|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ประสบการณ์สอบ US Citizenship
ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน เยี่ยมถือกรีนการ์ดมาได้สองปีเศษๆ ก็ได้ข่าวว่าข้อสอบเค้าจะเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ แถมเยี่ยมเองอยากยื่นเรื่องซิติเซ่นชิปให้เสร็จไวๆ จะได้ทำอะไรสบายๆอย่างที่อยากทำเสียที ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องยื่นเรื่องซิติเซ่น (เป็นโรคจิตค่ะ ไม่ชอบอะไรค้างๆคาๆ จะหงุดหงิดกินเยอะ อ้วน!)
ทีนี้ ด้วยความที่เกรงว่าตัวเองจะคาใจและกินจนอ้วนไปมากกว่านี้ เลยนั่งนับวันนับคืนว่าตัวเองจะมีสิทธิ์ยื่นเรื่องขอซิติเซ่นชิปเมื่อไร นับๆๆๆ ทาง USCIS บอกว่าตัวเราจะยื่นเรื่องได้เมื่อเราถือกรีนการ์ดได้ห้าปีถ้าเป็นผู้อยู่ อาศัยในอเมริกา แต่สำหรับคนที่แต่งงานกับผู้มีสัญชาติอเมริกันก็ตั้งแต่ถือกรีนการ์ดมาครบ สามปีย้อนหลังไป 90 วันก่อนที่จะครบสามปีก็มีสิทธิ์ยื่นเรื่องได้แล้วล่ะ แฮ่ม
อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันนิด ว่าต้องนับตั้งแต่เราได้รับกรีนการ์ดนะคะ ไม่ใช่นับตั้งแต่เรามาถึงอเมริกา คือสมมติว่าเรามาถึงอเมริกาเดือนมกรา แต่เราเพิ่งได้กรีนการ์ดเดือนธันวา ก็ต้องนับตั้งแต่ธันวาไม่ใช่มกรา
ตัวเยี่ยมเองนั้น เป็นผู้ถือกรีนการ์ดตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 พอปี 2007 ปลายๆปีก็ได้กรีนการ์ดสิบปี มาถึงปลายปี 2008 ก็จะครบกำหนดการถือกรีนการ์ดมาสามปีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2008
นับ ย้อนหลังไปก่อนครบกำหนด 90 วัน แปลว่า เยี่ยมมีสิทธิ์ยื่นเรื่องขอซิติเซ่นชิปได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2008 แต่พอดีเดือนสิงหาค่อนข้างจะวุ่นๆก็เลยกว่าจะได้ฤกษ์ส่งก็เดือนกันยา วันที่ 10 ซึ่งเป็นวันพุธ
เก้าวันหลังจากนั้น ทาง USCIS ก็เอาเช็คไปขึ้นเงินค่ะ ไปแล้ว...เจ็ดร้อยกว่าเหรียญของดิฉัน...เป๋าเบาไปหลายวัน....ถ้าไม่ให้ดิฉัน ผ่านนะ จะโกรธจนวันตาย T_T
หลายวันผ่านไป...ก็มีจดหมายจาก USCIS แจ้งให้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ช่วงปลายเดือนตุลาค่ะ จำวันที่ไม่ได้ เอาคร่าวๆเนอะ
พอ วันที่ 4 ธันวาก็มีจดหมายส่งมาจาก USCIS ค่ะ แจ้งว่าให้เราไปสอบสัมภาษณ์ขอสัญชาติอเมริกันในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2009 เวลา 11.20 AM
กรี๊ดดดดดด ตื่นเต้นๆๆๆ ต้องรีบงัดคู่มือที่ USCIS ให้มามานั่งอ่าน เป็นเรื่องความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอเมริกาค่ะ ประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง ภูมิศาสตร์ ก็ไม่ได้ยากอะไร ถ้าอ่านไปยังไงก็สอบได้แน่นอนค่ะ
