![]() |
||||
บ้านของฉัน...ถนนต้นยาง ![]() หลายๆ คนที่มาเที่ยวเชียงใหม่คงจะเคยผ่านเส้นทางที่ร่มรื่นเส้นนี้บ้างไม่มากก็น้อยถนนต้นยาง ใครๆ เค้าเรียกกันอย่างนั้น จริงๆ แล้วมันชื่อถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ถนนเส้นนี้ยาวจากเชิงสะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปจนถึงอำเภอเมืองลำพูน แต่เฉพาะเขตเชียงใหม่เท่านั้นที่ปลูกต้นยางต้นใหญ่ๆ อย่างนี้ไว้ ส่วนเขตของลำพูนก็จะปลูกต้นขี้เหล็กไว้เป็นสัญลักษณ์ เป็นการแบ่งเขตแดนแบบชาญฉลาดของบรรพบุรุษเรา แม่เราบอกว่าเกิดมาแม่ก็เห็นต้นยางพวกนี้แล้ว คนสมัยก่อนใช้เส้นทางนี้เดินทางไปในตัวเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งยายเราด้วย ถ้าคุณอยู่บนจุดชมวิวบนวัดพระธาตุดอยสุเทพ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นแนวต้นไม้เล็กๆ เป็นแถวยาวสีเขียวครึ้มๆ นั่นแหละค่ะถนนต้นยาง ![]() ต้นยางสูงตระหง่านดูน่าเกรงขาม มีอายุเป็นร้อยๆ ปี เวลาที่เราขับรถผ่านถนนเส้นนี้เราชอบมองขึ้นไปบนลำต้นที่ใหญ่โตน่าเกรงขามและสูงเสียดฟ้า ดูครึ้มร่มรื่น สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ขนาดเราเกิดและโตที่นี่ สัมผัสกับถนนสายนี้มานาน แต่เราก็ยังหลงเสน่ห์ของต้นยางบนถนนสายนี้ทุกครั้งที่ผ่าน แต่บนความสวยงามย่อมแฝงไปด้วยอันตราย ในฤดูฝนที่มีพายุลมแรง จะมีประกาศติดไว้ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เพราะถนนเส้นนี้จะไม่มีความสวยงามหลงเหลืออยู่เลย จะมีแต่ความน่าสะพรึงกลัว เพราะไม่รู้ว่าจะโดนกิ่งยางตกใส่หัวหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ทางราชการจะมีการตัดแต่งกิ่งยางทุกปี มันก็ยังอันตรายสำหรับคนบนท้องถนนอยู่ดี ![]() ถ้าใครมีธุระรีบด่วน ที่จะต้องเดินทางขึ้นเชียงใหม่ หรือล่องไปลำพูน บอกไว้เลยว่าโปรดใช้เส้นทางอื่น ยิ่งในช่วงเวลาทำงานและหลังเลิกงาน เพราะแม้แต่รถมอเตอร์ไซด์ยังแทบจะแซงกันไม่ได้ เนื่องจากถนนเส้นนี้แคบมาก ขยายถนนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีงบประมาณ แต่ลองคิดดูว่าแล้วจะตัดต้นยางฝั่งไหนเพื่อขยายถนน คงจะต้องมีใครหลายๆ คน (รวมทั้งเราด้วย) ลุกขึ้นมาประท้วงแน่นอน ![]() มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2442 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) เป็นผู้ริเริ่มนำพันธุ์ต้นยางมาปลูกสองข้างทาง จากขัว(สะพาน) ย่านอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ จนจรดเขตอำเภอเมืองลำพูน ท่านกำชับว่า ถ้าต้นยางตรงกับหน้าบ้านผู้ใดก็ให้เจ้าของบ้านผู้นั้นเอาใจใส่ทำรั้วล้อมรอบ เพื่อกันวัวควายเข้ามาเหยียบย่ำ และให้หมั่นรดน้ำพรวนดินดายหญ้าใส่ปุ๋ย โดยนำพันธุ์ต้นยางมาปลูกเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2425 ![]() ในปี พ.ศ. 2449 ( ร.ศ. 124) เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ได้ปรับปรุงเส้นทางสายนี้อีกครั้งโดยให้ มิสเตอร์ โรเบิร์ต ข้าหลวงโยธาเป็นผู้ให้คำแนะนำ ทำให้เส้นทางสายนี้สภาพดีขึ้น มีความกว้างกว่า 3 วา เท่ากันตลอดทั้งเส้น (หอจดหมายเหตุแห่งชาติ, ร.ศ. 124) เป็นที่มาของถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนสืบมาจนถึงปัจจุบันนี้ ถนนสายนี้เริ่มต้นที่เชิงสะพานนวรัฐ ตรงไปตำบลหนองหอย และเริ่มเลียบแนวปิงห่างที่วัดกู่ขาวไปจนถึงลำพูน โดยถนนบางช่วงอยู่บนผนังดินดินธรรมชาติของปิงห่าง มีความยาวทั้งหมด27.25 กิโลเมตร ความกว้างผิวทางเฉลี่ย 5.98 เมตร ร่มรื่นจังเลยค่ะ
โดย: สัญญาลมปาก
![]() ได้ยินชื่อ"ถนนต้นยาง" ก็เลยแวะมาเร็วพลัน
เพราะแน่ใจว่าต้องหมายความถึงถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน เป็นแม่นมั่น..แล้วก็จริงดังคาด เมื่อยี่สิบปีก่อน พอดิบพอดี..โชคดีได้ทุนมาเรียนที่วิทยาลัยครูเชียงใหม่ (สมัยนั้น) ต้องจากบ้านมาอยู่เชียงใหม่ถึงสี่ปี (ไม่ค่อยได้กลับเพราะอยู่ไกลถึงจันทบุรี) ก็เลยผูกพันและหลงรักเชียงใหม่อย่างถอนตัวไม่ขึ้น สำหรับถนนต้นยางสายนี้..ผ่านไป ผ่านมา หลายครั้งหลายหน เวลานั่งรถเมล์ไปลำพูน ก็ชอบมองต้นยางไปเรื่อยๆ .. ช่วงที่ไปฝึกสอนที่ป่าซาง ลำพูน..ก็ได้อาศัยถนนเส้นนี้อยู่บ่อยๆ ..มันเป็นถนนของความทรงจำเลยก็ว่าได้ ทุกวันนี้..ก็ยังคงคิดถึง คะนึงหา และไม่ว่าจะอีกนานเท่าใด.. เชียงใหม่..และลำพูน ก็จะยังอยู่ในใจตลอดกาล โดย: หกพันไมล์
![]() |
kanoon&aobaoon
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog All Blog Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |