Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
13 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
ในวันที่แม่ไม่อยู่


แม่จ๋า ในวันที่แม่ไม่อยู่ แม่รู้มั้ยว่าลูกเศร้ามาก ไม่มีแม่มาคอยปลอบโยน ลูกอีกแล้ว


ต้นเดือน มิ.ย. โทรหาแม่ เพื่อรอคำยืนยัน ว่า จะไปเที่ยวลาว กีบพี่ๆ แต่พ่อบอกว่า อย่าเพิ่งชวน แม่เที่ยวเลย


ช่วงนี้ แม่ไม่คอยสบาย ลูกก็ไม่คิดว่า แม่จะเป็นอะไรมาก เพราะปกติ แม่จะเป็นเบาหวาน อยู่แล้ว


และแม่ก็กินยามาตลอด ควบคุมอาหารตลอด แต่เมื่อพ่อบอกว่า พาแม่เข้าโรงพยาบาล ก็รู้สึกเป็นห่วงแม่จัง


วันที่ 27 มิ.ย.54


ได้ลงไปเยี่ยมแม่ที่ใต้ พร้อมน้องเก้า แม่จำน้อยได้ ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก ให้หอมก็หอม ให้กอดก็กอด ถามคำตอบคำ


คิดว่าแม่น้ำตาลขึ้นลงเร็ว ก็เลยทำให้จำไม่ได้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม่หายก็จำลูกได้เหมือนเดิมแล้ว


อยู่กับแม่จนถึงวันที่ 29 มิ.ย. ก็กลับโคราช


วันที่ 30 มิ.ย.54


พี่แอ๊ะ ลงไปหาแม่ และหมอก็ให้แม่ออกจาก ร.พ. เหตุผลว่า ให้ไปควบคุมน้ำตาลเอง เพราะแม่ไม่มีไข้


พี่แอ๊ะ กับพี่หมึกคิดว่า จะพาแม่มารักษาตัวที่กรุงเทพ อยากให้หายป่วยเร็วๆ จึงตัดสินใจ พาแม่เข้ากรุงเทพ


เข้าที่ร.พ.ธนบุรี วันที่ 3 ก.ค.54 คุณหมอเวร ถามอาการ เมื่อพี่แอ๊ะเล่าอาการให้ฟัง ก็พาแม่เอ็กซเรย์ สมอง ปรากฏว่า คุณหมอแจ้งพวกเราว่า


แม่มีเนื้้องอก แล้วจะทำ scan สมองอีกครั้งในตอนบ่าย แต่ผลที่ออกมา ทำให้พวกเราช็อกไปตามๆ กัน หมอแจ้งว่า แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่สมอง มันเป็นไปได้ยังไง แม่เนี่ยนะ เป็นมะเร็ง คนเป็นโรคนี้ ยังเที่ยวได้ปกติเหรอ ที่ผ่านมาแม่มาหาน้อยทุกเดือนเลย แม่เดินทางบ่อยมาก ไม่มีอาการของคนป่วยร้ายแรงเลย หมอวิเคราะห์ผิดรึเปล่า แต่ตอนนั้น น้อยก็ร้องไห้จนจะขาดใจตายอยู่แล้ว รับไม่ได้ แต่คนที่น่าสงสารมากที่สุดก็คือพ่อ พ่อน้ำตาไหล ตาแดงตลอดเวลาเลย ตอนกลางคืน หมอไม่ให้พวกเรานอนที่ร.พ. เพราะแม่อยู่ห้อง ไอซียู พวกเราก็เลยกลับไปนอนบ้านน้ามด เช้ามาก็นังแท็กซี่ไป ร.พ.กับพ่อ ระยะทางไกล้มาก แต่เราสองพ่อลูกเหมือน ไกลแสนไกล คิดถึงแม่ เป็นห่วงแม่ เมื่อคืนเราทิ้งให้แม่อยู่ที่ ร.พ.คนเดียว ระหว่างนั่งรถ พ่อน้ำตาไหล สงสารพ่อจัง พ่อรักแม่มาก พวกเราลูกๆ รับรู้ตลอด มาถึง ร.พ. หมอบอกว่า ต้องผ่าตัดด่วน ถ้าไมผ่า แม่จะอยู่ได้ เดือน หรือ สองเดือน แต่ถ้าผ่าตัดแล้ว แม่จะสามารถมีชีวิตได้อีก 1 ปี พวกเราก็ตกลงว่า ยังไงก็ต้องผ่าตัด รักษาแม่ให้ดีที่สุด หมอนัดผ่าตัดแม่วันที่ 4 ก.ค. ตอนเย็นพวกเราอยู่กันครบทุกคน รวมทั้ง น้ามด น้าแอน น้าหมู น้าแกะ ป้าณี นั้่งเฝ้าแม่ที่หน้าห้องผ่าตัด แม่หายเข้าไป ประมาณ 3 ชั่วโมง การผ่าตัด ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หมอขอคุยกับพวกเรา พ่อและพี่ๆ หลังผ่าตัด แจ้งว่า ได้ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกไปแต่ยังเหลือบางส่วนที่ข้างแกนสมอง เพราะถ้าผ่าไป จะเสี่ยงที่ทำให้แม่เป็น เจ้าหญิงนิทรา หมอก็เลยไม่ผ่าออก


