Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
16 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
ไพรมหากาฬ 11 : ก็น้ำในลำธารมันเย็นดีนี่นา

เช้าวันรุ่งขึ้น นายจ้างทั้งสามตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ก็ยังช้ากว่าพี่รพินทร์อยู่ดี พี่รพินทร์ไปเดินสำรวจโดยรอบพื้นที่พักกลับมาแล้วโน่นแหละ ทั้งสามนายจ้างถึงตื่นกัน คุณหญิงดารินในชุดสวยงามต้องหยุดชะงักจากการเดินออกไปนอกค่ายเพราะเสียงทักถามของพี่รพินทร์ เกิดโต้เถีงกันอีกตามเคย คนนึงก็กังวลเรื่องความปลอดภัย ส่วนอีกคนก็ดื้อรั้นอยากไปเที่ยว สุดท้ายรพินทร์ก็ต้องเป็นฝ่ายยอมซะทุกทีไป แต่มีข้อแม้ว้าการออกไปเที่ยวเล่นนอกค่ายของคุณหญิงจะต้องมีนายพรานติดตามไปด้วยทุกครั้ง และ...หวยมาออกที่บุญคำ

คุณหญิงและพรานบุญคำจึงออกไปล่าไก่ป่ากัน ในขณะที่รพินทร์เดินกลับเข้ามาสมทบกับนายจ้างอีก 2 คนที่ค่าย ขณะนั้นทุกคนทานอาหารเช้าที่แงซายจัดไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สองนายจ้างหนุ่มและนายพรานใหญ่คุยกันเรื่องโปรแกรมของวันนี้ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงบ่าย สัตว์ที่เป็นเป้าหมายในวันนี้คือเก้ง-กวางซึ่งมีให้เห็นและสามารถล่าได้ไปตลอดทางอยู่แล้ว คุณชายเชษฐาบ่นอุบอิบว่าอยากล่าตัวอื่น ๆ ที่มันยากกว่านี้ดูบ้าง -_-“ พี่รพินทร์บอกว่าไม่แน่หากโชคดีก็อาจจะได้เจอวัวแดงด้วยก็ได้ ถ้าอยากตื่นเต้นก็จะจัดทริปแกะรอยกระทิงให้ อีกสักสองวันก็จะถึงพื้นที่ป่าที่เต็มไปด้วยเสือลายพาดกลอน เดินกันให้ขวักไขว่เหมือนแมวบ้าน ถัดไปบนทางขึ้นป่าหวายก็จะพบกับช้างโขลงใหญ่และดุร้าย ที่ชาวบ้านเรียกว่า “โขลงไอ้แหว่ง” โดยเรียกตามลักษณะตัวจ่าฝูงที่หูแหว่งไปข้างนึง (ถึงตอนนั้นอย่าวิ่งหนีล่ะ อิอิ)

ไชยยันต์ฟังสรรพคุณของโขลงไอ้แหว่งที่เคยบุกทำลายหมู่บ้านกะเหรี่ยงราบเป็นหน้ากลองมาแล้ว 4 หมู่บ้าน ฆ่าคนมาแล้วกว่า 40 คน รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมา ทำให้คุณชายเชษฐาแซวว่าไหนว่าฟิต อยากจะยิงช้างอย่างงี้ แรดอย่างงี้ พอเค้าหาช้างให้ยิงจริง ๆ ก็ปอดแหก ไชยยันต์ตัดใจยอมเพราะเป็นมติของทีมที่จะตามล่าโขลงไอ้แหว่งเป็นรายการสุดท้าย แต่ขอเดินตามหลังรพินทร์ก็แล้วกัน หุหุ

รพินทร์แจ้งคณะนายจ้างว่า นอกจากสัตว์ที่ตั้งใจไปล่าแล้ว ระหว่างทางยังจะพบพวกเสือดำ เสือดาว หมี และสัตว์ขนาดเล็กต่าง ๆ ด้วย ฉะนั้นทุกคนต้องระวังตัว

ไชยยันต์ถามถึงพื้นที่ที่เลยหล่มช้างออกไป ทำให้รพินทร์เครียดขึ้นมาทันที เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันและยากจะคาดเดา ดินแดนแห่งนั้นไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน ตัวเขาเองก็ไม่เคยเดินไกลจากบริเวณนั้นในรัศมีเกิน 10 กิโลเมตร เขาไม่ค่อยได้พบสัตว์อะไรเท่าไหร่นัก พบก็เพียงแค่ร่องรอย เช่น รอยตีนช้างขนาดใหญ่ที่คนสามารถลงไปนั่งขัดสมาธิได้ ร่องรอยของควายมหิงสา และดินแดนแห่งนี้นี่เองที่คุณชายอนุชาได้เดินทางเข้าไป

คุณหญิงดารินกลับมาจากล่าไก่ป่า หลังจากที่พรานรพินทร์แยกตังออกไปกินอาหารเช้าและปล่อยให้คณะนายจ้างหนุ่ม ๆ พักผ่อนเตรียมแรงไว้สำหรับการออกล่าสัตว์ตามแผนในบ่ายวันนี้ คุณชายเชษฐาเตือนคุณหญิงดารินเกี่ยกวับความดื้นรั้น และความไม่ปลอดภัยเกี่ยกวับการชอบออกไปนอกค่ายคนเดียว (พี่รพินทร์เค้าฝากเตือน เพราะเค้าพูดอะไรไปก็โดนด่กลับมาทุกที )

เมื่อพี่รพินทร์กลับมาจากการสำรวจป่า (อีกรอบ) ก็ถามหานายจ้างชาวกรุง ก็ได้ความว่า 2 หนุ่มนอนอ่านหนังสืออยู่ในเต้น ในขณะที่นายจ้างสาวออกไปอาบน้ำที่ลำธารโดยลำพัง เขารีบคว้าปืนวิ่งตามไปเพราะกลัวอันตราย (จากไอ้กุด) เมื่อไปถึง ภาพที่เห็นตรงหน้าคือนายจ้างสาวสวยในสภาพล่อนจ้อนอาบน้ำอยู่ในลำธาร มีการต่อปากต่อคำกันพักนึงก่อนที่ความตื่นเต้นและน่ากลัวจะเกิดขึ้นที่ชายป่าฝั่งตรงข้าม



ช้างป่าตัวเมียตัวใหญ่โผล่ออกมาอย่างโหดพร้อมกับลูกของมัน คุณหญิงตกใจวิ่งหนีขึ้นจากน้ำมาเกาะที่รพินทร์ไว้จนลืมไปว่าบนร่างกายไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว (มีเพียงชุดหนัง 555) พี่รพินทร์บอกให้คุณหญิงวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ ในขณะที่ตัวเองใจเย็นดูเชิงนางช้างพังที่หันรีหันขวางอยู่ เมื่อเห็นว่าช้างไม่ได้มีทีท่าจะทำร้าย เพียงแต่เกรี้ยวกราดเพราะห่วงลูกตามประสาช้างแม่ลูกอ่อน หลังจากดูเชิงซึ่งกันและกันอยู่พักใหญ่ ช้างพังและลูกล่าถอยกลับหายเข้าไปในป่า (ไม่อยากมเรื่องเฟ้ยยยย)

เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ...
ดาริน (นึกในใจ) “ตะกี๊ตอนวิ่งหนีช้างขึ้นจากน้ำ อีตานั่นเห็นอะไรบ้างแว้”

ว่าแล้วก็เดินตามรพินทร์กลับมาที่ค่ายแต่โดยดี


Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 10:58:00 น. 0 comments
Counter : 567 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kika_ii
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Kika_ii's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.