แก้มใส 1.11 ขวบ เข้าสู่ช่วง ฝึก ฝึก ฝึก




แก้มใส 1.11 ขวบแล้วนะคร๊าบ พี่น้องคร๊าบ
รวดเร็วอิกแล้วเดือนหน้ากำลังจะเป็นเด็ก 2 ขวบแล้ว


ไวเนอะ !!!! ก่อน 2 ขวบ มีเรื่องเล่าจากคุณยาย เมื่อเธอเป็นไอ้เด็กขี้ฟ้อง



ยายถามน้องแก้มว่า แม่ตียังไง แก้มใสทำท่าเอามือตีตรูดตัวเอง แล้วก็
บอกว่า " แม่ตี แม่ตี " ยายบอกว่าขำใหญ่เลย ขำตรงที่คุณเธอทำท่านี่แหละ

ก็เวลาแม่บอกอะไรไม่ฟังแม่เลย เลยต้องโดนตี
ตีลูกทีก็เอายาตรงที่โดนตี เอาแป้งมาทาให้ตอนเค้าหลับ มันก็น่าสงสารอยู่หรอก
แต่มันอดไม่ได้จิงๆ คือเหนื่อยๆก็มาเจอเด็กดื้อ มันก็ต้องโดนบ้าง ไรบ้างแหละ


เรื่องตี ถ้าดุเฉยๆ คุณเธอจะไม่เป็นไร เล่นต่อ
แต่ถ้าโมโห มากๆ เราจะถือไม่แขวนเสื้อ ถ้าคุณเธอเห็นคุณเธอจะรีบทำตามคำสั่งทันที รุ่นนี้ ตีจิง ไม่ได้ล้อเล่นนะจะบอกให้ หึหึ





แต่ถ้าใครเป็นเด็กดี เด๋วเดือนหน้า 2 ขวบจะพาไปเที่ยวหัวหิน จองโรงแรมไว้เรียบร้อย อิอิ

เรื่องเที่ยวไว แต่ไวน้อยกว่าเรื่องกิน


เดือนนี้แก้มใส เข้าสู่วัย 1.11 ขวบ
เริ่มโตมากๆเลย ใช้อะไรรู้เรื่องหมด ถึงแม้จะสื่อสารได้บ้าง
ไมได้บ้างแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เรียกว่าเก่งแระกัน





เรื่องที่น่ายินดีเรื่องที่ 1 นั่นคือแก้มใส เลิกแพมเพิสในช่วงระหว่างวันได้แล้ว


ความจริงเรื่องการเลิก แพมเพิร์ส เราก็ไม่ได้จริงจังนะ
คือค่อยๆฝึกเค้าไป ช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ใส่ให้เลย
บอกเค้าถ้าเค้าปวดให้เค้าบอก ว่าปวดฉี่นะ

แรกๆก็ฉี่แล้วค่อยบอกแต่หลังๆ ไม่ทันได้ปวดเราก็พาไปนั่งฉี่เลย
ก็ฉี่ไม่ออกหรอก แต่หลังๆไป เวลาให้เค้าฉี่ก็ ทำเสียง ฉี่ๆๆ ด้วย

สักพักก็ออก พอไปๆมาๆ ไม่ได้ปวดก็หลอกว่าฉี่ เพราะคุณเธอยากไปเล่นน้ำในห้องน้ำซะงั้น


เลิกใส่กลางวัน แต่กลางคืนยังไม่ได้ฝึก แต่ก่อนนอนคุณเธอก็บอกฉี่ๆ แล้วเหมือนกันแต่ใส่กันไว้ก่อน เพราะเด๋วดึกๆ คุณเธอไม่ตื่นมาบอก ได้นอนดมฉี่เด็กทั้งคืนแน่ๆ ^^

ความจริงเด็กพูดได้เนียะมันก็ดีไปอิกแบบนะ
พยายามไม่รำคาญ จะรำคาญได้ลงคอเลยเหรอ ก็เธอเรียก แม่ แม่
พอเราไม่ขานรับ คุณเธอก็เรียก " แม่จ๋า " อย่างเงีะ

วันก่อนบอกว่า " แม่จ๋า ปวดฉี่ "

ก็สนุกๆดี พัฒนาการของเธอมีเรื่อยๆ บางทีก็เอ้า พูดได้ 1 คำ พูดได้ 2 คำตอนใหนเนียะ ไรเงียะ ผ่านไป พูดได้ 3 คำเฉยเลย 555++








