ทริปเวียดนามล่ม แง แง แถมมันยังซวยซับซวยซ้อนอีก เฮ้อ
ว่าจะเขียนตั้งแต่กลับมาแล้ว แต่ว่า แฮะ แฮะ ไม่ว่างจริงๆ วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว ขอมาเม้าท์ซะหน่อยแล้วกัน
เรื่องของเรื่องก็คือ จริงๆตามแผนการณ์ที่ได้ตระเตรียมไว้ก็คือ 12 เดินทาง ไปถึงก็รีบทำงานๆ วันที่ 13 จะได้เที่ยวตั้งแต่เที่ยง ยัน ทุ่ม พอถึงวันเดินทาง คนขับแท๊กซี่ที่สนามบินฮานอยดันพาไปผิดสถานี ประมาณต้องขึ้นหมอชิต เค้าพาไปเอกมัย ทำให้เสียเวลา เลยไปถึงโรงงานช้า นัดไว้เที่ยง ถึงจริงๆบ่าย ก็ยังดีนะที่โทรบอกเค้าก่อน และโชคดีที่คราวนี้ใช้โทรศัพท์เราโทรที่เวียดนามได้
ไปถึงเค้าก็พาไปกินเฝอก่อนเลย เพราะมันบ่ายแล้ว เราก็รีบเลยค่ะ มันเป็นเฝอเนื้อ ไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ แต่ก็ต้องกิน เพราะไม่มีอะไรให้กิน ก็รีบกินเลยครับ เสร็จก็ไปโรงงาน นับๆๆ ตรวจๆๆๆ แต่มันไม่เสร็จหน่ะ แง ทำไงดี ต้องมาตรวจต่อพรุ่งนี้ อดดิคะ แผนที่จะไปเที่ยว ทั้ง Hochimin museum, Huan kiam lake อื่นๆอีกมากมาย แถมมีอาการแปลกๆด้วยเสียดท้องมากๆเลย กินข้าวเย็นที่โรงงานไปหน่อยเดียวเอง ไป check in ที่โรงแรมพนักงานต้อนรับเค้าก็น่ารักมากเลย เราบอกว่าเรา gassy stomach มียามั้ย เค้าบอกให้ไปที่ชั้น 7 นะ แต่พอถึงห้องเราเสียดท้องมากชนิดที่เดินตรงๆไม่ได้เลย จนถึงขนาดนอนเป็นกุ้งอยู่บนเตียงเลย พนักงานเค้ามาเคาะห้อง รอบแรกเอาผลไม้มาให้ รอบสองเอายามาให้ น่ารักมากๆเลยค่ะ ถึงแม้ว่ายาที่เอามาให้จะเป็นเหมือนยาหม่องน้ำก็เถอะ ได้แค่ทาท้องไม่สามารถช่วยเราได้เลย ขนาดกินยาช่วยย่อยที่พกมาก็เหอะ อาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวนอนเป็นกุ้งเลย รายงงรายงานทิ้งไว้เลย หลับตั้งแต่ 3 ทุ่ม ตื่นอีกที 5 ทุ่ม ยังเสียดอยู่แต่ต้องลุกมาเขียนรายงาน คิดถึงบ้านสุดๆ อยากหาหมอมากๆ ทั้งที่ปกติไม่ชอบไปหา เขียนเสร็จก็มานอนต่อ สรุปคืนนั้นหลับๆตื่นๆทั้งคืน ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ตื่นหน่ะก็เพราะเสียดท้อง พรุ่งนี้จะไปไหวมั้ยหน่ะ
เช้าบังคับยังไงก็ต้องตื่นไปทำงานค่ะ พยายามเดินตรง ลงไปกินอาหารเช้า กินน้อยมากๆ มันไม่อยากกิน ตอนแรกก็คิดว่าท้องอืดท้องเฟ้อ แต่มันก็ถ่ายนะ ไปโรงงานก็อ่อนระโหยซะ อยากทำให้เสร็จไวๆ จะได้กลับ เหมือนโดนแกล้ง กว่าจะเสร็จตั้ง 4 โมงเย็น
เครื่องบินออก 21.05 เพราะฉะนั้นต้อง Check in ให้ทันภายใน 20.20 แต่จากโรงงานที่ Haiphong ไป Hanoi หน่ะ 2 ชม.