คนเราเริ่มต้นได้เสมอ ถ้าต้องการ ทุกวันคือการเริ่มต้น
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

ในร่มเงาวังสระปทุม

ในร่มเงาวังสระปทุม
สมุดบันทึกเล่มใหม่ล่าสุดที่ มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จัดทำขึ้น โดยขอพระราชทาน ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงบันทึกภาพสิ่งต่างๆ ในวังสระปทุมซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งธรรมชาติกลางใจเมือง มีความสดชื่น ร่มรื่น มีความสุข และมีความเป็นบ้าน รวบรวมความน่ารักและอบอุ่นไว้ภายในสมุดบันทึกเล่มใหม่นี้ นอกจากนั้นยังมีภาพถ่ายฝีพระหัตถ์อีกส่วนหนึ่งที่ได้ขอพระราชทานมาจัดทำเป็นนิทรรศการ "ในร่มเงาวังสระปทุม" ด้วยเช่นกัน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดงาน ที่ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ บรรยายเรื่อง "ในร่มเงาวังสระปทุม" ด้วยว่า เนื่องจากกรรมการมูลนิธิได้เห็นรูปที่ทรงฉายไว้มากมายในวังสระปทุม จึงขอเลือกบางรูปมาอัด และจัดทำไดอารี่ขาย และรูปบางรูปที่ไม่มีในไดอารี่มาจัดในนิทรรรศการด้วย

"มีเรื่องเล่าว่าเป็นที่พักผ่อนพระอิริยาบถตั้งแต่ร.4 เป็นต้นมา พอถึงปลาย ร.5-ร.6 มีหลักฐานว่า ร.5 ทรงพระอักษรไว้เป็นพินัยกรรมให้ ร.6 ที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อไปช่วยเป็นผู้จัดการมรดก สิ่งไหนจัดให้พระโอรสองค์ใดก็แยกกันไป วังสระปทุมโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งขณะนั้นทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมัน หลังจากนั้นสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จมาประทับอยู่ก่อน วังสระปทุมมีหลายตำหนัก มีตำหนักใหญ่คือตำหนักเหลือง แต่ไม่รู้ที่มาของสีเป็นมาอย่างไร มีสีเหลือง เขียว เทา และตำหนักใหม่ล่าสุด มีอายุแก่กว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ก็ถือว่าใหม่สุดขีดของที่นี่"

ตำหนักเหลืองมีประวัติศาสตร์อันสำคัญคือ เป็นที่ประทับของพระพันวัสสาฯ รวมทั้งท่านสวรรคตที่นี่ด้วย และเป็นที่พระราชทานน้ำสังข์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นตำหนักประวัติศาสตร์ ต่อมาสมเด็จย่า มาประทับจนสิ้นพระชนม์ จากนั้นไม่มีใครมาพักอาศัย กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ไปอยู่ โดยมีจุดมุ่งหมายคืออยากให้ดูแล และทำพิพิธภัณฑ์แสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันวัสสาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยรู้กัน ทั้งๆ ที่มีหลักฐานอยู่มากมาย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงรับสั่งต่อว่า วังนี้มีชื่อว่า วังสระปทุม สมัยเด็กๆ เห็นบัววิกตอเรียอยู่ในบ่อ แต่คนเก่าๆ อย่างท่านแก้วขวัญ วัชโรทัย มาเห็นก็ถามว่าโอ่งใส่บัวไปไหน ทรงไม่แน่พระทัยเพราะเห็นอยู่แค่ 2 ใบ ไปใส่ไม้ดัดไว้ จึงไปหาโอ่งราชบุรีมาใส่ไว้ ครั้งแรกตั้งพระทัยนำบัวใส่ไว้ในสระน้ำผู้เชี่ยวชาญเรื่องบัวมาช่วยกันลงมาลุยในน้ำปลูกบัวพันธุ์ต่างๆ แต่เดี๋ยวเดียวก็หมด เพราะปลาวังสระปทุมเป็นปลาหิว พยายามเชิญไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ไปจึงมีความคิดใหม่ว่านำปลาไปไว้ในโอ่ง แต่กลับมีศัตรูพืชชนิดใหม่คือสุนัข พยายามเอาอ่างใส่น้ำที่ไม่มีบัว เขาก็ไม่ลง เขาจะลงแต่อ่างบัว ไม่มีบัวก็ไม่ลง จริงๆ แล้วตระกูลนี้มีคนอื่นๆ นำไปเลี้ยงอีก ลูกหลานตระกูลนี้ก็ลงอ่างบัวทุกตัว คนที่ได้รับพวกนี้ไปเลี้ยงจะเลี้ยงบัวไม่สำเร็จ

