|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ความเข้าใจผิดเรื่อง "ความว่าง"
เมื่อชาวโลกได้ฟังคำกล่าวว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมทรงถ่ายทอด ธรรม คือ จิต เขาก็พากันเหมาเอาว่า มีอะไรบางสิ่ง ซึ่งจะต้องลุถึงหรือเห็นจ้างต่างหากไปจาก จิต และเพราะเหตุนั้น เขาจึงใช้ จิต เพื่อแสวงหา ธรรม โดยไม่รู้เลยว่า จิต และ ธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาพากันแสวงหานั้น เป็นสิ่ง ๆ เดียวกัน หน้า ๔๐ จิต ไม่ใช่สิ่งซึ่งอาจนำไปใช้แสวงหาสิ่งอื่น นอกจาก จิต เพราะถ้าทำดังนั้น แม้เวลาล่วงไปแล้ว เป็นล้าน ๆ กัปป์ วันแห่งความสำเร็จก็ยังไม่โผล่มาให้เห็นอยู่นั่นเอง การทำตามวิธีนั้นไม่สามารถจะนำมาเปรียบกันได้กับ วิธีแห่งการขจัดความคิดปรุงแต่งโดยฉับพลัน ซึ่งนั่นแหละคือตัว ธรรม อันเป็นมูลฐาน หน้า ๔๐ ถ้าพวกเธอซึ่งเป็นนักศึกษาเรื่อง ทาง ทางโน้น กำลังสำคัญผิดเกี่ยวกับ จิต จริงแท้ของเธอเองคือ จับฉวยความจริงไม่ได้ว่า จิต นั่นแหละ คือ พุทธะ ดังนี้แล้ว พวกเธอก็จะเที่ยวแสวงหาพุทธะนั้น ไปในที่ทุกหนทุกแห่ง เฝ้าสาละวนอยู่กับการบำเพ็ญวัตรปฏิบัติ และการเก็บเกี่ยวผลของการปฏิบัติ มีประการต่าง ๆ มัวหวังอยู่แต่การที่จะลุถึงซึ่งความรู้แจ้งโดยการปฏิบัติที่ค่อย ๆ คืบ ค่อย ๆ คลาน ไปด้วยอาการเช่นนี้เท่านั้น แต่แม้ว่าจะได้แสดวงหาด้วยความขยันขันแข็งอยู่ตลอดเวลาเป็นกัปป์ ๆ พวกเธอก็ไม่สามารถลุถึง ทาง ทางโน้นไปได้เลย หน้า ๔๑ วิธีการอย่างนี้ ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้กับวิธีการชนิดฉับพลัน กล่าวคือ การขจัดความคิดปรุงแต่ง โดยอาศัยความรู้อันเด็ดขาด ว่าไม่มีอะไรเลยที่จะตั้งอยู่อย่างไม่ต้องแปรผัน ไม่มีอะไรเลยที่จะอิงอาศัยได้ ไม่มีอะไรเลยที่จะมอบความไว้วางใจได้ ไม่มีอะไรเลยที่ควรจะเข้าไปอยู่อาศัย ไม่มีอะไรเลยที่ตั้งอยู่ในฐานะเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ หน้า ๔๑ มันต้องทำโดยการป้องกัน ไม่ให้ความคิดปรุงแต่งเกิดขึ้นมาได้เท่านั้น ที่พวกเธอจะสามารถรู้แจ้งเห็นจริงต่อ โพธิ และเมื่อเธอทำได้ดังนั้น เธอก็จะเห็นแจ้งต่อ พุทธะ ซึ่งมีอยู่ใน จิต ของเธอเองตลอดเวลาได้จริง! หน้า ๔๑ ธาตุทั้งสี่ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นร่างกายนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดมี ตัวตน ขึ้นมาได้ และ ตัวตน ก็มิใช่เป็นความมีอยู่จริง และเพราะว่ามันว่างจากข้อเท็จจริงอันนี้เองทำให้ลงสันนิษฐานได้ว่า ร่ายกายนั้นไม่ใช่ทั้ง ตัวตน ไม่ใช่ทั้งความมีอยู่จริง หน้า ๔๓ ยิ่งไปกว่านั้นอีก ส่วนประกอบ ๕ ส่วน ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นจิต (ตามที่รู้กันอยู่ทั่วไป) ก็ไม่ก่อให้เกิด ตัวตน หรือความมีอยู่จริงขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นจึงสันนิษฐานลงไปได้ว่า จิต (ซึ่งเรียกกันว่าตัวตน) นั้น ไม่ได้เป็นทั้ง ตัวตน หรือทั้งความมีอยู่จริง หน้า ๔๓ อวัยวะแห่งอายตนะทั้ง ๖ (คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ซึ่งใช้คำว่าสมองรวมอยู่ด้วยในที่นี้) พร้อมทั้งสัญญา ๖ อย่าง (คือ ความจำได้หมายรู้สึกในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในสัมผัสทางผิวหนัง และในความรู้สึกทางใจ) และอารมณ์ ๖ ชนิด (คือ ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางผิวหนัง และความรู้ทางใจเอง) ของสัญญานั้น ซึ่งได้ก่อให้เกิดโลกทางอายตนะขึ้นมานี้ ก็เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการทำความเข้าใจในทำนองเดียวกันกับที่กล่าวมานั้น หน้า ๔๓ สิ่งทั้ง ๑๘ สิ่ง ซึ่งเนื่องด้วยอายตนะ ดังที่กล่าวมาแล้วนั้นจะโดยแยกกันหรือรวมกันก็ตาม ย่อมเป็นของว่าง มันมีอยู่แต่ จิต-ต้นกำเนิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกจำกัดในทุกทิศทุกทาง และประกอบด้วยความไม่มีอะไรเจือปนอย่างเด็ดขาด หน้า ๔๓
Create Date : 13 กันยายน 2549 |
Last Update : 13 กันยายน 2549 16:32:09 น. |
|
1 comments
|
Counter : 449 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ทิวฟ้า วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:16:47:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เข้ามาอ่านขะรับ