วยแล้ว เวลามีใครมาอาสาถ่ายรูปให้เลยดีใจเป็นพิเศษ และนี่คงเป็นข้อดีของการที่เรามากันหลายคนทำให้สลับ ๆ กันถ่ายรูปได้อย่างตามอำเภอใจเราทั้งสี่เลือกมุมเจ๋ง ๆ ซึ่งภาพเบื้องหน้ายังคงเป็นเมืองเก่าที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีสวย ผสมผสานกับเกาะแก่งของภูมิประเทศชายฝั่งทะเลเอเดรียติก นั่งชมวิวกันไป แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันไป โดยที่เควินเล่าว่าเค้ากำลังจะจบทริปโครเอเชียลงที่เมืองนี้แล้วบินต่อไปยังอิตาลี ในขณะที่เราทั้งสามสำหรับเมืองนี้ถือเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ผมขอข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง 10 กว่าวันที่ผ่านมาในโครเอเชียของเควิน เพื่อเป็นประโยชน์และนำมาปรับแต่งให้เข้ากับโปรแกรมการเดินทางของเราให้ได้มากที่สุดนานพอสมควรที่เราทั้งสี่นั่งคุย ถ่ายรูป รับลมชมวิวกันอยู่บนยอดเขา ถึงเวลาที่จะต้องนั่งกระเช้ากลับลงไปในเมืองเพื่อเจาะลึกเขตเมืองเก่าของดูบรอฟนิกตามโปรแกรมที่วางไว้ มิตรภาพจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงบนแผ่นดินยุโรปจึงต้องบอกลากันแต่เพียงเท่านี้ เพราะเควินขอตัวไปเขียนโปสการ์ดส่งถึงแฟนที่มาเลเซียและจะกลับไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมเพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินเลย เราทั้งสามและเควินไม่ได้แลกเบอร์ติดต่อ เฟสบุ๊ค หรือให้ข้อมูลอะไรกันทั้งนั้น มีแต่เพียงประโยคบอกลาที่เควินพูดส่งท้าย ผมจำไม่ได้แล้วว่าเควินบรรยายเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร แต่สมองของผมบันทึกประโยคของเควินที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันดีนี้ไว้ว่า “ตราบใดที่พวกเรายังแบกเป้ท่องโลก คงมีโอกาสได้เจอกันอีก ที่ใดซักแห่ง” ผมเห็นด้วยและอวยพรให้เควินโชคดีกับการเดินทางต่อไปยังอิตาลี มิตรภาพระหว่างการเดินทาง ผมว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ เพราะมีแต่ความปราถนาดี ความเป็นห่วงเป็นใย แลกเปลี่ยนและให้ข้อมูลที่จำเป็น พูดคุยในภาษานักท่องเที่ยวด้วยกัน โดยไม่มีเรื่องธุรกิจหรือผลประโยชน์ใดๆมาเกี่ยวข้องให้ต้องรำคาญใจเหมือนเวลาคุยกับบริษัททัวร์ต่าง ๆ ผมว่าสิ่งนี้มันมีค่าจริง ๆหลังจากบอกลาเควิน เราทั้งสามก็มุ่งหน้าสู่เมืองเก่าของดูบรอฟนิก ผ่านกำแพงเมืองและประตูทางเข้าอันโอ่อ่าใหญ่โตเหมือนเคย แต่วันนี้ต่างจากเมื่อวานตรงที่เป็นทางเข้าอีกมุมหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บริเวณท่าจอดเรือและชายหาดที่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำนอนอาบแดดได้ตามใจ ชายหาดที่อยู่ติดกับเมืองเก่าแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ชาวโครเอเชี่ยนแวะเวียนมาใช้บริการกันเต็มตั้งแต่เช้าจรดเย็น เนื่องจากเป็นชายหาดที่อยู่ใกล้กับเขตชุมชน ซึ่งสะดวกในการเดินทางมากที่สุด

วันนี้เป็นวันที่แดดแรงและอากาศร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซสเซียส ทำให้ผมอยากที่จะวิ่งลงไปเล่นน้ำทะเลเต็มแก่ แต่ก็ต้องอดใจไว้ก่อน แล้วมุ่งหน้าสู่เขตเมืองเก่าผมและเพื่อน ๆ เดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยไปเรื่อย ๆ ให้บรรยากาศเหมือนกับเป็นคนพื้นเมืองที่นี่ดีแท้ เพราะตรงส่วนของเมื่อวานที่เรามากันวันแรกเป็นส่วนที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและร้านขายของ แต่ที่เรามาเดินกันในวันนี้อยู่ถัดมาทางด้านหลังจะเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยและบ้านพักจริง ๆ ของคนที่นี่ ทำให้เราทั้งสามได้เห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ การกิน การนอนของชาวโครเอเชี่ยนได้อย่างชัดเจน โดยที่บ่อยครั้งผมเสียมารยาทด้วยการแอบมองเข้าไปถึงห้องหับต่าง ๆ ในบริเวณบ้านของเค้า ถือว่าประเทศนี้เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์ความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับผมแล้วการได้เดินดู สัมผัส และเข้าถึงอะไรก็ตามที่แสดงออกถึงวัฒนธรรม ความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตของชาวพื้นเมืองถือเป็น Attraction อย่างหนึ่ง และก็เป็น attraction ที่ attractive มาก ๆ ซะด้วย ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้งผมค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มากกว่าสิ่งปลูกสร้างสวยงามใดๆที่ทำมาเพื่อล่อตาล่อใจนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว

หลังจากสำรวจบรรยากาศเมืองเก่าภายในเมืองดูบรอฟนิกแห่งนี้อย่างหนำใจแล้ว โปรแกรมต่อไปคือการสำรวจบริเวณรอบๆเมืองเก่า แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเมืองนี้มันถูกล้อมรอบด้วยทะเล ใช่แล้วครับการนั่งเรือออกไปคือคำตอบ การนั่งเรือชมวิวในเมืองนี้สามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถหาซื้อตั๋วได้จากเคาร์เตอร์ขายทัวร์บริเวณท่าเรือซึ่งมีให้เลือกเรียงรายหลายเจ้าหลายราคา ขึ้นอยู่กับงบประมาณและกิจกรรมที่ต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น Sea kayaking นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตก นั่งเรือไปเที่ยวและดำน้ำยังเกาะอื่น ๆ ส่วนพวกเราเลือกโปรแกรมนั่งเรือชมวิวชิว ๆ ตามประสาคนงบน้อย เพราะโปรแกรมนี้สนนราคาถูกที่สุด ถึงแม้บริษัททัวร์และใครหลาย ๆ คนจะแนะนำให้เรานั่งเรือออกไปเที่ยวยังเกาะอื่นๆ แต่เควินแอบบอกเราว่า ชายหาดที่สวยที่สุดของโครเอเชียอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ ซึ่งเราจะไปกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จึงปฏิเสธคำแนะนำบริษัททัวร์ไป

วิวเมืองเก่ามองจากภายนอกแล้ว อาจจะไม่สวยเท่ากับการได้เดินเล่นอยู่ข้างใน แต่ก็ให้บรรยากาศชิว ๆ ไปอีกแบบ คนขับเรือพาเราและสมาชิกคนอื่น ๆ บนเรือวนไปมุมโน้นทีมุมนั้นที แต่ผมก็ยังไม่เห็นถึงความแตกต่าง เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่กำแพงเมืองทึบ ๆ จะมีสวยงามก็แต่ภาพเห็นบ้านเรือนที่สร้างลดหลั่นกันไปตามไหล่เขาเท่านั้นเอง

ช่วงเย็นเรากลับเข้าไปในบริเวณเมืองเก่าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเก็บตกตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ที่เราอาจจะพลาดไปในช่วงกลางวัน โดยที่ผมตั้งใจจะกลับเข้าไปซื้อของที่ระลึกของเมืองนี้ด้วย หลายคนชอบสะสมของที่ระลึกจากประเทศต่าง ๆ บางคนเลือกที่จะส่งโปสการ์ดหาตัวเอง บางคนสะสมแก้วช๊อต บางคนสะสะมป้ายทะเบียนรถจำลอง บางคนสะสมพวงกุญแจ ส่วนของสะสมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วโลกคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากแม่เหล็กติดตู้เย็น คนที่รักการเดินทาง รักการท่องเที่ยว แล้วยังไม่รู้จะสะสมอะไร ผมแนะนำให้รีบหาสิ่งที่ตัวเองถูกใจที่สุดและสามารถหาซื้อหาเก็บได้จากทุกที่นะครับ ทีละเล็กทีละน้อย เมืองละชิ้นประเทศละอัน พอเอามารวมกันทีไรก็นึกสุขใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นของเหล่านั้น เป็นความอิ่มเอมใจที่หาที่ไหนไม่ได้จริง ๆ นอกจากตัวเราเอง

ช่วงค่ำพวกเราหาอะไรทาน ณ ร้านอาหารทะเลที่ตั้งอยู่ในตรอกลึก ๆ ซึ่งแทบจะไม่มีใครเดินมาถึง ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาอะไรทานง่าย ๆ แต่ก็ยังไม่รู้จะทานอะไรที่ร้านไหนดี ในขณะที่เดินผ่านเคาร์เตอร์ขายทัวร์ในตอนกลางวัน จึงรีบเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนขายตั๋วให้เรา ซึ่งได้เวลาเลิกงานพอดี จึงพาเราไปส่ง ณ ร้านอาหารดังกล่าว เจ้าหน้าที่แนะนำว่าร้านนี้เป็นร้านประจำของชาวโครเอเชีย สนนราคาสมเหตุสมผล นักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะรู้จัก มื้อเย็นในวันนี้เราจึงถือเป็นลาภปากอีกครั้งได้ทานอาหารทะเลสไตล์พื้นเมืองในราคาย่อมเยาวน์ (ติดตามตอนที่ 3 เร็ว ๆ นี้นะครับ)

ดูรูปเพิ่มเติมได้ที่ :>>> แบกเป้มาเล่า  By Panda

Create Date : 11 ธันวาคม 2555		1 comments
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 8:21:59 น.
Counter : 908 Pageviews.
Share Tweet