Bloggang.com : ใจพรานธรรม : นิพพาน ...จากผู้รู้น้อยคนหนึ่ง

นิพพาน ...จากผู้รู้น้อยคนหนึ่ง

ขอนอบน้อม นมัสการแด่องค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
___________________________________________________

ถาม : นิพพาน นั้นเป็นอัตตา หรืออนัตตา?
เป็นอัตตาในสภาวะของของดับไม่เกิดอีกไป และเป็นอนัตตา ในสภาวะของไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน เป็นธรรมสมมติบัญญัติ เพื่อรองรับให้เข้าใจ ถึงผลของการหมดสิ้นไปจากกิเลส

ถาม : นิพพาน นั้นสุขเพราะอะไร ?
สุขเพราะไม่เกิดอีกต่อไป สุขเพราะดับเสียได้ในกิเลสตัณหา สุขเพราะปราศจากเครื่องร้อยรัด อื่นๆ..
ในคำตรัสของพระพุทธเจ้า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง หมายถึง ความหมดจดจากกิเลส อันไม่มีแดนเกิดในภพ หลุดพ้นไปจากสังสารวัฏเสียได้เป็นสุขอย่างยิ่ง และคำว่า อย่างยิ่ง ก็หมายถึง อย่างที่ไม่มีสุขอื่นใดที่ยิ่งไปกว่าสุขของการหมดจดจากกิเลส ประการนี้

ถาม : นิพพาน นั้นอยู่ที่ใด ที่จิตหรือที่ภพ ?
จะกล่าวว่าที่จิตก็ไม่ใช่ ไม่ใช่จิตก็ไม่ใช่ แต่อยู่ที่ความหมดจดของกิเลสเป็นสภาวะอันหนึ่ง นิพพานไม่ใช่ภพ ไม่ใช่เมืองแก้ว ไม่ใช่เมืองที่ผู้ไป"เกิด" แล้วเป็น อมตะ ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
เพราะนั่นยังไม่ใช่นิพพาน เพราะยังมีรูป มีนาม และนิพพานได้เพราะการ"เข้าถึง" มิใช่ด้วยการ "เกิด"

ถาม : นิพพาน มีแก่ผู้เข้าถึงนิพพาน เท่าไหร่ ?
มีสอง คือ อนุปาทิเสสนิพพาน และอุปาทิเสสนิพพาน

ถาม : นิพพาน สูญไหม ?
ตราบใดที่โลกยังไม่ว่างจากพระอรหันต์ นิพพานก็ยังมีอยู่
แม้เมื่อพระอรหันต์หมดสิ้นไปแล้ว นิพพานก็หมดไปแล้ว คือหมดแก่ผู้ยังเข้าไปไม่ถึงนิพพาน ถ้าผู้ปฏิบัติทำให้แจ้งได้ นิพพานก็ยังมีอยู่

ถาม : นิพพาน ทำไมจึงสุข ?
เพราะนิพพาน ไม่มีการเกิด-การตาย
มีแต่การเข้าถึง เป็นความดับสิ้นไปแห่งกิเลสตัณหา เพราะทุกข์ทั้งหลายมีได้เพราะการเกิด เมื่อดับเหตุให้เกิดทุกข์คือการเกิดเสียได้ ความทุกข์จักมีได้จากที่ใหน การแก่ก็ไม่มี การเจ็บ การพลัดพราก การไม่สมหวังความปราถนา การตาย จักมีได้จากใหน

ถาม : ที่สุดแล้วนิพพาน คืออะไร ?
คือการ"หมดจดจากกิเลส" เท่านั้นล่ะ

เรื่องสงสัยอย่างนั้นๆ เมื่อแจ้งเสียแล้ว ก็จะเห็นเป็นสมมติเสียทั้งสิ้น เห็นแม้กระทั่งว่านิพพานนี่ก็เป็นธรรมสมมติบัญญัติ
ถึงจะเข้าใจก็เข้าใจเพียงผล เพียงสภาวะ ที่คลุมเคลือ
พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอน ที่เหตุและผล จะเข้าใจถึงผล ถึงสภาวะ ได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ ก็ควรทำเหตุให้มีขึ้น จนเกิดผล
ทุกวันนี้เราหวังเอาแต่นิพพาน แต่เราอาจลืมไปว่า การทำให้จิตหมดจดจากกิเลสนั่นละ คือเหตุของนิพพาน แม้ไม่ต้องหวังนิพพาน นิพานมันก็แจ้งแก่จิตเอง
ถึงไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้ฟัง และแม้จะไม่มีคำว่านิพพาน
สภาวะอย่างนั้น ก็มีเกิดขึ้นเองเป็นธรรมชาติ มันเป็นสภาวะ เป็นธรรมดาอย่างนั้นๆ

