Balance Life (ชีวิตต้องพอดี)
 ชีวิตคนเราต้องการอะไรบ้างจากชีวิตที่มีอยู่ 21900 วัน หรือ 525600 ชั่วโมง ผมก็เป็นเหมือนคนธรรมดาๆ ทั่วไปที่ต้องการมีชีวิตที่มีความสุข เป็นที่ยอมรับ อยู่เพื่อให้คนอิจฉา พยายามหาอ่านหนังสือมากมายที่บอกถึงอิสระของชีวิต อิสระของการเงิน เมื่อมีแล้วคุณจะมีความสุข แต่ชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายเหมือนกันทุกคน และจะมีบ้างมั้ยที่ใครสักคนจะเขียนหนังสือ หรือมีหนังสือเล่มไหนที่บอกวิธีการใช้ชีวิตที่มีความสุข และมีอิสระบ้าง มีแต่บอกว่าเมื่อคุณมีอิสระจากการเงินคุณก็จะมีความสุข คุณทำงานที่รักคุณก็จะมีความสุข แต่แล้ววันนึงผมก็พบว่าสิ่งที่ผมทำ ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานคร่ำเคร่งทั้งงานราษฎ์งานหลวง หาทางเพื่อจะได้เงินเยอะๆ พอกลับบ้านก็ทำงานจนถึง 5 ทุ่มเที่ยงคืนเพียงเพื่อคำว่าอิสระทางการเงินอย่างที่เค้านิยมกัน และแล้วมันก็เกิดสิ่งที่ทำให้ความคิดของผมแปรเปลี่ยนโดยทันใด

            เมื่อวันนั้นวันที่ 19 มีนาคม 2557 เวลา 07.40 น. ของทุกวันผมจะขับรถตามเส้นทางเดิมๆ แบบเดิมๆ ความระมัดระวังเหมือนเดิม ขับช้าๆเพื่อความปลอดภัยเหมือนเดิม ผมก็พบว่าทางโค้งบนสะพานกลับรถด้านหน้าที่ผมกำลังจะผ่านมันมีคราบของน้ำมันเครื่องอยู่ และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทำไมรถมันค่อยๆเอียงลง ลง ลง ในที่สุดรถมอเตอร์ไซด์ และเจ้าของมอเตอร์ไซด์ก็ล้มลง และไถลไปกับพื้น ภาพทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง สโลว์โมว์ชั่น ตุ๊บ ตึ้ง วิ้ง วิ๊ว รถยนต์ วิ่งเฉียวหัวไปดัง ฟิ้วคันแล้วคันเล่า เสี้ยววินาทีชีวิตผ่านไป เหมือนนานมาก พอสติกลับมาเอ่อ...เราไม่เป็นไรมากนิหว่า โอเคไปยกมอเตอร์ไซด์ขึ้นมาเข็นไปจอดข้างทางก่อน และสำรวจความเสียหายของร่างกาย และรถมอเตอร์ไซด์

                  โชคดีเนอะที่ไม่เป็นไรมาก

                  โชคดีเนอะที่เราขี่มาช้าๆ

                  โชคดีเนอะที่รถคันหลังไม่เหยียบเรา

                  โชคดีเนอะที่วันนี้เอามอเตอร์ไซด์คันเล็กมา (ถ้าคันใหญ่คงจะเสียหายหนักกว่านี้)

                  โชคดีเนอะที่ไม่ไปชนคนอื่นๆ

                  โชคดีเนออออออะ แล้วโชคดีของผมมันจะเหลือเท่าไรเนี่ยะ


              ผมใช้ไปเยอะมากในครั้งนี้ แล้วจะเก็บสะสมความโชคดีเพิ่มจากที่ไหน ที่ไหนมีขายบ้างความโชคดีเนี่ยะ เฮ้อคิดแล้วเศร้า ก็มันไม่มีขาย สักวันความโชคดีของผมคงต้องหมดไป ทั้งๆที่ผมระมัดระวังแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิดได้เสมอ

             แล้วสิ่งที่เราพยายามทำอยู่ทุกวัน เราจะได้ใช้เหรอ อิสระจากการทำงาน อิสระจากการเงิน มันจะกลายเป็นอิสระชีวิต หรือหมดชีวิตไปนะสิ เฮ้อ คิดแล้วเครียด แล้วจะทำยังงัยกับชีวิตต่อไป เมื่อแนวคิดอิสระทางการเงิน ถูกช่วงชิงไปแล้วเมื่อเช้าวันนั้น แล้วผมก็ต้องกลับมานั่งครุ่นคิดถึงการใช้ชีวิตของคนเราอีกครั้ง ผมจะดำเนินชีวิตโดยใช้แนวคิดแบบไหนมันถึงจะดี จะเหมาะ แล้วต้องทำยังงัย ต้องทำอย่างไร แล้วเราต้องการอะไร โอ๊ยๆๆ ????? เต็มหัวไปหมด

