|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มิติมหัศจรรย์
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่มาโพสต์ Comment นะคะ เนื่องด้วยคุณจุฑารัตน์ไม่มีอินเตอร์เน็ตส่วนตัวค่ะ ต้องใช้บริการร้านเน็ต จึงจะว่างมาตอบหรือพูดคุยกับเพื่อนๆ ในช่วงวัน เสาร์-อาทิตย์ นะคะ เพื่อนๆ สามารถทิ้งข้อความต่างๆ ไว้ได้ในแต่ละบล็อคค่ะ บล็อคมาสเตอร์ |
เป็นนิยายแนวแฟนตาซี ผู้เขียน จุฑารัตน์ จุดเด่นของเรื่อง เป็นเรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างเทพแห่งดวงดาวและหญิงสาวต่างมิติที่จะทำให้จดจำไปอีกนานแสนนาน ตัวละครสำคัญ พระเสาร์ - เทพแห่งดาวเสาร์ ผิวคล้ำ สูงสง่างดงาม แต่ดวงเนตรดุ นิสัยสันโดษ มั่นคงในสัจจะ พระอังคาร - เทพแห่งสงคราม จุติเป็นราชาจักรเพชร แกร่งกร้าว เข้มแข็ง ทิพย์อัปสร - นางฟ้าที่ไร้เดียงสา จนเป็นที่รักของสองเทพผู้ใหญ่โดยไม่รู้ตัว จุติมาเป็นทิพย์มณี ผู้มีความอ่อนโยนเมตตา นางฟ้าสุลักษณา - นางฟ้าที่สวยงามจนได้รับเลือกเป็นนาฏนารี จุติมาเป็นเจ้าหญิงพรรณรายผู้เลอโแม ที่ต้องระวังมิให้บ้านเมืองถูกปองร้าย เหศกัลยา - นางกินรีผู้งามล้ำ ซึ่งจุดประกายแห่งความรักแรกในพระทัยพระเสาร์ วิรุฬ - วิทยาธรหนุ่มผู้รอบรู้และเก่งกาจ ผู้มั่นคงในความรักจนวันตาย
เนื้อเรื่อง ในเทศกาลที่ดอกอาสาวีดีเบ่งบานซึ่งจะมีเพียงหนึ่งครั้งในรอบพันปี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ องค์อัมรินทร์ได้เป็นประธานจัดงานฉลองอันน่ารื่นรมย์ขึ้น โดยจัดงานฉลองให้กับปวงเทพทั้งหลาย มีการคัดเลือกนางฟ้าที่งามที่สุดบนสวรรค์มาเป็นนาฎนารี ซึ่งได้เทพธิดาสุลักษณาอันมีความงามพร้อมมาเป็นนาฎนารี เพื่อฟ้อนรำถวายแก่ปวงเทพ องค์พระเสาร์ พระราหู กับเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายได้มาร่วมในงานนี้อย่างพร้อมเพรียง แต่องค์พระเสาร์เป็นผู้รักสันโดษ จึงละออกจากงานมาเสียกลางคัน ทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ ท่องเที่ยวในป่าหิมพานต์ แล้วมาหยุดอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ในเวลานั้น มีนางกินรีสามพี่น้องจากเมืองภัทรานครที่ตั้งอยู่ที่ยอดเขาวินธัยผ่านมาคือ เกศประภา เกศสุดา และเกศกัลยา เกศกัลยาได้ทำสร้อยข้อมือบุษราคัมร่วงหล่นลงในเวลานั้น และองค์พระเสาร์เก็บได้พอดี ครั้งนางกินรีทั้งสามได้ติดตามหาสร้อยมาจนเจอองค์พระเสาร์ เกศประภาและเกศกัลยานั้นหวาดเกรงแววเนตรดุขององค์พระเสาร์จนต้องคว้าข้อมือของนางเกศสุดาบินหนีไปโดยไม่ทวงถามเอาสร้อยข้อมือคืน