รีวิวสายการบินครั้งนี้เกิดขึ้นจากความประทับใจส่วนตัวล้วนๆที่เราเองมีต่อการจัดการของสายการบินในการโหลดกระเป๋าและจักรยานกลับไทย
ถ้าใครไม่อยากอ่านที่เราเพ้อเจ้อกรุณาเลื่อนไปที่ย่อหน้าท้ายสุดได้เลย
หลังจากได้มีการตัดสินใจที่จะบินกลับไทยหลังจากการไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเป็นระยะเวลาสั้นๆ สิ่งที่ทำใจยุ่งยากที่สุดคือตอนซื้อตั๋วเครื่องบิน!!! เนื่องจากเป็นระยะเวลาใกล้กับช่วงสงกรานต์ที่ไทย แน่นอนว่า ทุกสายการบินขึ้นราคาค่าตั๋วกันหมด จากเดิมราคาไม่กี่พันพุ่งทะลุไปจนถึงหลักหมื่นในสายการบินโลว์คอส์ท ยิ่งใกล้วันกำหนดเดินทางค่าตั๋วยิ่งขึ้นให้จิตใจได้สั่นไหวกันทุกครั้ง แต่อยู่ๆหลังจากความพยายามที่จะหาสายการบินที่ราคาไม่แพงมากจนเกือบจะถอดใจ ก็คิดได้ว่านกแอร์ก็บินต่างประเทศนี้ มีเที่ยวบินมาญี่ปุ่นด้วย
ไม่รู้ว่าเรียกว่าดวงดีหรือโชคช่วย มีให้จองตั๋วราคาถูกมากๆจากสายการบินนี้ ด้วยความหน้ามืดกลัวราคาเปลี่ยนก็กดจองไปพร้อมกับซื้อน้ำหนักจากสายการบินอีก 40 กิโลเผื่อของเยอะ แต่หลังจากกดจ่ายเงินไปเรียบร้อยความทุกข์ก็บังเกิด
ไม่ใช่อย่างที่หลายๆคนกังวลเกี่ยวกับสายการบินนี้ ที่ทำให้เครียด
สิ่งที่ทำให้กลุ้มคือ สายการบินมีนโยบายกับการนำจักรยานขึ้นเครื่องยังไงบ้าง หลายๆสายการบินมีนโยบายที่ชัดเจนในการรับโหลดจักรยาน
จักรยานของคุณต้องอยู่ในกล่องเท่านั้น จักรยานของคุณอยู่ถุงก็ได้แต่... จักรยานต้องปล่อยลมยาง จักรยานต้องถอดบันไดออก จักรยานต้อง... บลาๆๆ แต่สายการบินนี้ไม่มีอะไรเลย เอิ่ม... มีให้แค่เนี้ย ไม่เป็นไร เราตามไปที่ที่นี่ก็ด้ายยย
ข้อมูลเยอะจนอ่านไม่ไหว // ไม่ใช่ล่ะ
มันไม่มีอะไรเล้ยยย รายละเอียดต่างๆไม่มีให้เห็นเลย
เอาแล้วไง ทำไงล่ะที่นี้ ถ้าเราเตรียมไปแล้วเขาไม่ให้ขึ้นเครื่องล่ะ จะให้ส่งกลับไปไหนได้อีก เปิดเน็ตหารีวิวแบบที่เขาชอบรีวิวกันเยอะแยะ ปรากฎว่าไม่มีของนกสกู้ตเลย ช็อคค่ะ ส่วนมากมีแต่ของแอร์เอเชีย
ทำไงดีๆ ร้อนรนใจ โทรไปถามก็ไม่ชัวร์สักเท่าไหร่ เพราะคนตอบคำถามเป็นคนละคนกับคนที่รับเช็คอิน
เอาว่ะ ลุยไปเลย ถ้าเขาไม่ให้ขึ้นจะร้องไห้ตื้ออยู่หน้าเคาท์เตอร์นั้นแหละ /// ความคิดที่ไม่สมควรเลียนแบบ
สั่งถุงจักรยานมา ถอดจักรยานเรียบร้อย // คนถอดมันส์มือไปนิด ถอดล้อหลังออกด้วย น้ำตาจะไหล ถุงบ๊างงงบาง เอาผ้าห่มหนาๆห้อ เน้นแถวๆเกียร์หน่อยแล้วจับยัดใส่ถุงจักรยานใบยักษ์ สุดท้ายเอาเทปกาวพันรอบถุง สภาพออกมาน่าเกลียดมาก เหมือนห่อแหนมยักษ์ลงกินเนสบุ๊ค ขนาดใหญ่มากซะด้วย บางสายการบินบอกทุกด้านห้ามเกิน 203 ซม. (ถ้าเกินกว่านี้เจ้าหน้าที่อาจจะหันมาบอกว่า "ไม่ได้ค่ะ กรุณาไปทำให้มันขนาดเล็กลงหรือทำให้เป็นสองชิ้นนะคะ" หือ? ทำให้เป็นสองชิ้นนี้คือ เลื่อยจักรยานเลยใช่ไหม// อ่านมาจากเว็บฝรั่งเล่ามา)