เช้ามาหลังการผ่าตัด พวกเรารีบมาดูแม่ที่ร.พ. ปรากฏว่า แม่นั่งอยู่บนเตียง กินข้าวเอง หน้าตางี้สดชื่นเชียว พ่อบอกว่า พ่อดีใจจังเลย เห็นแม่หน้าตาสดชืนมาก ลูกก็ดีใจ เพราะ คิดว่า แม่ต้องหายแน่ๆ หมอย้ายแม่มาอยู่ห้องพิเศษ เพื่อดูอาการ ลูกอยู่เฝ้าแม่ตลอดหลังการผ่าตัด แล้วก็ขอแม่กลับไปทำงานต่อที่โคราช และวันเสาร์ก็มาหาแม่อีกครั้ง เพราะวันอาทิตย์ พีเชนจะพาแม่เข้าที่ศูนย์รักษาโรคมะเร็งที่สุราษฏร์ เพื่อฉายแสง ระยะแรก พ่อบอกว่า แม่อ่อนเพลีย ไม่แน่ใจว่า มาจากการเดินทางด้วยหรือเปล่า แม่ก็ทรงเรื่อยๆ แต่น้อยก็คิดว่า เด๊่ยวแม่ก็ดีขึ้น ต้องใช้เวลา หลังการฉายแสง 10 ครั้งผ่านพ้นไป พี่เชน พาแม่ย้ายมาที่ร.พ.เวียงสระ เพื่อรอพาแม่ไปหาหมอเพื่อตรวจอีกครั้ง พ่อไม่อยากให้แม่กลับบ้าน อยากให้แม่อยู่ในสายตาของหมอตลอด วันที่ 12 ส.ค. 54 พี่แอ๊ะไปเยี่ยมแม่ ที่ร.พ. และบอกว่า แม่ผอม จำอะไรไม่ได้มากกว่า เก่า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้แต่นอนนิ่งๆ แล้ว แต่ไม่มีใครกล้าบอกน้อย จนมาตอนเย็นที่ 20 ส.ค. 54 พ่อโทรมาบอกว่า "น้อย ทำใจดีๆ นะลูก แม่ไม่สบายมาก ไม่รู้จะอยู่ต่อได้อีกนานแค่ไหน ถ้ามาได้ ก็ให้มานะลูก" ประโยคนี้ อยู่ในหัวตลอดเวลา รับไม่ได้ กับสิ่งที่ได้ยิน แม่ของลูก แม่สุดที่รักของลูก กำลังจะหนีจากลูกไปแล้ว คิดกังวลไปหมด ภาวนาตลอดเวลาว่า "แม่จ๋า รอน้อยด้วย น้อยจะรีบไปหาแม่" เช็ค รถเพื่อเข้ากรุงเทพ ถามพี่แอ๊ะ ว่า เราจะกลับไปยังไงดี เป็นห่วงแม่จัง น้อยอยู่โคราช พี่แอ๊ะอยู่กรุงเทพ ตัดสินใจ ขึ้นรถจากโคราชตอน ตี 1 มาถึง ดอนเมือง ตอนตี 4 ซื้อตั๋วที่เคาร์เตอร์ตอนเช้า 7 โมง มาถึงสุราษฎร์ ตอน 8 โมง แต่ กว่า จะนั่งรถไปถึง ร.พ. ก็เกือบ 11 โมง