พระเสาร์ทรงติดใจความงามของเกศกัลยา ได้ให้อมรเทพสืบหาจนรู้ว่านางเป็นธิดาคนสุดท้องของท้าวธุมราชจึงคิดจะสู่ขอนาง ขณะนั้น นางเกศสุดาผู้พี่ก็มีใจให้กับองค์พระเสาร์เช่นกัน และเปิดเผยความในใจให้น้องทั้งสองรู้ พระเสาร์มาสู่ขอเกศกัลยาต่อท้าวธุมราช ท้าวธุมราชได้ให้เกศกัลยาตัดสินใจเอง เกศกัลยาไม่ได้รักพระเสาร์แล้วก็ยังรู้ความในใจของนางเกศสุดาแต่ก็เกรงบารมีพระเสาร์ นางจึงยอมตกลงจะแต่งงานด้วยแต่ว่าขอเวลาพระเสาร์สามปีเพื่ออยู่กับบิดามารดา และขอให้พระเสาร์ทำให้นางมีชีวิตอันเป็นอมตะ การขอทั้งสองข้อเป็นข้ออ้างเพื่อถ่วงเวลาออกไป เพื่อให้นางเกศสุดาได้มีเวลาใกล้ชิดพระเสาร์และทำให้พระเสาร์เปลี่ยนใจ ต่อมา เกศกัลยาได้หนีไปเที่ยวป่าหิมพานต์แต่เพียงลำพัง และได้โดนงูพิษกัดที่สระบัว วิทยาธรชื่อ วิรุฬ ได้ผ่านมาช่วยเหลือและพานางไปส่งที่ภัทรานคร เกศกัลยาเล่าเรื่องราวให้ท้าวธุมราชฟัง ท้าวธุมราชจึงทรงให้วิรุฬรับราชการอยู่ที่ภัทรานครเป็นการตอบแทน วิรุฬจึงยอมตกลงเพราะหวังใกล้ชิดกับเกศกัลยา ในที่สุด ทั้งสองก็รักกัน ฝ่ายพระเสาร์แม้มีอิทธิฤทธิ์มากมาย แต่ก็ไม่อาจทำให้นางกินรีเป็นอมตะได้ มีเพียงสร้อยพระศอมรกตอมตะรัตน์ของพระอุมาเทวีเท่านั้นจึงจะทำให้เป็นอมตะได้ แต่การจะไปขอสร้อยมาเปล่าๆ ก็ดูไม่ดี พระเสาร์จึงได้ไปหาหน่อต้นสุคนธบุษบงกลางทะเลไฟกรดมาปลูกไว้ที่เขาไกรลาศโดยปลอมเป็นคนเฝ้าสวน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ปลูกยากมาก เพื่อจะเอาไปแลกกับสร้อยพระศอของพระอุมาเทวี วันหนึ่งนางฟ้าชื่อทิพย์อัปสรซึ่งเป็นนางพระกำนัลคนใหม่ผ่านไปทางที่พระเสาร์ปลูกต้นคันธบุษบงอยู่ จึงได้พบกับพระเสาร์ซึ่งไม่ได้บอกฐานะที่แท้จริงกับนาง จากนั้นทั้งคู่ก็คบหากันเป็นเพื่อน ทิพย์อัปสรบอกพระเสาร์ว่าที่มาเป็นนางกำนัลเพราะอยากเห็นเทพผู้ใหญ่ ทำให้พระเสาร์เอ็นดูนางมาก พอวันเกิดของทิพย์อัปสร นางได้รับแหวนสุริยะจากพระแม่อุมา ส่วนพระเสาร์สอนมนต์บังฟ้าให้นางเพื่อให้ใช้ป้องกันตัว และหากศัตรูของนางเห็นว่าทิพย์อัปสรใช้มนต์บทนี้ก็จะรู้ว่านางมีพระเสาร์คอยคุ้มครองอยู่ ระหว่างนั้นพระอังคารก็เสด็จมาเยี่ยมพระอุมาเทวี แต่ไปเจอทิพยอัปสรกำลังเล่นปิดตากับนางกำนัล นางเดินมากอดพระอังคารเพราะมองไม่เห็น พอรู้ว่าเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักก็ร้องโวยวายให้จับผู้บุกรุกใหญ่ แล้วพระอุมาเทวีจึงได้บอกว่าทิพย์อัปสรว่านี่คือพระอังคารซึ่งเป็นเทพผู้ใหญ่อีกองค์ แล้วให้ทิพย์อัปสรไปรินสุราถวาย ทิพย์อัปสรเงอะงะทำสุราหกใส่พระอังคาร พระอังคารไม่โกรธแต่กลับทำให้พระอังคารประทับใจนางมากขึ้น ครั้นพอต้นสุคนธบุษบงออกดอกเบ่งบาน พระเสาร์ก็ย้ายต้นไม้ไปไว้ในทุ่งโล่ง กลิ่นของดอกคันธบุษบงขจรขจายไปทั่วเขาไกรลาศ พระอุมาเทวีทรงพอพระทัยมากได้ถามหาว่าใครเป็นผู้ปลูกต้นไม้นี้ พระนางจะประทานรางวัลให้ พระเสาร์จึงปรากฏองค์และเล่าเรื่องราวของเกศกัลยาให้ทราบพร้อมกับทูลขอสร้อยพระศอมรกตอมตะรัตน์จากองค์พระอุมาเทวี ซึ่งพระอุมาเทวีก็ประทานให้ ทิพย์อัปสรดีใจที่ความตั้งใจของพระเสาร์สำเร็จ แต่ก็เศร้าใจที่รู้ว่าพระเสาร์มีใจให้กับนางกินรีเกศกัลยา ทั้งละอายใจที่รู้ว่าตนหลงรักพระเสาร์ นางจึงตัดสินใจทูลลาพระอุมาเทวีกลับไปยังทะเลสีธันดรบ้านของนางในวันนั้นโดยไม่ได้บอกลาพระเสาร์ ฝ่ายพระเสาร์หลังจากไปเฝ้าพระแม่อุมา แล้วรู้ข่าวว่าทิพย์อัปสรไม่อยู่แล้ว ก็รู้สึกเศร้าใจ และเตรียมจะไปสู่ขอนางกินรีด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้ยินดี ทั้งที่จะได้แต่งงานกับสตรีที่หมายปองมานาน ส่วนพระอังคารก็ถูกพระศิวะขอให้จุติลงมาเมืองมนุษย์เพื่อปราบคนชั่ว แล้วพระศิวะก็ถามว่าพระอังคารต้องการอะไรบ้าง พระอังคารเลยทูลขอทิพย์อัปสรไปเป็นชายาทั้งในโลกมนุษย์และกลับมาบนสวรรค์กับพระแม่อุมาเทวี พระอุมาเทวีไม่ขัดข้องแต่ทิพย์อัปสรได้ทูลลากลับบ้านไปแล้ว จึงแนะให้พระอังคารไปขอทิพย์อัปสรกับพระสมุทรซึ่งเป็นบิดาของทิพย์อัปสร ระหว่างที่ทิพย์อัปสรกลับบ้านก็เกิดอยากเห็นหน้าเกศกัลยาจะงามขนาดไหน จึงเปลี่ยนทิศเดินทางไปยังภัทรานคร ระหว่างทางนางได้ถวายผลไม้แก่ฤาษีผู้หนึ่ง ฤาษีได้เตือนให้นางระวังตนไว้ อย่าได้ทำอะไรผลีผลามอันจะเกิดเป็นกรรมหนัก ทิพย์อัปสรกราบลาฤาษีแล้วเดินทางไปจนถึงภัทรานคร นางแอบได้ยินเกศกัลยาคุยกับวิรุฬ จึงได้รู้ว่าเกศกัลยากับวิรุฬรักกันมาก ถ้าพระเสาร์ไม่มาสู่ขอภายในเวลา 3 ปีตามสัญญา ท้าวทุมราชก็จะอนุญาตให้เกศกัลยาได้แต่งงานกับวิรุฬทันที ทิพย์อัปสรคิดไปตามประสาว่า ถ้านางช่วยให้ทั้งสองสมหวัง พระเสาร์ก็จะตัดใจจากเกศกัลยาไปเอง ทิพย์อัปสรจึงใช้มนต์บังฟ้าและแหวนสุริยะลวงให้คนในภัทรานครเข้าใจผิดเวลาผิดไปหนึ่งวัน ท้าวธุมราชเข้าพระทัยว่าครบกำหนดเวลาสามปีที่ให้สัญญากับพระเสาร์แล้วพระเสาร์ไม่เสด็จมาจึงจัดงานแต่งงานให้กับเกศกัลยาและวิรุฬซึ่งพระเสาร์ก็มาถึงพอดี พระเสาร์พิโรธมากที่พวกกินรีหาว่าพระองค์ไม่ตรงต่อเวลา จึงสาปพวกกินรีทั้งเมืองให้กลายเป็นหิน