เรื่องที่น่ากลุ้มใจเรื่องที่ 2 นั่นคือแก้มใส ยังไม่เลิกขวดนมเลย



ลองค้นหาข้อมูลเรื่องการเลิกขวดนม ความจริงแล้วที่ไม่ได้ให้แก้มใสเลิกก็เพราะเรายังไม่คิดจะให้เค้าเลิกเองนั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเค้าหรอก

ความจริงก็เอากล่องให้กินนะ ใส่กล่องกันบีบก็ยอมกิน ยอมจับอยู่
แต่มันไม่ OK.เท่ากับกินกับขวดมั้ง เพราะกินกับกล่องทีไร กินไม่ค่อยหมดแล้วก็กินเหลือ เวลาเหลือเรามาเห็นอิกทีก็จะทิ้งเพราะกลัวนมที่เปิดไว้แล้วกินไม่หมดจะเสีย

ยายบอกว่ามีแอบเอาไปทิ้งถังขยะเองด้วยนะ


วันก่อนเปิดไปเจอ VDO ใน Internet มา

เรื่อง : บ๊าย บาย ขวดนม ช้าไปโรคภัยตามมา
บ๊าย บาย ขวดนม ช้าไปโรคภัยตามมา เลิกได้ตั้งแต่อายุ 1 ปี อย่างช้าไม่ควรเกิน 1 ปีครึ่ง กินใส่แก้วใส่กล่องดีกว่า



ใจไว้ว่า 2 ขวบเป๊ะนี้จะเลิกทันที เอาแบบหักดิบเหมือนเลิกนมกลางคืน
เลยละกัน (นมกลางคืนเลิกมานานแระไม่ให้กินเองแหละ)






นี้คือข้อมูลที่เราไปหามาจาก Intener โดย //motherandchild.in.th/content/view/237/


เค้าบอกเคล็ดง่ายๆ ฝึกลูกเซย์โนขวดนม
ยาวหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าจะเลิกจริงๆ




: การหม่ำเจ้าขวดนมมันไม่ดีตรงไหนบ้าง



อันดับแรกที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงก็คือ สำหรับเด็กวัยฟันน้ำนม ยิ่งดูด ยิ่งหลับคาขวด ไม่ใช่...ขวดอย่างที่คุณพ่อชอบทำกันนะคะ หมายถึงขวดนมน่ะ ฟันของเจ้าหนูเรายิ่งผุ ทำให้ปัญหาที่ตามมา โยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดูดบ่อยถึงอายุ 3 ปี ฟันหน้าอาจยื่นเหมือนแก้วหน้าม้า ที่สำคัญ คุณหมอเขาฝากบอกว่า ทำให้โครงสร้างกระดูกขากรรไกรเสียรูป ฟันก็จะเรียงกันไม่สวยงามนะจ๊ะ


อีกทั้งทำให้เด็กมีอาการเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น หิวก็ดูด ไม่หิวก็ดูด ถ้าลูกมีอาการแบบนี้แจ็กพ็อตตามมาคือ จากเจ้าหนูหุ่นสเลนเดอร์หวั่นใจหนุ่มๆ สาวๆ ก็จะกลายเป็นอ้วนปุ๊กลุกเหมือนโดราเอมอน แลดูน่ารักไปอีกแบบ อิ อิ..แต่คุณพ่อคุณแม่คงไม่หวังอย่างหลังแน่ๆ ถึงจะอ้วนน่ารัก แต่พิษภัยโรคต่างๆ ก็อาจตามมาได้ง่ายค่ะ รวมถึงมีอาการท้องผูกบ่อยๆ เพราะติดใจการดูด กินแต่นม ไม่ยอมกินข้าว ทำให้กากใยอาหารน้อยกว่าปกติ และยิ่งทำให้ขาดทักษะที่สำคัญ ทำให้เด็กเสียโอกาสในการพัฒนาทักษะการพูด การเคี้ยวและการใช้มือในการทำกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย




: เมื่อไหร่ควรเลิกดูดนมดีนอน



ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ที่แน่นอนค่ะ ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตจากความพร้อมของลูกๆ มากกว่า ถ้าเด็กพร้อมที่จะดื่มนมจากแก้ว ดื่มน้ำจากแก้วได้แล้ว ก็ให้เริ่มฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปหักดิบ พาลจะทำให้บ้านแตกต้องหาไม้แคะหูบ่อยๆ อาจไม่ดีต่อสุขภาพหูคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่ส่วนมากแนะนำให้ควรเริ่มตั้งแต่เล็กๆ สักอายุ 1 ปีขึ้นไป แต่ถ้าปล่อยเนิ่นนานกว่านั้นหลังอายุ 1 ขวบครึ่งขึ้นไป ยิ่งเลิกยากมากค่ะ คอนเฟิร์ม
เคล็ดป้องกันลูกติดขวดนม


ข้อแรกอาจอยู่ที่จิตใจคุณพ่อคุณแม่ ว่าใจแข็งสักแค่ไหน จะทนต่อการเว้าวอนของลูกๆ เมื่อต้องการขวดนมได้ไหม ก็เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ฝึกให้เจ้าหนูเลิกขวดนม เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันทั้งสิ้น อย่างเวลาเจ้าหนูหลับ ก็ควรฝึกให้หลับด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งเจ้าขวดนมแบบแต่ก่อน ยิ่งเวลากลางคืนนี้ทีเด็ดเลยค่ะ ยิ่งควรฝึกโดยด่วน เวลาที่พอเหมาะ ควรเป็นหลัง 6 เดือนไปแล้ว เพราะเจ้าหนูสามารถหลับได้ยาวนานในตอนกลางคืน







คุณแม่อาจหาตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาหรือสัตว์ประหลาดที่ลูกๆ ชอบพาเข้านอนด้วย
เพื่อเป็นเพื่อนกันติดขวดนมก่อนนอนก็ได้
โดยค่อยๆ ลดปริมาณจนเลิกได้ในที่สุด เย้..ดีใจด้วย
ยิ่งเฉพาะในเวลากลางวัน สำหรับเด็กวัยนี้แล้ว
ควรบิ๊วบรรยากาศเวลากินอาหารมื้อของลูกน้อยให้มีแต่ความสนุก
ให้เด็กรู้สึกว่า เลิกใช้ขวดนมก็กินอาหารอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาไปไหนมาไหน ห้ามเอาขวดนมไปด้วยเด็ดขาด
ใช้แก้วและกล่องแทนจะดีกว่า



เรื่องที่ 3 อ่านหนังสือให้แก้มใสฟังก่อนนอน






ก่อนนอนทุกวันเรา จะอ่านหนังสือนิทานให้แก้มใสฟังทุกวัน บางครั้งก็จะชี้ถามว่า
เจ้าสัตว์ตัวนี้คือตัวอะไร แก้มใสฟังทุกวันก็ตอบได้เลย

เช่นเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ
เล่าไปเราก็ถามไปว่า ตัวนี้คือใคร ตัวนี้ละ แก้มใสก็จะจำได้แล้วก็ตอบเรา
อีกอย่างการเล่านิทานให้เด็กฟังเนียะ น้ำเสียงต้องได้อารมณ์ด้วยนะคะคุณแม่

แก้มใสจะกรี๊ดกร๊าดมาก ถ้าวันใหนไม่ว่างเล่าให้ฟังเค้าก็จะถือหนังสือมาให้เราอ่านให้ฟังเองเลย


อันนี้คือข้อมูลที่เราหามาได้จากเว็บจะ //www.nestlebaby.com/th/parenting/family_life/reading_to_your_baby/




การอ่านหนังสือให้ลูกน้อยฟังนั้นช่วยให้ลูกน้อยได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ใหม่ๆ ช่วยกระตุ้นจินตนาการ และยังช่วยพัฒนาทักษะทางด้านการสื่อสารอีกด้วย ยิ่งคุณพ่อคุณแม่คุยกับลูกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการ
การเจริญเติบโตของลูกน้อยมากขึ้นเท่านั้น ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ทักษะทางด้านภาษา (และความฉลาด) นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนคำศัพท์ที่ทารกได้ยินในแต่ละวัน ในงานศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ทารกที่ผู้ปกครองคุยด้วยมากๆ (เฉลี่ย
ประมาณ 2,000 คำต่อชั่วโมง) นั้น เมื่ออายุ 3 ขวบและเข้าสู่วัยเรียนจะสามารถทำข้อสอบได้ดีกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกันซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยได้คุยด้วยตอนยังเป็นทารกอยู่





