ตัวก่อการร้าย

            จากเหตุการณ์เมื่อวันนั้นทำให้ผมกลับมานั่งครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดที่เป็นสาเหตุของรถล้มคราวนั้นหรือว่ามันจะเป็นเพราะเราขับรถไม่ดีเอง ประมาทเลยทำให้ล้ม ไม่ๆๆๆ ไม่ใช่แน่ๆเพราะมีคนพูดไว้ ถ้าทำซ้ำๆเกิน10ปี จะกลายเป็นอัจฉริยะในเรื่องนั้น เราก็ขับมา 20กว่าปีแล้ว เรามันดับเบิ้ลอัจฉริยะ แล้วต้องไม่ใช่เราแน่ๆที่เป็นต้นเหตุ

             งั้นเป็นเพราะเจ้ามอไซด์คันเก่งของเราเหรอไม่นะเพราะว่ามันก็คงไม่อย่างไปนอนวัดพื้นให้เสียโฉมหรอก ยางล้อก็เพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็เพิ่งถ่าย แถมหลังจากล้มก็ยังขับได้เป็นปรกติดี มีแค่แผลถลอกทำให้เสียโฉมนิดหน่อย

            หรือว่าเป็นเพราะเจ้าน้ำมันเครื่องที่ถนนที่เป็นต้นเหตุทำให้เราล้มแต่มันก็อยู่ของมันเฉยๆ และมันคงไม่อยากโดนรถเหยียบหรอก

           แล้วอะไรล่ะคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ???????

            คิด คิด คิด ใช่แล้ว.....ถ้าเราไม่ขี่รถมาทำงานเราก็รถไม่ล้ม

            โง่ซะนาน แค่เหตุผลง่ายทำไมนึกไม่ออก

แค่เราไม่ขี่รถมาทำงานมันก็ไม่เกิดขึ้นแล้ว เรานิมันช่างฉลาดจริงๆ

แต่...แล้วเราทำไมต้องขี่รถมาทำงาน ก็มาทำงานแล้วได้เงินนิน่า

             แล้วทำไมต้องอยากได้เงินล่ะ ก็เพราะอยากได้เงินมาซื้อของ อยากสวยอยากหล่อ อยากมีรถ อยากมีบ้าน อยากไปเที่ยว อยาก อยาก อยาก อยาก

โฮ้โห ทำไมมันอยากมากมายขนาดนี้ ก็ต้องทำงานไปทั้งชีวิตเลยดิ โอ้วววว แค่คิดก็สยองแล้ว

อยากเกิดขึ้นทุกวัน แต่โชคดีใช้ทีเดียวก็หมดไปแล้วมันคุ้มค่ากันมั้ยเนี่ยะ

             ในที่สุดผมก็ต้องมานั้งคิดว่าเราจะมีวิธีจัดการเจ้าตัวอยากนิได้อย่างไรเพราะสาเหตุทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นมานั้นเพราะ ตัวก่อการร้ายที่มีชื่อว่าความยาก ในตัวเรานิเอง

             ซึ่ง ความอยากมันมันแอบอยู่แนบชิดกับตัวเราเหมือนญาติสนิทโดยที่เราไม่รู้ตัว

             โดยปกติคนเราเมื่อเกิดปัญหาเราก็พาลไปโทษ โชคร้ายจัง ดวงซวยจริงน่าสงสารเจ้า โชคกับเจ้าดวงจัง ที่มีอะไรๆ ก็มาลงที่กู โดยลืมและมองข้ามเจ้าตัวอันตรายนี้ไป

              แล้วเราจะมีวิธีจัดการกับมันบ้างมั้ย

...ลองค้นหาในกูเกิล ก็ไม่เห็นมีใครมาโพสวิธีจัดการกับมัน

             ลองไปค้นหาที่ห้องสมุด ก็ไม่เจอหนังสือการจัดการกับมัน

ลองไปถามคนแก่ ท่านก็บอกกลับมาว่าไม่รู้

แล้วจะทำยังงัยกับมันดีสลัดก็ไม่หลุด ไล่ก็ไป ด่าก็ไม่สลด ตัดก็ไม่ขาด

กราบอ้อนวอนไม่ก็ไม่สน “- -

            เฮ้อ....ไหนๆก็ไล่ไม่ไป ทำยังงัยๆเจ้าตัวร้ายมันก็ยังคงพิศวาสในตัวเราอยู่ดี

             เมื่อเราต้องยอมรับและเรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับมัน คุณเคยเจรจากับความอยากบ้างมั้ย