            ทำไมต้องดิ้นรนมากมายเพื่อคำว่าอิสระทางการเงิน แล้วเมื่อไรเราจะมีความสุขล่ะ แล้วระหว่างที่เราหาอิสระทางการเงินเพื่อมีความสุขในอนาคต เรามีความสุขกับมันมั้ย คนรอบข้างมีความสุขกับเรามั้ย แล้วถ้าพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นเราจะได้ใช้คำว่าอิสระมั้ย

            แล้วทำไมเราไม่หาทางใช้ชีวิตที่มีความสุขบนแนวทางที่มุ่งไปสู่อิสระล่ะ อาจจะช้าแต่เราก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และคุ้มค่าแล้ว ถ้าเกิดไรขึ้นจะได้มานั่งนึกเสียดาย หนังสือหลายเล่ม และหลายต่อหลายเล่มบอกว่าก่อนที่คุณจะมีความสุข มีอิสระ คุณต้องลำบาก ชีวิตติดลบ รันทดมาก่อนทั้งนั้น ถ้าเราทำให้มันมีความสุข เพื่อไปสู่อิสระล่ะมันจะดีกว่ามั้ย ผมว่าดีกว่าแน่ๆ เพราะชีวิตแต่ละวันของคุณจะมีความหมาย มีความสุข และมีคุณค่า คุณจะลืมเรื่องระยะทาง ระยะเวลาที่คุณต้องใช้เพื่อไปสู่เป้าหมายที่คุณอยากได้คืออิสระ  ยิ่งคุณเริ่มเร็ว อิสระก็มาเร็ว ชีวิตคุณก็มีคุณค่ามีความหมาย และมีความสุขอีกด้วย ผมจึงนิยามความเส้นทาง ขั้นตอนที่เราจะสามารถเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย และทรงคุณค่าเพื่อไปสู่เป้าหมายของเรา อิสรภาพพพพพพพพ


ขั้นแรก  เรามองหาสิ่งที่จะทำให้เรามีอิสระก่อน แต่สิ่งนั้นมันต้องทำให้คุณมีความสุขด้วย

           ค้นๆๆหาๆๆๆ ในที่สุดผมก็พบ ผมชอบถ่ายรูป ชอบอะไรที่คิด เสี่ยงนิดๆได้ผลตอบแทนทันที แบบว่ามันส์นะ ก็เลยตกลงปลงใจ กับขายรูปออนไลน์ และเล่นหุ้น สองตัวนี้แหละน่าจะช่วยผมหลุดออกจากงานประจำได้ และมีอิสรภาพที่แท้จริงได้ ดังนั้นจึงต้องแอบทำไปพร้อมๆกับงานประจำ แต่งานประจำคุณต้องไม่ละเลยนะครับ ไม่งั้นมีเฮ้.... 555  ถ้าคุณทำได้ คุณก็เป็นคนเก่งคนนึงแล้วครับ ไม่ต้องรอให้ใครชม คุณชมตัวเองได้เลยครับ เพราะหายากครับคนที่ทำงานประจำได้ดีไปพร้อมกับงานส่วนตัวได้ดีเนี่ยะ สู้ๆๆ

ขั้นที่สอง   อย่าหมกมุ่นกับมัน แต่ให้สนุกกับมัน อย่าให้มันเป็นเจ้านายคุณ คุณต้องเป็นเจ้านายมัน

            หลังจากที่ผมหมกมุ่นกับการขายรูปออนไลน์ ทุกลมหายใจ ทุกเวลาว่าง แอบทำที่ทำงาน กลับบ้านไม่ไล่ไม่นอน  ผมจึงค่อยๆลดๆๆๆ ให้มันพอดีกับชีวิต Relax Relax

            หุ้น ที่ผมพยายามจะเป็นเซียนหุ้น ทั้งที่เป็นได้แค่แมงเม่า พยายามหาวิธีที่ทำกำไรให้ได้เงินมากๆ ในแต่ละครั้ง ก็ยิ่งแย่ไปทุกที แมงเม่ามีหรือจะกลายเป็นพญาอินทรี ฉะนั้นเราต้องทำตัวให้เป็นแมงเม่า ที่เป็นพญาเม่าครับ >.<

           โดยการเทรดของผมเปลี่ยนเป็น แบ่งเงินเป็น 2 กอง กองที่หนึ่งเอาไปลงทุนหุ้นที่พื้นฐานดีและมั่นใจว่าโอกาสเจ๊งจะน้อยไม่ว่าจะมีวิกฤตขนาดไหน เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ ส่วนอีกกองที่สอง เอาไปเล่นลงทุนแบบสนุก Day Trade แต่ไม่เล่นหุ้นปั่นนะครับ เพราะยังงัยผมก็ยังเป็นแมงเม่าอยู่ไม่หาญไปสู่กับพญาอินทรี ดังนั้นการเล่น Day Trade จะเลือกหุ้นพื้นฐานดีๆ หุ้นที่มีความต้องการซื้อขายช่วงนั้น และก็จับเอาที่ราคาตกมาจุด สองจุด รอมันขึ้นจุดสองจุดก็เท ขาย เอากำไรนิดๆหน่อยๆเป็นค่าข้าวในแต่ละวัน ถ้าโชคดีหน่อยก็ได้ค่าบ้านเลย 555