สำหรับประเภทของหนังสือที่เหมาะสมกับลูกน้อยนั้นขึ้นอยู่กับอายุของลูกน้อยค่ะ ช่วง 2-3 เดือนแรกลูกน้อยจะให้ความสนใจเกี่ยวกับจังหวะของภาษาหรือน้ำเสียงของคุณพ่อคุณแม่มากกว่าเรื่องของเนื้อหาที่เค้าได้ยิน ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อ
คุณแม่จะนำมาใช้อ่านให้ลูกฟังจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะ จะเป็นหนังสือเด็ก นิตยสาร หรือหนังสืออื่นๆที่คุณพ่อคุณแม่สนใจก็ได้ ต่อมาเมื่อการมองเห็นของลูกน้อยพัฒนาชึ้น เค้าจะเริ่มสนใจรูปภาพที่มีสีสันสดใสและมีสีตัดกัน ซึ่งก็ได้แก่
หนังสือภาพสำหรับเด็ก รวมถึงหนังสือประเภท Board book (หนังสือที่ทำจากกระดาษแข็งทั้งเล่ม มีความทนทานต่อการฉีกขาด) และเมื่อถึงวัยที่ลูกน้อยสามารถเลือกหนังสือที่เค้าอยากอ่านได้เอง จะเห็นได้ว่าเด็กแต่ละคนมีความสนใจที่แตกต่างกัน เด็กบางคนชอบหนังสือที่มีภาพถ่าย เด็กบางคนชอบหนังสือที่มีลูกเล่นต่างๆซ่อนอยู่ ฯลฯ เมื่อคุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกน้อยชอบหนังสือประเภทไหนแล้ว บางครั้งบางคราวก็ควรเปลี่ยนใหลูกได้ลองอ่านหนังสือประเภทอื่นๆ
ดูบ้างนะคะ เพื่อให้เค้าได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นั่นเองค่ะ





คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วสื่อสำหรับเด็กประเภทซีดี ทีวี หรือวิทยุนั้นจะใช้แทนการอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้หรือไม่? ซึ่งเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่แนะนำค่ะ เพราะเป็นการสื่อสารทางเดียว สิ่งเหล่านั้นไม่สามารถโต้ตอบกับลูกน้อยได้เหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ (อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อ ทีวี...ภัยเงียบในบ้าน) ดังนั้นการอ่านหนังสือให้ลูกฟังจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ






ช่วงเวลาการอ่านหนังสือกับลูกน้อยนั้น น้ำเสียงและอารมณ์ที่สนุกสนานของคุณพ่อคุณแม่เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงมาก ที่สุดค่ะ การเคี่ยวเข็ญสอนให้ลูกรู้จักตัวหนังสือ การออกเสียง หรือพยางค์ต่างๆก่อนถึงเวลาอันควรอาจทำให้
ช่วงเวลานี้กลายเป็นช่วงเวลาที่หมดสนุกไปได้ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นประจำ ลูกน้อยจะค่อยๆเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นได้เองค่ะ ดังนั้นในวัยทารกนี้ การปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูกและทำช่วงเวลาแห่งการ
อ่านหนังสือร่วมกันให้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ





ปล.วันนี้เค้าหมดแค่นี้ เด๋วไปเที่ยวเดือนหน้าจะมา Up date ความสุขของครอบครัวเราอิก


Bye Bye Gam-sai



Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 20 กรกฎาคม 2555 21:56:59 น. 3 comments
Counter : 1644 Pageviews.

 
น้องแก้มโตขึ้นมากเลย แอบเข้ามาดูตลอด ^^


โดย: แฟนคลับแก้มใส IP: 223.204.112.23 วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:24:54 น.  

 
อ้าวคุณน้ำ เล่นออกตัวเลยว่าเจอกันเดือนหน้าทริปที่ไปเที่ยว อย่างงี้แสดงว่าจะอัพแค่เดือนละครั้งเปล่า ไม่เอาน่ะ เค้าอยากเห็นหนูแก้มบ่อย ๆ

โตเป็นสาวแล้ว เลิกเพริสได้แล้ว เก่งจ๊ะ


โดย: สาวเลขา วันที่: 24 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:04:52 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ แอบอ่านด้วย ข้อมูลน่าสนใจมากค่ะ
น้องแก้มใสน่ารักจังเลยค่ะ ชื่อคล้ายกันเลย


โดย: แม่น้องฟ้าใส (เล็กใหญ่น้องฟ้าใส ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:55:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jeeranun.jun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
22 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jeeranun.jun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.