หันมาดูของเรา 140 x 25 x 60 ซม.ได้
แค่ขนาดก็รอดยากแล้ว
โชคดีที่จักรยานคันน้อยของเรามีน้ำหนักน้อยอยู่พอสมควรที่ 12 กิโลรวมกับน้ำหนักถุงและผ้าห่ม เลยไปจบที่ 17 กิโล โอเคไม่เยอะๆ ยกไหว
หลังจากฝ่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องแบกถุงจักรยานบนไหล่ซ้าย กระเป๋าเป้หนัก 7 โล บนสองบ่า และมือขวามีกระเป๋าเดินทางที่หนัก 23 กิโล ขึ้นรถไฟ ลงรถไฟ เปลี่ยนสถานี ไปสามรอบ ก็ถึงสนามบินแบบไม่ต้องถามสภาพ
ไปเช็คอินคิวที่ 2 // พลาดไป จริงๆอยากเป็นคิวแรก ทุกคนสายตามองไปที่เดียวกันเมื่อมองมาทางเรา มองไปที่ห่อแหนมยักษ์? ด้วยสายตาสงสัยว่ามันคืออะไรในห่อนั้น รวมไปถึงเจ้าหน้าที่เช็คอินด้วย
เจ้าหน้าที่มองหน้าเรา มองสัมภาระแล้วเงยขึ้นมามองหน้าเราไหม ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวคือยิ้มเข้าไว้ ไทยแลนด์ แดนอ๊อฟสมายยยยย พยายามจะยกจักรยานไปชั่ง แต่ไหล่ล้าเกินกว่าที่จะยกได้ เจ้าหน้าที่ที่น่ารักก็รีบปีนออกมาจากเคาท์เตอร์มายกให้เราด้วย ว้าวววววว //นี้สินะ หน้าไม่หล่อแต่พฤติกรรมหล่อมาก เรารีบบอกเลยว่า ไบท์ซีเคิล อิดอะไบท์ซีเคิล
เจ้าหน้าที่ไม่ถาม ไม่วัด ไม่อะไรกับเราทั้งนั้น เอาลงไปชั่งก็ชั่งไม่ได้เพราะขนาดมันยาวเกิน 555 เงยหน้ามาถามเราว่าจักรยานหนักเท่าไหร่ เราบอก 17 โล เขาก็พยายามชั่งอีกก็ลงท้ายที่ 17 โลเท่าที่ชั่งมาก่อน ผ่านค่า ผ่านไปเลย เจ้าหน้าที่ยกไปจัดการต่อกันเองเลย เราก็เช็คอินไปแบบสบายๆเลย
กระเป๋าลากไซส์ใหญ่สุดของเรา เจ้าหน้าที่คนเดิมก็ยกให้เราอีกด้วย // สมควรเขียนจม.ชื่นชมเขาเลยนะเนี้ย
พอล่ะ เพ้อยาวมากๆ สรุปคือว่า นกสกู้ตและสกู้ตอนุญาตให้เอาจักรยานขึ้นเครื่องได้นะคะ ใส่ถุงจักรยานก็ขึ้นได้ ขอแค่ปล่อยลมยาง ถอดบันได และยึดแฮนด์เหมือนๆกับสายการบินอื่น ก็สามารถส่งมันขึ้นเครื่องไปไหนก็ได้แล้ว
ขอไปหารูปถุงแหนมยักษ์ ถ้าหาเจอจะมาลงให้ดูว่า สภาพนี้เขายังให้ขึ้นเครื่องได้
ปล.กลับมาถึงเราถุงขาดนิดหน่อย 2 จุดๆละราวๆหนึ่งนิ้ว แต่ไม่เป็นไร เข้าใจว่ามันหนักและยกยาก
Create Date : 11 เมษายน 2560 |
Last Update : 11 เมษายน 2560 9:51:40 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1372 Pageviews. |
|
|
รอชมภาพค่ะ
เจิมอ่านค่ะ