             ถ้าไม่คุณต้องเริ่มคิดที่จะเจรจากับมันดูสักครั้ง

ดังนั้นถ้าใครขาดทักษะในการเจรจา รีบหาคอร์สอบรมอย่างเร่งด่วนเลยครับ

คอร์สอบรมในการเจรจามีเยอะแยะมากมาย

แต่ถ้าคุณเจอคอร์สไหนที่บอกว่า  การเจรจาแบบ win win

จงมองข้ามมันไปเพราะ การเจรจา ไม่มีไม่มีอะไรที่win win

เพื่อเป็นการให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมจะยกตัวอย่างให้ดู เช่น

เวลาไปซื้อของ ราคา 100 บาท คุณต่อราคาแม่ค้า ถ้าคุณต่อราคาเหลือ 90คุณคิดว่าใคร win

ดูๆแล้วมันก็ win win ทั้ง2ฝ่ายสิไม่เห็นมีไรเลย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเรามาคิดดีๆ

กรณีที่1 ถ้าของนั้นราคา 50 บาทละ ใคร win แน่นอนต้องแม่ค้า เพราะซื้อของมาราคา 50บาทแต่ขายได้ 90 กำไรเหนาะๆ 40 บาท

กรณีที่2 ถ้าของนั้นต้นทุนสูงมากราคา 70 บาท คุณต่อเหลือ 90 บาท ใคร winแน่นอนคราวนี้คุณ win เพราะได้ของดีราคาถูก แต่แม่ค้าคงไม่รู้สึก win ด้วยเพราะต้องขายด้วยราคาที่ได้กำไรไม่พอค่ารถเมล์ด้วยซ้ำ

ดังนั้นการเจรจาต่อรองไม่มีคำว่า win win ครับมีแต่ไม่แพ้ ก็ชนะเท่านั้น

ถ้าคุณอยากเป็นผู้ชนะ จงหาหลักสูตรที่บอกว่าคุณจะเป็นผู้ชนะ หาคอร์สที่เจรจาชนะแน่100%

เอาละครับคุณเคยเจรจากับความอยากในตัวคุณบ้างมั้ย

อยากสวย อยากรวย อยากมีแฟนดีๆ อยากมีรถ

ถ้าไม่...คุณกำลังจะตกเป็นทาสของมันแล้ว ผมขอแสดงความเสียใจมา ณ.ที่นี้

แต่ยังไม่สายครับ ที่คุณจะเริ่มพูดคุย และเจรจากับมัน

อยากสวยเหมือนคนอื่นจังเลย

สวยแบบธรรมชาติ หรือสวยจากข้างในดีกว่าเพราะยังยืน แถมไม่เสียเงินด้วย

อยากรวยเร็วเหมือนคนอื่น

ขอแค่มีกินไม่อดอยาก มีกิน มีใช้ มีเก็บบ้าง คนอื่นแย่กว่าเราตั้งเยอะแยะยังอยู่ได้เลย

เมื่อไรที่อยากมีแฟนดีๆ

โลกนี้ไม่มีหรอกครับคนดีๆ มีแค่คนที่พอดีและดีพอสำหรับเราเพราะทุกคนมีข้อเสียในตัวทุกคนอยู่ที่ว่าเรายอมรับได้แค่ไหนเท่านั้นเอง

ถ้าเมื่อไรอยากมีรถ

อยากมีเหมือนกัน แต่ขอเก็บเงินก่อนนะไม่อยากเป็นหนี้ไม่อยากเสียดอก มีเงินสดเมื่อไรจะซื้อเลย แต่ตอนนี้นั่งรถเมล์ก่อนนะ

ลองคุยกับตัวเอง อย่าตกเป็นทาสความอยาก ไม่เช่นนั้นชีวิตจะลำบาก

Create Date : 29 มีนาคม 2557 Last Update : 29 มีนาคม 2557 11:16:02 น. Counter : 563 Pageviews.		0 comments
Share Tweet