ขั้นที่สาม   ให้เวลา และแบ่งความสุขให้กับคนรอบข้าง และคนที่คุณรัก

            อย่าคิดว่าไม่สำคัญต่อการก้าวสู่อิสระภาพนะครับ เพราะถ้าคุณมีความสุขอยู่คนเดียว โดยไม่เพื่อแผ่คนรอบข้าง ดูคุณจะใจดำไปหน่อยมั้ย แล้วเวลาคุณประสบความสำเร็จใครจะมายินดีกับคุณ คุณก็เฮ....อยู่คนเดียว มันดูไม่ค่อยดีนะผมว่า  และ ถ้าคนรอบข้างคุณมีแต่ความทุกข์ คุณจะมีความสุขได้เหรอ ฉะนั้นคุณต้องแบ่งเวลาแบ่งความสุขให้คนที่อยู่ข้างคุณบ้าง ผมเลยจัดซะเลย เที่ยวทุกวันอาทิตย์ กินข้าวเย็นกับครอบครัวบ้าง ไปหาอะไรอร่อยเติมใส่กระเพาะบ้าง ชวนกันร้องเพลงคาราโอเกะด้วยกันไรแบบนี้ อย่ามั่วแต่ประหยัดๆ เพื่ออิสระทางกรเงิน และความสุขในอนาคตเลยครับ ถ้าปัจจุบันคุณยังไม่สุข อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน

ขั้นที่สี่ เป็นขั้นที่ยากกที่สุดนั่นคือ คุณต้องทำสามข้อข้างบนให้สม่ำเสมอ

          เค้าบอกว่าคนเราทำซ้ำๆ 30 วัน จะทำเป็นนิสัย
          1 ปีคุณจะเป็นคนเก่งในเรื่องนั้น  
          5 ปีคุณจะเป็น Professional
        10 ปีคุณจะเป็นอัจฉริยะ

        ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือความมั่นคง ขยัน อดทน

           เอาละครับหลังจากนผ่านสี่ขั้นตอนเพื่อ Balance life แต่ยังมี 3 อย่า ที่ต้องทำเพื่อ Balance life ด้วย

         อย่าประหยัดอดออมจนอดยาก
                แค่คุณไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หรือซื้อบ้างพอสมควร คุณรู้ว่าอะไรคือหนี้สิน อะไรคือสินทรัพย์

        อย่าหมกมุ่นกับการลงทุนจนทุนจม
                 ผมเห็นหลายคนที่เลียนแบบทำตามบุคคลที่ประสบความสำเร็จ แล้วเอามาเขียนหนังสือ แต่อยากจะบอกว่าคนเราต้นทุนชีวิตไม่เหมือนกัน คุณเคยเห็น Robert T. Kiyosaki 2 คนมั้ยครับ แต่คนที่เอาแนวความคิดของเค้ามาใช้และปรับปรุงเป็นของตัวเองและประสบความสำเร็จมีครับ ดังนั้น อ่านได้แต่อย่าลอกเลียนแบบ คิดให้ต่างในแบบที่เหมาะสมกับเราดีที่สุด

       อย่าละเลยความสุขในปัจจุบันเพื่อความสุขในอนาคต
               ผมว่าแรงผลักดันที่ดีที่สุดคือการที่คุณมีความสุขกับปัจจุบันเพื่อก้าวเดินสู่อนาคต หนังสือหลายต่อหลายเล่ม ที่ผมอ่านมามีแต่ให้พลังแห่งความอดยาก ความท้อแท้  ความผิดพลาด ความอยากได้ และนำมันไปผูกกับอนาคตเป็นพลังในการขับเคลื่อน
สิ่งที่เขียนขึ้นมานี้หวังเพียงว่าในจะมีประโยชน์บ้างสำหรับคนหลายๆ คนที่กำลังค้นหาความหมายของชีวิต ดิ้นรนเพื่ออิสรภาพ ลองหยุดหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ว่ากว่าที่คุณจะได้สิ่งนั้นมาคุณลืมหรือเหยียบย่ำอะไรมาบ้าง มันดีจริงเหรอ ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องวางแผนชีวิตคุณให้ดีเพื่อรองรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตให้ได้



Create Date : 28 มีนาคม 2557
Last Update : 28 มีนาคม 2557 11:22:42 น.
Counter : 635 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

การเดินทางของผู้ชายตัวใหญ่
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มีนาคม 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
30
31