Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
23 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
ไพรมหากาฬ 15 : จบเล่ม 1

เมื่อสังหารไอ้กุดได้สำเร็จ ลูกหาบก็ช่วยกันหาบร่างไอ้กุดกลับแค้มป์ และแวะฝังศพเอิ้นให้เรียบร้อย คุณชายเชษฐาดีใจถึงกับสั่งให้เอาวิสกี้มาเปิดเลี้ยงลูกหาบเป็นการฉลองที่ล่าไอ้กุดได้ นายจ้างทั้งสามให้เครดิตความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แก่แงซาย เพราะถ้าไม่ใช่เขาที่คิดแผนขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะต้องซุ่มเฝ้าไอ้กุดอีกนานแค่ไหน

บุญคำรับคำสั่งไปถลกหนังไอ้กุดเพื่อมอบให้แก่คณะนายจ้าง โดยจะส่งกลับไปที่หนองน้ำแห้งให้นายอำพลช่วยส่งซักฟอกรอไว้ (ถ้าได้กลับไปนะ 555) ส่วนกกะโหลกของไอ้กุดที่ใชยยันต์ต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึกนั้น มันป่นไปหมดแล้วด้วยแรงของลูกปืน

พี่รพินทร์บอกว่านายอำพลคงดีใจที่มีคนฆ่าไอ้กุดตายได้สำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้เขาถึงกับตั้งค่าหัวไอ้กุดไว้ถึง 1 หมื่นบาท ชายทั้งสาม (พี่รพินทร์ คุณชาย และไชยยันต์) คุยกันอย่างสนุกสนานว่าใครจะเป็นผู้ได้เงินค่าหัวนั้นไป ไชยยันต์บอกว่าก็หารสามให้คุณชาย พี่รพินทร์ และแงซาย พี่รพินทร์บอกว่า ก็ยุติธรรมดี ถ้าได้กลับไปรับเงินนะ 555 คุณหญิงดารินสวนว่าพี่รพินทร์ทันทีที่ชอบพูดจาบ่อนทำลายขวัญและกำลังใจของคณะเดินทาง

คุณชายต้องรีบตัดบท (ก่อนที่พี่รพินทร์กับคุณหญิงดารินจะทะเลาะกัน) โดยให้พี่รพินทร์เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการล่าเสือ พี่รพินทร์บอกว่าที่จริงแล้วคนมักจะเข้าใจธรรมชาติของเสือผิด ที่จริงแล้วเสื้อเป็นสัตว์ที่ขี้ขลาดมากในเวลาปกติ แต่จะกล้าบ้าบิ่นมากเมื่อหิวหรือโกรธจัด นอกจากนี้เสือยังมีระดับสติปัญญาที่เฉียบแหลมสามารถวางแผนการล่าได้ ได้ทั้งแบบวันแมนโชว์และแบบทีมเวิร์ค ขนาดเสือติดกับดักยังสามารถหนีไปได้ หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ มันจะยอมกัดขาตัวเองข้างที่ติดกับดักนั้นให้ขาด เพื่อแลกกับอิสรภาพ โดยไม่สนใจว่าจะพิการหรือจะไปตายที่อื่น ดังนั้นการดักเสือเป็น ๆ มาขายให้นายอำพล พี่รพินทร์จึงมักจะใช้วิธีขุดหลุมตาข่าย และใช้เหยื่อล่อ เสื้อจะได้หนีไม่ได้ วิธีนี้เสือจะถูกตาข่ายหิ้วขึ้นเหนือพื้น เสือจะไม่มีร่องรอยตำหนิจากการต่อสู้ดิ้นรน บางคนใช้วิธีดักด้วยกรง เสื้อดิ้นชนกรงจนหัวร้างข้างแตก แถมต้องทิ้งเสือไว้ในกรงเป็นสิบวันเพื่อให้มันหมดแรงถึงจะเอาไปขายได้ในสภาพโทรม ผิดกับวิธีของพี่รพินทร์ เสือติดตาข่างปุ๊บ ขนไปขายได้เลยในสภาพไม่มีริ่วรอย (เว้นเสือจะข่วนทำร้ายตัวเอง – ไม่อยากให้พรานได้ตังค์เยอะ 555)

