ตอนพ่อ ขอ แม่ แต่งงาน พ่อไม่ได้พูดว่า Would you marry me? พ่อเดินมาพร้อมกับหนังสือ ปกขาวๆ เล่มหนาๆ เล่มหนึ่ง มาให้แม่ถือไว้ แล้วถามแม่ว่า ‘Would you like your name to be in my history book?’ แม่ก็งงๆ แล้วพูดว่า ‘What you talking about!!’ พ่อก็อธิบายว่า ‘This is my family tree book and I would love to put your name and perhaps our baby name in the book. แล้วพ่อก็เปิด ไปที่หน้า 175 แล้วชี้ให้แม่ดูที่ชื่อของตัวเอง หลังจากที่แม่เปิดอ่านคำนำ และบางตอนของหนังสือ แม่รู้สึกขนลุก และทึ่งในเรื่องราวในหนังสือ เพราะบรรยาย เรื่องราวประวัติศาสตร์ ไว้อย่างละเอียดเริ่มตั้งแต่ บรรพบุรุษของพ่อและหนู พวกเขาอพยพมาจาก Scotland ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1841 อาหารการกิน การหาเลี้ยงชีพ และ การตั้งถิ่นฐานในต่างแดน พวกเขาเดินทางโดยเรือ มาถึงอีกซีกโลกหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงว่า พวกเขาเป็นใคร มาจากไหน พ่อบอกว่า พ่อภูมิใจ และเคารพในบรรพบุรุษ และ ทำให้เคารพตัวเองด้วย เพราะ พวกเขาเหล่านี้ เสียสละ จนพวกเราได้มีวันนี้ ถ้าไม่มี Granny Rochford (ผู้หญิงคนแรกของตระกูลที่เดินทางมาถึงฝั่งในเมือง Dunedin ประเทศ นิวซีแลนด์) ก็คงไม่มี พ่อ แม่ และหนู ในวันนี้ เรื่องราวในหนังสือน่าสนใจมากลูก แล้วแม่จะพยายามแปล และ เล่าให้หนูฟังต่อไป แม่ว่าเป็นโอกาศดี ที่เราได้รู้ได้เห็นถึงความเป็นมาของครอบครัวของเรา แม่มีโอกาสเห็นปู่ของหนู ตอนท่านอายุประมาณ ห้าขวบ เป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ จนทำให้แม่นึกอยากทำหนังสืออย่างนี้บ้างกับทางครอบครัวฝั่งแม่ แม่หวังว่าลูก คงจะมีความภูมิใจ ใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ และมีสติ หรือ ไม่ว่าลูกจะทำผิดพลาด หรือ พ่ายแพ้ต่ออุปสรรค แม่อยากให้ลูก อ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วลูกจะมีพลัง ลูกจะเข้มแข็ง พ่อกับแม่จะอยู่เคียงข้างลูก เสมอ