ทรงเล่าถึงสุนัขทรงเลี้ยงต่อว่า มีสุนัขจรจัดของคนอื่นวิ่งไปวิ่งมา วันหนึ่งพระสหายชาวเยอรมัน เอาสุนัขชื่อ "ทิฟฟี่" มาปล่อยไว้ เป็นพันธุ์เยอรมัน โดยแนะนำควรอาบน้ำ 2 เดือนครั้ง เขาไม่ชอบน้ำ แต่พอปล่อยเป็นอิสระก็โดดลงน้ำทันที อาบน้ำเช้าเย็น ทำให้อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ไม่ใช่ 2 เดือนครั้ง วันดีคืนดีมีตำรวจเข้ามาในบ้าน สงสัยติดตามผู้ร้ายมา ตำรวจเอาสุนัขมาอีก 2 ตัว คือ วิก กับ วาเป๊ก แล้วก็หาแฟนให้ทิฟฟี่แต่ตายเสียก่อน จึงเป็นหม้ายขันหมาก ต่อมาหาคู่ให้ใหม่ คือแม่พิมเสน ชอบลงน้ำด้วยกันทั้งคู่ ทิฟฟี่หูตั้ง แม่พิมหูตก แล้วก็มีภรรยาอีกตัว มาจากเบลเยียม แต่เสียชีวิตไปก่อน มีหลายภรรยา แม่ละ 4 ตัว

แม่แป๊ะฮวยอิ๊ว พ่อเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดิมเป็นของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับวังไกลกังวล มาเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกวัน เพื่อรอรับพระราชทานแซนด์วิช เจ้าของจึงน้อมเกล้าฯ ถวายให้แต่งงานกับ แม่ชบา ออกลูกมาหลายตัว ตอนนั้นอยากได้เซนต์เบอร์นาร์ดมานาน เขาอยู่กันเยอะก็เอานิ้วแหย่เข้าไป เขาดูดนิ้วลอยติดนิ้วขึ้นมา ต้องให้อุ้มตลอด ตอนหลังน้อยใจเพราะไม่ได้อุ้ม ในที่สุดเขาต้องทำใจไปเอง

ส่วน 3 ตัวพ่อแม่ลูกชอบลงน้ำ เอาน้ำธรรมดาให้กินก็ไม่เอา ชอบกินน้ำรากบัว ที่นี่มีบัวหลายชนิด มีทั้งบัวปริ่มน้ำ บัวจมน้ำ ไม่ใช่ว่าเขาโง่ แต่เป็นเพราะสุนัขกดน้ำ

นอกจากนั้นมีสัตว์อื่นๆ มีงูอยู่หลายชนิด ทั้งเหลือม ทั้งหลาม พอไปเปิดพจนานุกรมบอกว่า งูเหลือมคล้ายงูหลาม งูหลามคล้ายงูเหลือม เลยไม่รู้ว่าเหลือมหรือหลาม และยังมีภาพสยดสยองที่พยายามให้นำไปแสดงนิทรรศการแต่ไม่มีใครเอาไปลง เป็นภาพงูเหลือมสำรอกแมวออกมาทั้งตัว ยังไม่ย่อย ตอนแรกนัดกับท่านผู้หนึ่งแต่เขาบอกมาไม่ได้ขอลาไปจับงูที่บ้าน เราก็น้อยใจบ้านเราใหญ่กว่าทำไมไม่มีงู หลังจากนั้นไม่นานอาทิตย์เดียวงูก็มา ตัวแรกยาว 3.14 เมตร เป็นงูตัวเมีย ตอนแรกอยากเลี้ยงไว้ แต่คนที่อยู่ในวังยื่นคำขาดว่าจะไม่มีวันใช้ชีวิตร่วมกับงู เราจึงต้องบอกให้เขาดินมานำไปปล่อย บอกว่าห้ามฆ่าเด็ดขาดงูเรา เพราะนี่อาจเป็นงูเจ้า ตอนนี้อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น่าจะอยู่สำราญดี