แต่ก่อนเค้าจะมีซีดีมาให้ฟังด้วย แต่ช่วงที่เยี่ยมยื่นนี่เค้าไม่แจกซีดีให้แล้วค่ะ นัยว่าเศรษฐกิจที่อเมริกาไม่ดี ตัดงบประมาณมั้ง (แต่ฉันจ่ายไปหลายร้อยเหรียญนะยะ ลงทุนหน่อยจิลุ้งงง)
ช่วงที่ยื่น นี่คือก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2008 ค่ะ มีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะสอบข้อสอบเก่าหรือใหม่ จริงๆเยี่ยมก็อ่านไปหมดแหละ นับไปนับมาอ่านได้ประมาณ 8 รอบเห็นจะได้ ท่องมันทุกค.ศ. แถมค้นๆๆว่าหมอนี่คือใคร John Adams คือใคร อีตา Patrick Henry คือใครทำอะไร เค้าไม่ได้ใส่ไว้ในหนังสือ แต่ก็โรคจิตอยากรู้ เอา Form N-400 ที่เราส่งไปแล้วแต่เซฟไว้ในคอมมาทวนอีก แล้วก็ปรินท์ไว้อีกหนึ่งชุดติดไปวันสัมภาษณ์ด้วย เผื่อจำเป็น
ก่อนวันไปสัมภาษณ์ก็เตรียมเอกสารไว้หลายอย่างค่ะ บางอันก็รู้ว่าไม่ต้องใช้ แต่ก็ติดไปด้วย อย่างบัญชีร่วม หรือบัตรทหารของสุดหล่อ (แ๋ฮ่ม เผื่อเจ้าตัวแอบมาอ่านค่ะ)
แต่ที่ต้องใช้แน่ๆ ห้ามลืมคือกรีนการ์ด พาสปอร์ต แล้วก็ ID card ของเรานะคะ เอกสารที่ควรจะเตรียมไปเพิ่มก็คือหลักฐานแสดงความเป็นอเมริกันของคู่สมรส อย่างพาสปอร์ตหรือ Naturalization Certificate ของเค้าน่ะค่ะ แล้วก็ใบทะเบียนสมรส
คืนก่อนวันสัมภาษณ์ ไม่รู้ตื่นเต้นหรือกังวลกลัวไม่ตื่นค่ะ นอนไม่หลับเล้ยยยย แย่มากๆ พอได้เวลาก็เลยเตรียมตัวออกจากบ้านแต่เช้า แต่ก็ไม่ให้ไปถึงก่อนเวลามากค่ะ เพราะเค้าแจ้งมาว่าสถานที่มีจำกัด ไม่ควรมาถึงก่อนเวลานานกว่า 30 นาที แต่ถ้าเราไปเร็วเราก็จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไปสายน่ะค่ะ ก็ควรเผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อย ไปเดินเล่นข้างนอกก็ได้นะคะ
ไปถึงที่ ตืกประมาณ 10.45 AM ผ่าน security check แล้วเยี่ยมก็ไปที่ห้องนัดหมายค่ะ เอาใบนัดกับกรีนการ์ดไปยื่นให้เค้าเค้าจะได้รู้ว่าเรามาถึงแล้ว แล้วเค้าก็ส่งกรีนการ์ดคืนมาให้ค่ะ
พอได้เวลา 11.40 น. ก็มีผู้ชายมายืนเรียกชื่อค่ะ อูยยยย เวลาที่รอคอยมาถึงแล้ว....
ไป ถึงที่ห้องอย่าเพิ่งรีบนั่งนะคะ คนสัมภาษณ์เค้าจะให้เรายืนยกมือขวาขึ้น ประมาณให้คำสัตย์ว่าเราจะตอบคำถามตรงตามความเป็นจริงทุกอย่างน่ะค่ะ (อ่า หมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับเรานะคะ ถ้าตอบคำถามเกี่ยวกับอเมริกาผิดก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ต้องเครียด) เสร็จแล้วเค้าก็จะอนุญาตให้เรานั่งค่ะ ก็นั่งสบายๆนะคะ
คำถามแรกที่เค้าถามเยี่ยมก็คือ จะเลือกข้อสอบใหม่หรือเก่าค่ะ
แหง แบบเก่ามันง่ายดี ก็เลือกแบบเก่าสิคะ แต่แบบใหม่ก็ไม่ยากอะไรนะ ไม่ต้องกังวล ถ้าอ่านไปยังไงก็ตอบได้แน่