เสือเป็นสัตว์ที่อยากรู้อยากเห็น ชอบสะกดรอยตามสัตว์ต่างๆ รวมทั้งคนด้วย บางครั้งไม่ได้มีแผนจะโจมตี แต่แค่อยากรู้ว่าเค้าทำอะไรกัน 555 เสือเป็นสัตว์ที่ชอบทดลองด้วย พ่อของพี่รพินทร์เคยเล่าว่าเคยเห็นเสือว่ายน้ำข้ามแม่น้ำไปมาหลายรอบ ทุกคนที่เห็นก็งงกันหมดว่าเสือมันตั้งใจจะทำอะไร จะออกกำลังกายลดความอ้วนรึ -_-“ หรือจะซ้อมไปแข่งโอลิมปิก ก๊ากกกก สุดท้ายพ่อพี่รพินทร์ก็สรุปได้ว่า เสือต้องการจะว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งตรงบริเวณที่มีกอไผ่ แต่เพราะกระแสน้ำพัดมันให้ออกจากตำแหน่งไป มันจึงต้องว่ายน้ำกลับมาเล็งดูใหม่ และว่ายกลับไปใหม่ และก็ถูกกระแสน้ำพัดไปอีก เป็นงี้อยู่หลายรอบ โถ ๆ ๆ บอกให้ตั้งใจเรียนฟิสิกส์ซะตั้งแต่เรกก็ไม่เชื่อนะน้องเสือ 555

คณะเดินทางตกลงกันว่าวันรุ่งขึ้นจะออกเดินทางต่อไป เพราะไม่สนใจจะล่าสัตว์เล็กอีกแล้ว เป้าหมายที่ต้องการมีเพียง เสือ กระทิง และ ช้างเท่านั้น (ส่วนสัตว์เล็กจะล่าเป็นอาหาร)

สถานีต่อไป..โป่งกระทิง , ห้วยยายทอง (หมายถึงแหล่งน้ำชื่อยายทองนะ ไม่ใช่อาการอุทานของชาวอิสานที่พบเห็นคุณยายชื่อทอง อิอิ) ป่าหวาย และสถานีสุดท้ายที่หล่มช้าง จากนั้นจะเป็นการเดินทางแบบจริงจัง

ที่โป่งกระทิงนี้เองที่รพินทร์พบเห็น ชด ประชากร หรือคุณชายอนุชา และพรานชาวลาวโซงชื่อหนานอินเป็นครั้งสุดท้าย



การเดินทางเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งตามแผนประมาณ 6 โมงเช้า พี่รพินทร์เดินนำหน้ากองคาราวานเหมือนเดิม แต่คราวนี้คณะนายจ้างไม่มีใครลงจากเกวียนมาเดินเล่นล่าสัตว์เหมือนกับการเดินทางช่วงที่ผ่านมา เพราะรู้ดีว่าการเดินทางในวันนี้เป็นการเดินทางที่จริงจังและแข่งกับเวลา การเดินทางดำเนินไปในทุ่งแห้งกรอบ อากาศร้อนอบอ้าว ไม่มีหุบหรือดงทึบ และไม่มีวี่แววของสัตว์โผล่มาให้ล่าเลย จนกระทั่งเที่ยงครึ่ง คณะเดินทางมาถึงดงไผ่สีเหลืองเพราะความแห้งแล้ง จึงแวะพักหุงหาอาหารกินกันที่นั่น ส่วนนายจ้างทั้งสามขอกินอาหารกระป๋องที่เตรียมมา แล้วก็เดินทางต่อ พอเข้าเขตป่าโปร่ง พี่รพินทร์ให้นายจันที่เดินติดตามมา วิ่งกลับไปบอกคณะนายจ้างว่าพบวัวแดงฝูงใหญ่ถ้าใครอยากสนุกก็เชิญลงจากเกวียนได้ ไชชยันต์กระโดดลงจากเกวียนอย่างกระตือรือล้น ในขณะที่คุณชายขอนอนเอาแรงในเกวียน ส่วนคุณหญิงกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะแดดแรงมาก (เดี๋ยวผิวเสีย) แต่สุดท้ายก็กระโดดตามลงไปเพราะการรบเร้าของไชยยันต์ คุณหญิงไม่ได้เอาปืนไปด้วย พกไปแค่กล้องเท่านั้น เพราะเธอกะจะไปดูเฉย ๆ รพินทร์ให้กองคาราวานมุ่งหน้าไปตามปกติ ส่วนเขา ไชยยันต์ และคุณหญิงจะตามไปสมทบหลังจากล่าวัวแดงเสร็จแล้ว