เจอแม่ แม่หายใจเร็วมาก หอบ แต่แม่จ๋า แม่ยิ้มให้น้อยด้วย น้อยดีใจจังเลยค่ะแม่ ได้คุยกับแม่ คุยให้แม่ฟังคนเดียว แม่ตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร บอกรักแม่ตลอด หอมแม่ จับมือแม่มากอด เหมือนเดิม แม่ยิ้มให้ แม่มองหน้า แล้วก็ยิ้ม บอกแม่ว่า น้อยมาหาแม่แล้วนะ สงสารแม่จัง แม่เจ็บตรงไหนบ้างมั้ย ไม่อยากจะคิดว่า แม่จะไปจากน้อย ไม่คิด ตอนกลางคืน ไม่กล้านอน เพราะ กลัวแม่ไปตอนที่น้อยหลับ ลากเก้าอี้ มานอนไกล้เตียงแม่ จับมือแม่ไว้ จนตี 2 อาการแม่แย่ลง เหมือนแม่จะไป พ่อสวดมนต์ให้แม่ พวกเราก็พูดให้แม่ ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว พวกเราโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ แม่หลับให้สบาย ไม่ต้องกังวลอะไรอีก แม่ยิ้่ม และมองน้อย มองพ่อ พี่แอ๊ะ พี่เชน (พี่หมึกต้องกลับนคร เพราะตอนเช้า ต้อง present งาน และบอกแม่ว่า พรุ่งนี้ 22 จะมาใหม่) สายตาที่แม่มอง เป็นสายตาของแม่ที่จำน้อยได้ แต่แม่พูดออกมาไม่ได้ แววตาดีใจ ที่เห็นหน้าลูกๆ กับพ่อ พี่แอ๊ะปล่อยโฮเลย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีแอบร้องไห้ แต่เสียงไม่มี รอบนี้ เสียงดังเลย พ่อบอกว่า เหมือนแม่สั่งลา แต่แม่ก็เหมือนรอพี่หมึก เพราะขาดพี่หมึกคนเดียว ที่บอกแม่ว่า จะมาพรุ่งนี้่อีกครั้ง เห็นแม่มองไปรอบๆ เหมือนจะหา ก็คิดในใจว่า เดี่ยวตอนเช้่าค่อยโทรบอกพี่หมึกให้รีบมา เพราะอยากให้พี่หมึกปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองก่อน ไม่อยากให้พี่เสียงาน ตี 4 เรียกพี่แอ๊ะมานั่งเป็นเพื่อน เพราะแม่ทรุดลงเรื่อยๆ ความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ พีแอ๊ะกับน้อย ก็เลย ได้หอมได้กอดแม่กันจนถึงเช้า แม่มองหาพี่หมึก เราก็เลยโทรหาพี่หมึกตอนเกือบ 7 โมงเช้า พี่หมึกก็ขอคุยกับแม่เราก็เอาโทรศัพท์ไปแนบกับหูแม่ และพี่หมึกก็บอกเราว่า ให้บอกแม่ว่า ให้หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว และน้อยก็เล่าให้พี่เชนฟังว่า พี่หมึกบอกมาให้บอกแม่ พอน้อยพูดจบ แม่ก็เกร็งมือ น้อยก้เรียกพ่อ พี่แอ๊ะวิ่งเข้ามาพอดี แม่ตาค้าง หัวใจหยุดเต้น พ่อกับน้อย ปิดตาให้แม่ พ่อสวดมนต์จนจบ แม่จ๋า น้อยได้ทำทุกอย่าง ที่แม่เคยส่งให้ ประโยคสุดท้ายของคำกลอน "หวังให้เจ้าปิดตา เวลาตาย" น้อยทำได้ค่ะแม่ แม่จ๋า น้อยรักแม่ค่ะ เคยคิดว่า จะอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มีแม่ และแม่ได้จากน้อยไปตอน 7.05 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 54 หากชาติหน้ามีจริง น้อยขอเป็นลูกของแม่ตลอดไปค่ะ
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน

จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน

ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน

แต่ชีพมิทนนาน ต้องร้าวรานสลายไป

ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ

คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน

ไม่รักก็ไม่ว่า เพียเมตตาช่วยอาทร

ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ

เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย

ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน

เฝ้าเลี้ยงจนตัวใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน

หวังเพียงจะได้ผล เติบโตจนสง่างาม

ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม

ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย

ต้นไม้ที่ใกล้ฝัง มีหรือหวังอยู่นานได้

วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

ยามมีกิจ หวังให้เจ้า เฝ้ารับใช้

ยามป่วยไข้ หวังให้เจ้า เผ้ารักษา

ยามถึงคราว ล่วงลับ ดับชีวา

หวังให้เจ้า เฝ้าปิดตา เวลาตาย






Free TextEditor



Create Date : 13 กันยายน 2554
Last Update : 15 กันยายน 2554 23:18:46 น. 2 comments
Counter : 673 Pageviews.

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
ขอให้คุณแม่ไปสู่สุคติด้วยเถิด


โดย: คีตาญชลี วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:23:44:56 น.  

 
เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อน ไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นอย่างไรดี

เพราะอ่านจบแล้วรู้สึกว่าตนเองจะน้ำตาคลอไปกับเรื่องที่เล่า

ยังไงก็ขอให้คุณน้อยแล้วทุกคนสู้ต่อไปนะคะ

เพราะเชื่อว่าคุณแม่ของคุณน้อยท่านไม่ได้ทิ้งไปไหน

แต่ท่านยังอยู่ในใจของลูกทุกคนเสมอค่ะ


โดย: พลอย_Ploi_โคนัน_Conan วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:4:38:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

karnguy
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





เป็นความสุขเล็กๆ ของเราค่ะ ที่ชอบทำอะไรแบบนี้ ก็จะแอบเล่นเนตตอนลูกหลับ ประมาณนั้น
;}
Friends' blogs
[Add karnguy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.