เค้า ก็...ดีครับ เพราะมันก็ง่ายสำหรับผมด้วย... คงจะติ๊กๆอะไรง่ายกว่านั่นแหละค่ะ แต่เค้าก็บอกนะคะว่าแบบใหม่ก็ไม่ต่างจากแบบเ่ก่าเท่าไรหรอก มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นนิดดดเดียวเอง
ก็ถามเรื่องทั่วๆไปของเมกาค่ะ เอาเท่าที่จำได้นะคะ
-ธงอเมริกันมีสีอะไรมั่ง
-แถบบนธงอเมริกันหมายถึงอะไร
-ประเทศอเมริกาประกาศอิสรภาพเมื่อไร
-รัฐธรรมนูญเขียนขึ้นเมื่อไร
-ใครเป็นประธานาธิบดีช่วง civil war
-รัฐที่ 50 ของอเมริกาคือรัฐอะไร
ถาม แค่หกคำถามเท่านั้นค่ะ แล้วเยี่ยมตอบถูกหมดเค้าก็โอเค หยุดถาม จริงๆเค้าเตรียมไว้สิบคำถาม เพราะฉะนั้นถ้าตอบผิดบ้างก็ไม่ต้องตกใจนะคะ มีโอกาสตอบผิดได้สี่ข้อ บางที่เค้าอาจจะถามทั้งสิบข้อก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่ที่นี่เค้าคงไม่อยากเห็นเยี่ยมเสนอหน้านาน เพราะเห็นหน้าแล้วเค้าคงอยากกินซาลาเปาน่ะค่ะ ^^"
เสร็จแล้วเค้าก็บอกให้เราอ่านภาษาอังกฤษในกระดาษคำถามของเค้านั่นแหละค่ะ จะดูว่าเราอ่านอังกฤษออกไหม ก็อ่านไปนะคะ ศัพท์ง่ายๆ
แล้ว เค้าก็บอกให้เขียนประโยคภาษาอังกฤษค่ะ อย่างของลินดานี่เค้าให้เขียนคำว่า "I go to work everyday." ง่ายใช่ไหมล่ะคะ ปกติเค้าก็ให้เขียนประมาณนี้แหละ ง่ายๆ
แล้วเค้าก็ถามเรื่องที่เราตอบในฟอร์ม N-400 ก็ส่วนใหญ่ก็เป็นคำถาม yes-no อยู่แล้ว ก็ตอบไปตามที่เรากรอกนะคะ ก็ไม่ได้ยากอะไร
แล้ว ท้ายที่สุด เค้าก็บอกว่า Congratulations แล้วก็ให้ใบนัดเราค่ะ แจ้งว่า Oath Ceremony เมื่อไร ให้เราไปทำพิธีสาบานตน อย่างของเยี่ยมนี่มีพิธีสาบานตนวันเดียวกันเลย ตอน 3 PM เค้าก็ถามว่าเราจะไปตอนบ่ายนี้เลยไหม ก็แหงสิคะ ดิฉันก็ต้องเซย์ YES อยู่แล้ว กรี๊ดๆๆๆ วันเดียวกันเลย จะเสร็จเรื่องแล้ว อีกนิดเดียว
ในใบนัดด้านหลังก็จะมีคำถามให้ติ๊กนิดหน่อย ประมาณว่านับจากที่เราสัมภาษณ์จนถึงวันสาบานตนนี่เราได้แต่งงานไหม ได้ก่ออาชญากรรมอะไรไหม แล้วก็ให้ลงชื่อ พร้อมที่อยู่ค่ะ
อย่างของเยี่ยมนี่มันวันเดียวกันเลย จะให้ไปทำอะไรช่วงระหว่างไม่กี่ชม.นี่มันยากกกก ดังนั้นคำถามทุกข้อก็เลยตอบ No หมดค่ะ ฟอร์มอันนี้ต้องส่งให้เจ้าหน้าที่ในพิธีสาบานตนนะคะ ติ๊กๆแล้วเซ็นให้เรียบร้อย
พอบ่าย 2.45 PM เยี่ยมก็กลับไปที่ตึกค่ะ ไปห้อง 101 (สัมภาษณ์ห้อง 103) นั่งรอในห้องพร้อมคนอื่นอีกรวมๆกันได้ประมาณ 50 คนค่ะ
พอ บ่ายสามหน่อยๆ ประมาณ 3.10 PM ก็มีเจ้าหน้าที่มาพาพวกเราไปที่ชั้นเจ็ดค่ะ เข้าแถวเรียงหนึ่ง ขึ้นลิฟท์ไปเป็นกลุ่มๆ ไปที่ห้องสาบานตน