มีเพื่อนคนหนึ่งบอกอีกว่า งูไม่มีตัวเดียว ต้องมีเป็นครอบครัว หลังจากนั้นมีมาอีกตัวยาว 3.04 เมตร เข้าใจว่าเป็นสามีของตัวแรก และยังมีงูพิษอีกหลายพันธุ์ น่ากลัวเพราะสุนัขเดินไปเดินมาจะถูกกินถูกกัดได้

นอกจากนั้นยังมีกระรอกถ่ายยากมาก เขาเร็ว กระรอกชอบชิมผลไม้ เราไม่ได้หวง แต่เขากินแบบไม่มีมารยาท กินแบบบุฟเฟต์เลอะเทอะ วันดีคืนดีชอบไปเดินเล่นบนสายไฟฟ้าตัวก็ดำเป็นตอตะโก สงสารแต่ก็ยุ่งวุ่นวายพอตัว

แล้วก็มีกิ้งกือ ไส้เดือน หอยทาก มาดูหนังเรื่องเบฟ เห็นมีปลาทอง อยากเลี้ยงปลาทองบ้าง แต่เขาไม่ได้เอามาตัวเดียวเหมือนในหนัง ตอนนี้ก็ออกลูกหลายร้อยตัว แล้วกรมประมงก็เอาปลาเทวดามาให้เลี้ยง พอเอากล้องมาถ่ายก็จะหนี แต่พอเอาอาหารมาแค่ถือก็มาจ่อกันเต็ม ใครว่าปลาทองไม่มีสมองไม่จริง ดูจากพฤติกรรมปลาทองมีสมองมาก

คิดว่าพยายามจะทำให้ตำหนักร่มรื่น และทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ปลูก รักษาต้นไม้ต่างๆ ไว้ให้ร่มรื่น มีทั้งต้นเก่าและใหม่ ตอนหลังมีพารากอนก็เอาต้นไม้ออก แต่ขอย้ายเอาต้นไทรไว้เข้ามา งอกงามดีมาก แต่มีคนกลัวเรื่องผี ที่ว่าเป็นที่พอพระทัยของพระพันวัสสาฯ ที่มาเปิดปิดไฟเองฉลองต้นไทร

มีเรื่องเล่ากันอีกมากมาย คนจะมาจับปลาท่านก็ห้ามไม่ให้จับ มาเปิดปิดไฟเองหลายรอบ วันนึงตัวเองขึ้นมาตำ หนักเห็นไฟเปิดอยู่ ก็เลยคิดว่าพระพันวัสสาทรงเปิดไฟ แต่พอมาพิจารณาให้ดีสมเด็จพระพันวัสสาฯ ท่านทรงใช้เงินเป็น เพราะฉะนั้นท่านคงไม่มาเปิดไฟทิ้งไว้

สำหรับสมุดบันทึก ในร่มเงาวังสระปทุม รูปเล่มปกแข็งพิมพ์สี่สีสวยงาม จำหน่ายราคาเล่มละ 255 บาท รายได้จากการจำหน่ายสมทบทุนก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

ส่วนงานนิทรรศการ ในร่มเงาวังสระปทุม จะจัดไปจนถึงวันที่ 23 พ.ย. นี้ เวลา 10.00-21.00 น. ที่แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ และซื้อสมุดบันทึกภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ในร่มเงาวังสระปทุม นี้ได้ในงาน สมุดบันทึกภาพถ่ายฝีพระหัตถ์มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2550
4 comments
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 11:53:28 น.
Counter : 1245 Pageviews.

 

น่าอ่านมากเลยค่ะ..มีขายแล้วยังคะ?
อยากไปซื้อค่ะ..

 

โดย: ญ่า (kayook ) 21 พฤศจิกายน 2550 13:13:10 น.  

 

เห็นวางขายที่ ร้านเซเว่น ด้วย
เดี๋ยวจะซื้อแจก ป้าๆ ลุงๆ น้าๆ ให้ครบเลบล่ะค่ะ

 

โดย: None of it 22 พฤศจิกายน 2550 14:57:08 น.  

 

ตามซื้อไดอารี่ วังสระปทุม มาตั้งแต่ปี 2549
แล้วจะพลาดเล่มนี้ได้ไง

 

โดย: นัทธ์ 23 พฤศจิกายน 2550 22:35:30 น.  

 

 

โดย: ทราย IP: 203.172.199.254 11 ธันวาคม 2550 10:52:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เจ้าสร้อยดอกหมาก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เจ้าสร้อยดอกหมาก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.