....จะบัญญัติ จะสมมติให้เป็นคำอย่างไรๆ เป็นอัตตา หรือเป็นอนัตตา เป็นสุขหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นให้ต้องยึดถือเป็นสาระสำคัญแก่ผู้เข้าถึงนิพพานแล้ว

___________________________________________________

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษหนึ่งเดินทางไกลถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งประสงค์จะข้ามน้ำ จึงรวบรวมหญ้า ไม้ และกิ่งไม้มาผูกเป็นแพ แล้วพยายามพายหรือแจวไปจนข้ามถึงฝั่งโน้นได้โดยสวัสดี พวกเธอคิดอย่างไรถ้าบุรุษนั้นคิดว่าแพนี้มีประโยชน์แก่เขามาก พาเขาข้ามฝั่งได้โดยปลอดภัย แล้วก็แบกแพนั้นไปด้วย บุรุษนั้นทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่"

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "ไม่ถูกต้องพระเจ้าข้า ทางที่ถูกบุรุษนั้นควรจะผูกแพนั้นไว้ริมฝั่ง หรือยกขึ้นมาเกยบนบกแล้วเดินทางต่อไป เพราะหมดความจำเป็นที่จะต้องอาศัยแพอีกแล้ว"

พระพุทธองค์ตรัสว่า "เช่นเดียวกัน ภิกษุทั้งหลาย เราแสดงธรรมเพื่อเป็นการปฏิบัติเพื่อออกไปจากทุกข์ดุจแพนำไปสู่ฝั่งไม่ใช่เพื่อให้ยึดมั่นถือมั่น แม้ธรรมะยังจะต้องละ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอธรรมจะให้ยึดถือต่อไป "

....เป็นความคิดของผู้รู้น้อยคนหนึ่ง ผิดพลาด ขอปราชญ์บัณฑิตผู้รู้ ชี้แนะแก้ไข

ขออนุโมทนาสาธุครับ

Create Date : 18 พฤษภาคม 2553

Last Update : 18 พฤษภาคม 2553 15:34:28 น.

7 comments

Counter : 544 Pageviews.

สวัสดีค่ะ..แวะมาทักทายค่ะ

โดย: nootikky

วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:15:49 น.

ทักทายตอนบ่ายๆ จ้า ^_^

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว

วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:38:59 น.

อนุโมทนาด้วยครับ สาธุๆๆ

โดย: oneshot

วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:40:51 น.

ทักทายคราฟ

โดย: nuyza_za

วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:18:54 น.

อนุโมทนาสาธุค่ะ ถูกใจคำตอบอันนี้

ถาม : นิพพาน นั้นเป็นอัตตา หรืออนัตตา?
เป็นอัตตาในสภาวะของของดับไม่เกิดอีกไป และเป็นอนัตตา ในสภาวะของไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน เป็นธรรมสมมติบัญญัติ เพื่อรองรับให้เข้าใจ ถึงผลของการหมดสิ้นไปจากกิเลส

โดย: เพื่อนธรรม IP: 118.173.78.189 วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:15:55 น.

ขอบคุณ คุณใจพรานธรรม มากนะคะ ที่ช่วยชี้แจง เรื่องการกรวดน้ำ ให้ได้เข้าใจ

ขอบคุณมากๆค่ะ ^^

โดย: หิ่งห้อยดาวพฤหัส

วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:14:12:53 น.

สาธุกับคุณใจพรานธรรม

โดย: ฤทัยทิพย์ วานิชกมลนันทน์ IP: 119.42.91.226 วันที่: 2 มกราคม 2554 เวลา:20:54:07 น.