วัวแดงสิบกว่าตัวกำลังยืนเล็มหญ้าอยู่โดยไม่รู้ว่ามีปืนหลายกระบอกส่องอยู่ พี่รพินทร์บอกไชยยันต์ให้ยิงตามสะดวก เอาให้สมกับที่อยากมา ไชยยันต์เล็งวัวตัวใหญ่สุดและยิงออกไป วัวกระโดดขึ้นแล้วล้มลงดิ้นกระแด๋ว ๆ ที่พื้น ไชยยันต์รีบซ้ำทันทีโดยไม่ได้เล็ง กระสุนไปโดนวัวอีกตัวนึงล้มลง วัวที่เหลือวิ่งหนีกันป่าราบ ทั้งสามคนเข้าไปดูซากวัวที่นอนแน่นิ่งอยู่ นายจ้างทั้งสองคิดว่าวัวตายแล้ว แต่รพินทร์เห็นท่าไม่ดี รีบตะโกนบอกอีกสองคนให้หลบ พอสิ้นเสียงวัวกระโจนเข้าใส่ทันที ทำให้ต้องหนีกันอุตลุด บ้างก็วิ่งป่าราบ บ้างก็หนีขึ้นต้นไม้ วัวพุ่งเข้าชนต้นมะขามป้อมที่ไชยยันต์ปีนขึ้นไป ชนอยู่หลายครั้ง พี่รพินทร์ก็ยิงปืนใส่วัวนับจำนวนลูกกระสุนไม่ถ้วนแต่ไม่เข้าที่สำคัญพ่อที่จะล้มวัวได้ในทันที แต่ในที่สุดวัวก็ล้มลงก่อนที่ไชยยันต์จะหล่นลงมาโดนวัวขวิดตาย 555 แล้วทั้งสามก็ได้รู้ว่าวัวแดงถูกยิง โกรธจัดยิ่งกว่าวัวกระทิงซะอีก

หลังจากล่าวัวแดงเสร็จแล้วทั้งสามก็เดินฝ่าพายุลมแรงตามขบวนของคุณชายเชษฐาไป ไชยยันต์เมื่อยขาและเกือบหมดแรง พี่รพินทร์จึงแนะนำยาให้ เมื่อเข้าใกล้ขบวนของคุณชาย ทั้งสามคนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาจากขบวนจำนวนกระสุนนับไม่ถ้วน มันต้องเกิดอะไรขึ้นอีกแล้วแน่เลย ไม่นานจากนั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงเจ้าถิ่นร้องดังแปร๋นนนนนน




Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 10:40:47 น. 3 comments
Counter : 824 Pageviews.

 
หนุกมากค่ะ สงสารสัตว์


โดย: JAN IP: 202.60.207.154 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:20:43 น.  

 
15 ตอน จบเล่ม 1 ...แล้วนิยายภาคแรก 24 เล่มจะจบในตอนที่เท่าไหร่....
มาติดตามกันต่อไป ...


โดย: นัทธ์ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:59:32 น.  

 
^
^
แฮ่ ๆ คือเราอ่านช้าอ่ะค่ะ ค่อย ๆ อ่าน กลัวหลงป่ากลับบ้านไม่ถูก 555


โดย: Kika_ii วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:29:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kika_ii
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Kika_ii's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.