พอไปถึง หาที่นั่งนะคะ แล้วสักพักพอคนทยอยมาหมด เจ้าหน้าที่ก็มาเรียกให้ไปเข้าแถว เยี่ยมโชคดีนั่งตรงที่เค้าให้ไปเข้าแถวก่อนค่ะ เลยได้ไปยืนในแถวเป็นคนที่สอง เตรียมกรีนการ์ดให้พร้อมนะคะเพราะเค้าจะให้เรายื่นกรีนการ์ดตอนนี้แล้วก็จะ ยึดไปเลยค่ะ แล้วก็จะให้ package เรามา มีสาส์นของปธน.คนปัจจุบันแสดงความยินดีที่เราได้เป็นประชากรใหม่ของอเมริกา แล้ว กระดาษสาบานตน รัฐธรรมนูญของอเมริกา The citizen's almanac ก็เป็นหนังสือเกียวกับอเมริกาน่ะค่ะ มีเขียนเกี่ยวกับพวกสิทธิของชาวอเมริกัน สุนทรพจน์ที่ำสำคัญๆของผู้นำเก่าๆ Mayflower Compact, the declaration of independence อะไรพวกนี้น่ะค่ะ แล้วก็ให้เรากลับไปนั่งที่ รอเค้าเรียกชื่อค่ะ ช่วงนี้เค้าก็จะเปิดวีดีโอคำแสดงความยินดีจากประธานาธิบดี เพลง Proud to be an American ค่ะ (ส่วนตัวชองเพลงนี้มากๆ ยิ่งดูภาพในวีดีโอยิ่งซึ้ง)
รอๆ ไปได้สักพัก ก็มาถึงนาทีสำคัญค่ะ ตอนที่เค้าประกาศชื่อให้เราไปรับ Naturalization Certificate แสดงตัวเราเป็นชาวอเมริกันโดยสมบูรณ์ค่า เย้ๆ กระดาษใบสำคัญมาอยู่ในมือแล้ว พร้อมรูปสวยๆ ที่เราส่งให้เค้าตอนยื่น form N-400 นะคะ ในรูปนี้ให้ยิ้มสวยๆนะคะ เวลารับใบประกาศจะได้เป็นการแสดงความยินดีกับตัวเองไง้
พอรับใบ ประกาศกันครบทุกคน เค้าก็จะให้เรายืนขึ้น ยกมือขวาสาบานตน อ่านคำสาบานตามที่เค้าเขียนไว้ในกระดาษที่ให้มาใน package นั่นแหละค่ะ อ่านทันบ้างไม่ทันบ้างไม่เป็นไรค่ะ เค้าไม่ซีเรียส
จบพิธีแล้ว เย้ เป็นอเมริกันเต็มตัวแล้วค่าาาา อังกฤษได้มั่งไม่ได้มั่งช่างมันเฮอะ -_-" 555 ก็เป็นกะเหรี่ยงอเมริกันน่ะค่ะ แต่ยังไงก็เมกันเนอะ
ตอนนี้เค้า ก็ให้ถ่ายรูปได้ค่ะ แต่ถ่ายได้เฉพาะในห้องสาบานตนนะคะ เพราะที่ทำงานรัฐบาลเค้าจะระวังเรื่อง security มากๆค่ะ แต่ในห้องก็เต็มที่เลยค่ะ เตรียมกล้องไปด้วย ยิ้มมมมมมสวยๆนะคะ
Yeah!!! ยินดีล่วงหน้ากับซิติเซ่นคนใหม่ด้วยค่า เตรียมเรื่องเอกสารให้พร้อม ตั้งใจอ่านหนังสือนะคะ ทุกคนสอบผ่านอยู่แล้ว ;)
ปล. ยาวเนอะ พอดีเขียนเก็บไว้ให้ตัวเองอ่านด้วยน่ะค่ะ เลยอยากเก็บไว้ทุกช็อต ขอโทษนะค้าา
Create Date : 28 มีนาคม 2552 |
|
9 comments |
Last Update : 28 มีนาคม 2552 3:48:22 น. |
Counter : 1220 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: amskye 28 มีนาคม 2552 4:37:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: namfonJC 28 มีนาคม 2552 10:29:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เยี่ยมจริงๆเลยค่ะคุณนายแอนดรู IP: 173.69.174.73 28 มีนาคม 2552 11:51:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Just_Winter IP: 151.32.53.124 31 มีนาคม 2552 15:33:34 น. |
|
|
|
|
|
|
เยี่ยมจริงๆเลยค่ะคุณนายแอนดรู
|
|
|
|
|
|