คนเราเริ่มต้นได้เสมอ ถ้าต้องการ ทุกวันคือการเริ่มต้น
Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

Maroon 5




Maroon 5

Maroon 5 ได้รับเสียงชื่นชมอย่างท่วมท้นกับซาวด์ดนตรีไฮบริด ร็อก/อาร์แอนด์บีในอัลบั้มเปิดตัวชุดแรก Songs About Jane ที่มียอดขายมากกว่าสิบล้านก็อปปี้ทั่วโลกและส่งให้พวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ถึงสองรางวัลโดยหนึ่งในนั้นคือรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2005 หลังจากระยะเวลาสี่ปีกับการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเคียงข้างศิลปินระดับตำนานอย่างวงเดอะโรลลิ่งสโตนและสตีวี่ วันเดอร์ ในวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาสมาชิกทั้งห้าของ Maroon 5 ก็พร้อมปล่อยอัลบั้มชุดที่สอง It Won't Be Soon Before Long ในสังกัดของ A&M/Octone Records ออกมาให้แฟนๆที่เฝ้ามารอมานานได้สมหวังซะที อดัม เลวีน นักร้องนำและมือกีตาร์ของวงเอาหัวเป็นประกันว่าอัลบั้มชุดที่สองนี้มีความเซ็กซี่ หนักแน่นและมีเนื้อหาที่ดำมืดยิ่งกว่าอัลบั้มชุดก่อนอย่างแน่นอน "มันหยั่งรากลึกถึงตัวตนที่เราเป็นมาโดยตลอด นั่นคือความแตกต่าง"

อัลบั้มชุดที่สองซึ่งบันทึกเสียงในลอสแองเจลลิสบ้านเกิดของพวกเขานั้น ได้รับการชี้แนะแนวทางจากโปรดิวเซอร์อย่าง Mike Elizondo (ผู้เคยโปรดิวซ์ให้ Fiona Apple, Eminem), Mark "Spike" Stent (ผู้เคยโปรดิวซ์ให้ Gwen Stefani, Bjork, Keane, Marilyn Manson), Mark Endert (ผู้เคยโปรดิวซ์ให้ Madonna, Fiona Apple) and Eric Valentine (ผู้เคยโปรดิวซ์ให้ Queens of the Stone Age, Nickel Creek) นอกจากนี้มันยังสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของมือกลองคนใหม่นามว่าแม็ตต์ ฟิลน์ จังหวะกลองที่หนักหน่วงขึ้นของเขาผสานรวมกับเสียงร้องของเลวีน เสียงกีตาร์ของเจมส์ วาเลนไทน์ เสียงเบสของมิคกี้ แมดเด้นและเสียงคีย์บอร์ดของเจสซี่ คาร์ไมเคิล "ทุกคนในวงต่างมีความสุขกับผลงานที่ออกมา" เลวีนกล่าวพร้อมกับยกความดีความชอบในครั้งนี้ให้ต้นสังกัดที่เปิดรับซาวด์ดนตรีและเนื้อหาแบบใหม่ "ในอัลบั้ม With Jane คุณจะฟังออกเลยว่าเราได้รับอิทธิพลมาจากวงดนตรีชื่อดังวงไหนบ้าง แต่กับอัลบั้มชุดนี้มันมีซาวด์ดนตรีที่เป็น Maroon 5 มากขึ้น" เลวีนกล่าว "เราได้กลายเป็นวงดนตรีที่มีความเป็นตัวของตัวเองและผมคิดว่าอัลบั้มชุดนี้จะช่วยเปลี่ยนมุมมองของคนฟังที่ว่าเราเป็นใคร"