ครึ่งเกือบ 3 เลยนา ไม่หลับเลยค่ะ นั่งลุ้นตลอดเลย ถึง Bus station ก็หาคนขับแท็กซี่ที่นัดไว้ไม่เจอ ตอนนั้นหน่ะก็ ทุ่มนึงแล้ว โทรไปอุตส่าห์ส่งมือถือให้เค้าคุยกับคนเวียดนามแถวนั้น หล่อนก็ยังไม่เข้าใจอีก พอโกรธปุ๊ป ทำไมมันพูดภาษาอังกฤษ ได้คล่องปี๊ดซะขนาดนี้เนี่ย ไม่ดีเลย พอบอกว่าถ้าหล่อนไม่ติดต่อแท๊กซี่คนนั้นให้ชั้นจะเรียกคันอื่นแล้วนะ เต้นเลยมั้ง เค้าเลยให้เบอร์โทรมา มันน่าจะให้ตั้งแต่ทีแรก หรือไม่ก็บอกได้แล้วว่าเราอยู่ตรงไหน เพราะเราก็รู้แต่ว่ามันตรงปั๊มน้ำมัน กว่าจะหากันเจอ นะ แถมดันเป็นคนเดิมที่ทำเราช้าวันแรกอีก เซ็งเลย ก็บอกเค้าว่าเร็วหน่อย ต้องไปถึงให้ทัน 2 ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นหน่ะ ทุ่มครึ่งแล้ว ปกติมันต้องใช้เวลา 1 ชม ซึ่งถ้า 1 ชม.Check in ไม่ทันแน่ๆ เค้าก็เร่งให้นะ นั่งไม่ติดเลยค่ะ ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน หิวก็หิว เลยหยิบ Biscuit ขึ้นมากิน กินก็กินไม่ลงอีก ลุ้นสุดชีวิต บอกให้เค้าไปส่งชั้น 2 เลย เสร็จแล้วจะลงไปจ่ายค่ารถข้างล่าง
ให้ทายไปถึงกี่โมง อิอิ เฉียดฉิวสุดชีวิต 20.18 ค่ะ 2 นาทีก่อน Counter ปิด โชคดีสุดๆค่ะ เฮ้อ เกือบไปแล้ว ก็รีบเลยเพราะเค้าบอก Gate เปิด 20.30 แค่เข้าห้องน้ำ นั่งกิน biscuit 3 ชิ้นก็พอดีเลย
คิดว่าจะหมดแล้วใช่มั้ยหล่ะ ไม่ค่ะ ตอนแรกดีใจ เที่ยวนี้ดีจังฝาหรั่งเยอะ คนไทยน้อย คงเสียงไม่ดัง เพราะเราเหนื่อยมากๆอยากนอน ดันซวย ไปนั่งแถวเดียวกับคนไทย แต่คนละฝั่ง ตอนแรกคิดว่าชาติอื่น ที่ไหนได้คนไทย ขนาดแค่ 2 คนนะ หล่อนคุยกันรู้ทั้งเครื่องบิน แต่ละคำก็ไพเราะเพราะพริ้งทั้งนั้น เซ็งเลย จะนอนก็ไม่หลับ จนแบบไม่ไหวจริงๆถึงหลับ แต่กว่าจะหลับก็คงใกล้ถึงแล้วมั้ง ที่ตื่นหน่ะ ก็เพราะเสียงหล่อน 2 คนบ่นเรื่องญาติผู้ใหญ่ เรารำคาญเลยเอาหูฟัง MP3 ขึ้นมาใส่ แต่ไม่ได้ฟังเพลงนะ จน แอร์โฮสเตสมาบอกว่าให้ปิดก่อนนะคะ เราเลยบอกไปว่า อ๋อ ไม่ได้ฟังค่ะ เอามาอุดหูเฉยๆ เสียงคนข้างๆดังมาก เค้าก็เลยถึงบางอ้อ ไปบอกให้ แต่ซักพักก็ดังอีก เฮ้อ เซ็งจริงๆ ปล่อยเค้าไป คิดตามที่เพื่อนเคยด่าเราไว้ว่า อย่าไปสนใจ คิดแต่ว่า เค้าทำตัวแบบนี้ถึงเป็นได้แค่เนี้ย ก็เลยปลง เห็นเค้ามากับเพื่อนชายอีก 2 คน ก็ อืม ปล่อยเค้าไป
นึกว่าความซวยมันจะหมดแล้ว รอกระเป๋า เราก็ว่า เอ๊ ตั้งนานแล้วทำไมสายพานมันยังโล่งอยู่หน่ะ เอ๊ฝรั่งคนนั้น ขึ้นเครื่องลำเดียวกับเรานี่นา แต่เค้าได้กระเป๋าแล้ว หันไป กระเป๋าเรามาพอดี แต่มันไปอยู่บนสายพานของเครื่องที่มาจากพนมเปญซะงั้น เซ็งเลย เหนื่อยและง่วงเลยกลับดีกว่า ลงไปชั้น 1 อ้าว ทำไมมันโล่ง Taxi มันหายไปไหนหมด ถามยามเค้าบอกย้ายไปชั้น 2 โอ้ แม่เจ้า นึกจะย้ายทำไมไม่เปลี่ยนป้ายด้วย พอขึ้นรถก็ถามเค้าว่า เค้าย้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ สรุปตั้งแต่ ตุลา หลังจากที่เรากลับจากเวียดนามงวดก่อน ทำไมมันเป็นทริปที่แย่จริงๆเลยนะเนี่ยเวียดนามคราวนี้ เที่ยวก็อด แล้วยังซวยๆไงชอบกลอีก หวังว่าคราวหน้าคงไม่เป็นแบบนี้อีกนะ เฮ้อ งวดนี้เลยไม่มีภาพประกอบ ก็มีแต่สนามบิน Noibai ตอนก่อนกลับแค่นั้นเองนะ
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2550 11:28:25 น. |
Counter : 710 Pageviews. |
|
|
|