จนกว่าจะได้น้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 โลก มารดราดพื้นดินของภัทรานคร ฝ่ายทิพย์อัปสรพอใช้มนต์ที่เกินตัวแบบนั้นก็หมดสิ้นอิทธิฤทธิ์ที่มีจนใกล้ตาย นางเดินเท้าตั้งใจจะกลับทะเลสีธันดร แต่ก็มีคนธรรพ์มาจับตัวไว้ พระเสาร์ซึ่งกำลังกริ้วผ่านมาช่วยนางทันเวลา พอทิพย์อัปสรรู้ว่าพระเสาร์สาปพวกกินรีที่ภัทรานครเป็นหินหมดก็รู้สึกเสียใจมาก นางได้สารภาพกับพระเสาร์ว่านางเป็นคนใช้มนต์บังฟ้าเลื่อนเวลาในภัทรานครเอง เพราะนางรักพระเสาร์จึงไม่อยากให้พระเสาร์แต่งงานกับหญิงอื่น ที่นางทำไปเพราะคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะร้ายแรงขนาดนี้ พร้อมกับขอร้องให้พระเสาร์ถอนคำสาป พระเสาร์หายกริ้วแต่ไม่ยอมถอนคำสาปและได้พาทิพย์อัปสรไปรักษาตัวบนวิมานของตน เมื่อได้ใช้เวลาด้วยอยู่กัน พระเสาร์จึงรู้ว่าพระองค์ทรงรักทิพย์อัปสรและได้จัดงานแต่งงานระหว่างพระองค์กับทิพย์อัปสรขึ้นโดยให้อมรเทพส่งสาสน์ไปให้พระสมุทรที่ทะเลสีธันดร ฝ่ายพระอังคารและพระสมุทรได้ส่งคนออกตามหาตัวทิพย์อัปสรแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ กำหนดฤกษ์จุติของพระอังคารก็ใกล้เข้ามาทุกที ในที่สุดก็ได้รู้จากบริวารว่าทิพย์อัปสรกำลังจะแต่งงานกับพระเสาร์ จึงบุกมาในวันแต่งงานเพื่อแย่งตัวนางกลับไป พระราหูกับพระอินทร์ที่มาร่วมงานพยายามไกล่เกลี่ยแต่ไม่เป็นผล พระเสาร์กับพระอังคารต่อสู้กัน ทิพย์อัปสรถูกลูกหลงจนถึงแก่ความตาย แม้พระเสาร์ก็ช่วยเอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากทิพย์อัปสรต้องไปชดใช้กรรม พระอังคารเสียใจมาก แต่คิดได้ว่าจะต้องลงไปโลกมนุษย์อยู่แล้ว และคงจะได้เจอทิพย์อัปสร เลยเสด็จจุติโดยไม่รอฤกษ์ พระอินทร์ทราบข่าว ก็เลยส่งนาฏนารีลงไป หวังให้เป็นคู่ของพระอังคารแทนทิพย์อัปสร
Create Date : 08 กรกฎาคม 2551 |
|
8 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 22:13:42 น. |
Counter : 789 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: NuHring 8 กรกฎาคม 2551 17:46:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: NuHring 9 กรกฎาคม 2551 21:13:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: นัทธ์ 9 กรกฎาคม 2551 22:42:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: Youzen 5 มิถุนายน 2553 2:11:34 น. |
|
|
|
|
|
|
---------
---------
---------
|
|
|
|
|
|
|
เพราะว่าเคยดูละครเรื่องนี้ สมัยยังเด็ก....สนุกมากกก