จากซิงเกิ้ลแรก "Makes Me Wonder" เห็นชัดว่า Maroon 5 สามารถจับองค์ประกอบทั้งหมดที่ทำให้เกิดเพลงป๊อปร็อกสุดฮิตทั่วสากลโลกได้ เพลงนี้มีความพลิ้วไหวต่อเนื่องที่เริ่มจากอินโทรอันหนักหน่วงของเสียงเบสไปสู่เมโลดี้ที่ฟังติดหูแล้วจึงตามมาด้วยเนื้อร้องกระชากอารมณ์ที่ว่า "ถ้าพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ก็เมินซะเถอะ เพราะฉันไม่เชื่อใจเธออีกต่อไปแล้ว" เพลง "Makes Me Wonder" ยังได้รวบรวมความหมายที่อยู่ลึกลงไปกว่านั้นซึ่งเป็นสิ่งที่อดัม เลวีนเรียกว่า "ความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมกับทิศทางของโลกใบนี้" และกับผู้นำของโลก ซึ่งให้ความหมายในอีกด้านที่เป็นมากกว่าแค่เพลงอกหักรักคุดจังหวะเร้าใจ สำหรับเนื้อหาในเพลง "If I Never See Your Face" เป็นการพูดกันตรงๆโดยไม่ต้องปรุงแต่งใดๆถึงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่ต้องจบลงเมื่อรุ่งอรุณมาเยือน เสียงกีตาร์ในจังหวะที่สม่ำเสมอของเพลงนี้เป็นเหมือนเป็นการคารวะครูเพลงอย่าง Quincy Jones "Wake Up Call"เปิดตัวด้วยเสียงแผดกร้าวของดนตรีอีเล็กโทรนิกส์และใช้การร่ายฮิพฮอพถ่ายทอดเนื้อหาหม่นมืดที่เจาะลึกถึงการทรยศหักหลังและความโกรธแค้น

อัลบั้ม It Won't Be Soon Before Long ยังมีแง่มุมของความหวังอยู่ด้วยเช่นกัน ในเพลงสุดไฮเปอร์ที่เอาดนตรีร็อกมาปะทะดนตรีฮิพฮอพอย่าง "A Little of Your Time" (ซึ่งเลวีนเรียกมันว่า "เป็นแทร็กที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในอัลบั้มชุดนี้และมีเนื้อเพลงที่ดีสุดที่เราเคยแต่งขึ้น") พูดถึงความสัมพันธ์ที่จะต้องเอาชนะความไม่เชื่อใจและการเข้าใจผิดด้วยความอดทน ส่วนเพลงที่โดดเด่นด้วยเสียงเบสอย่าง "Won't Go Home Without You" ก็เป็นการอ้อนวอนอย่างเศร้าสร้อยว่า "ขอโอกาสให้ฉันได้แก้ตัวอีกสักครั้ง"

เลวีนกับคาร์ไมเคิลและแมดเด้นซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมปลายเดียวกันในเวสต์แอลเอ ได้เริ่มฟอร์มวงเป็นครั้งแรกในนามของ Kara's Flowers แม้โลกนี้ดูเหมือนจะอ้าแขนรับพวกเขาโดยให้พวกเขาได้มีโอกาสบันทึกอัลบั้มชุดแรกกับโปรดิวเซอร์ระดับตำนาน Rob Cavallo (ผู้ที่เคยโปรดิวซ์ให้ Green Day, Goo Goo Dolls) แต่อัลบั้มเปิดตัวของพวกเขา The Fourth World กลับไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขาย วง Kara's Flowers ถูกต้นสังกัดปล่อยลอยแพ ทำให้สมาชิกในวงต้องมาสุมหัวปรึกษากันว่าจะทำยังไงกับอนาคตของพวกเขากันดี การเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยดูจะเป็นคำตอบที่ลงตัว ระหว่างที่แมดเด้นยังคงอยู่ในลอสแองเจลลิสเพื่อเรียนต่อที่ UCLA ลีไวน์กับคาร์ไมเคิลย้ายไปยังฝั่งตะวันออกเพื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

หอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนิวยอร์กคือสถานที่ที่เปิดทางสว่างให้กับพวกเขา "โถงทางเดินก้องกังวานไปด้วยดนตรีกอสเปล คนในหอฟังเพลงที่เราไม่เคยฟังมาก่อนอย่าง Biggie Smalls, Missy Elliotและ Jay-Z" เลวีนย้อนระลึกถึงความหลังในอดีต "ตอนนั้นอัลบั้มของ Aaliyah กำลังวางแผงและเราก็แทบคลั่งกันไปเลย" ก่อนหน้านี้เขาได้รับอิทธิพลในการแต่งเพลงมาจากเดอะบีทเทิ้ล, บ๊อบ ดีแลน, ไซมอนแอนด์การ์ฟังเกลและศิลปินอื่นๆที่เขาได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้โลกทัศน์ด้านดนตรีของเขาได้ขยายกว้างขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เลวีนเริ่มฟังเพลงของสตีวี่ วันเดอร์และเปิดรับสไตล์การร้องเพลงในแบบใหม่ คาร์ไมเคิลเริ่มเล่นคีย์บอร์ดและอนาคตของพวกเขาก็เริ่มสดใสขึ้นอีกครั้งในแบบที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

เมื่อทั้งสองคนกลับมารวมตัวกับแมดเด้นที่แอลเออีกครั้ง พวกเขาก็เสริมความเข้มแข็งของวงด้วยการเพิ่มกลิ่นไอของอาร์แอนด์บีลงในดนตรีร็อกแอนด์โรลที่หนักหน่วง มุมมองทางดนตรีแบบใหม่นี้มาพร้อมชื่อวงดนตรีชื่อใหม่ว่า Maroon 5 กับสมาชิกห้าคนโดยมีมือกีตาร์คนใหม่ชื่อเจมส์ วาเลนไทน์มาเสริมทัพ "เจมส์เข้ามาในตอนที่เราตัดสินใจจะเปลี่ยนชื่อวงพอดี" เลวีนกล่าว "เห็นชัดว่าเราไม่ใช่วง Kara's Flowers อีกต่อไปแล้ว ด้วยการมีสมาชิกใหม่อย่างเจมส์และมีแนวดนตรีที่แปลกใหม่ไปจากเดิม"

ด้วยทัศนคติใหม่ ซาวด์ดนตรีใหม่และชื่อใหม่ วง Maroon 5 ก็สามารถดึงความสนใจจากค่ายเพลงต่างๆได้ในทันที ในตอนนั้น Octone Records ซึ่งเป็นค่ายเพลงอินดี้น้องใหม่ในนิวยอร์ก ได้เซ็นสัญญากับพวกเขา และในปี 2001 วง Maroon 5 ก็ได้เข้าห้องอัดโดยมีโปรดิวเซอร์อย่าง Matt Wallace (ผู้เคยโปรดิวซ์ให้ The Replacements, Faith No More) พวกเขาผสมผสานรากเหง้าความเป็นร็อกเข้ากับความรักในดนตรีอาร์แอนด์บีที่พวกเขาเพิ่งค้นพบ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คืออัลบั้ม Songs About Jane อัลบั้มชุดนี้ออกวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2002 มันมีทั้งดนตรีจังหวะป๊อป ท่วงทำนองเพลงโซลสุดคลาสสิกที่ผสานรวมกับเสียงกีตาร์ที่แผดไหม้และดนตรีร็อกทรงพลังที่กลั่นมาจากความรู้สึกภายใน และที่สุดยอดที่สุดคือเสียงร้องอันเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ของเลวีนที่ถ่ายทอดเรื่องราวของอดีตคนรักเก่า

อัลบั้มนี้มีเพลงฮิตติดชาร์ตถึงสี่เพลง หนึ่งในนั้นคือ "This Love" ที่ทำให้ Maroon 5 ได้รับรางวัล Best New Artist Moon Man ในงานประกาศผลรางวัล MTV Video Music Awards ปี 2004 เพลงนี้ไต่ขึ้นอันดับหนึ่งพร้อมกันในชาร์ตของ Top 40,VH1 และ MTV และกลายเป็นเพลงแรกที่ได้รับแผ่นเสียงทองคำขาวในฐานะที่ได้รับการดาวน์โหลดมากที่สุด ส่วนเพลงอื่นอย่าง "She Will Be Loved" ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Pop Performance by a Duo or Group With Vocal และอีกสองเพลงคือ "Harder to Breathe" กับ "Sunday Morning" ก็ติดชาร์ต Billboard Top 20 และ Top 40 ตามลำดับ นอกจากนี้วง Maroon 5 ยังได้เสนอชื่อเข้าชิงและคว้ารางวัลแกรมมี่สาขาศิลปินหน้าใหม่มาครองจนได้ ในระหว่างทั้งสี่ซิงเกิ้ลนี้ Maroon 5 ติดชาร์ตนานถึงสิบสัปดาห์ในปี 2004 และยึดครองได้ทั้งชาร์ต Modern Adult Contemporary, Hot AC และ Adult Top 40 charts จนถึงทุกวันนี้ อัลบั้ม Songs About Jane ได้รับแผ่นเสียงทองคำขาวในสหรัฐถึงสี่แผ่นและได้รับแผ่นเสียงทองคำหรือทองคำขาวในกว่า 35 ประเทศ

วง Maroon 5 ได้แสดงทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินชั้นนำจำนวนมาก ตั้งแต่วงโรลลิ่งสโตนไปจนถึงสตีวี่ วันเดอร์ (ที่งานคอนเสิร์ต Live 8 ในฟิลาเดลเฟีย) พวกเขาได้แสดงในรายการทีวีทุกรายการที่มีช่วงเชิญแขกรับเชิญที่เป็นนักดนตรีมาแสดง ไม่ว่าจะเป็นรายการ "Saturday Night Live," "The Late Show with David Letterman," "The Tonight Show with Jay Leno," "The Ellen DeGeneres Show," "Jimmy Kimmel Live," "The Today Show" และอีกมาก

หลังจากอัลบั้ม Songs About Jane ก็ตามมาด้วยอัลบั้มพิเศษรวมเพลงอันปลั๊ก Acoustic ในปี 2004 และอัลบั้มบันทึกการแสดงสด Live Friday, the 13th ในปี 2005 วง Maroon 5 ได้รับรางวัลแกรมมี่อีกครั้งในสาขา Best Pop Performance by a Duo or Group with Vocal จากบันทึกการแสดงสดเพลง "This Love" ในปี 2006

นอกจากผลงานเพลงแล้ว วง Maroon 5 ยังขึ้นชื่อในเรื่องความทุ่มเทต่อสิ่งแวดล้อม พวกเขาได้รับการเชิดชูเกียรติในงานมอบรางวัล Environmental Media Awards ประจำปี 2006 และเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้สละเวลาและแรงกายให้กับโครงการ Global Cool ซึ่งเป็นโครงการใหม่ล่าสุดที่ต่อสู้กับสภาวะโลกร้อนด้วยการกระตุ้นให้ผู้คนนับพันล้านทั่วโลกลดการใช้พลังงานลง ถ้าต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ก็เชิญคลิกไปที่ //www.maroon5.com




 

Create Date : 01 เมษายน 2551
1 comments
Last Update : 1 เมษายน 2551 3:26:09 น.
Counter : 983 Pageviews.

 

ชอบมารูน5ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นมารูน5ดีที่สุดและหล่อทุกคน
โดยเฉพาะ อดัม ลีไวน์

 

โดย: ทานากิ IP: 125.24.88.170 16 พฤษภาคม 2551 17:46:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เจ้าสร้อยดอกหมาก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เจ้าสร้อยดอกหมาก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.