งานวันเกิดสาวน้อย 10 ขวบ ปี 2554 ค่ะ(Happy Birthday Farmer Ching Ching 2011)
Theme ของปีนี้เจ้าของวันเกิดเลือกจะเป็นชาวนาค่ะ หุ่นไม่ให้แต่ใจรักค่ะ คุณแม่ก็เลยพาไปเยี่ยมคุณณรงค์ บัวศรี เกษตรกรรางวัลดีเด่น แต่ที่เราเลือกไปเยี่ยมเยือนคุณลุง(ขออนุญาตเรียกตามที่แกใช้สรรพนามเรียกตนเองนะคะ) นั้นเพราะที่ดินของแกอยู่ใกล้บ้านเราที่สุด คืออยู่ในเขตสะพานสูงค่ะ อีกทั้งคุณลุงยังให้กทม. ใช้ที่ดินของแกเป็นโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ของกรุงเทพมหานครแห่งที 4 ฉะนั้นคุณลุงจึงมักมีผู้เยี่ยมเยือนตัวน้อยจากโรงเรียนต่าง ๆ แถวนั้นเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ (ขอขอบคุณคุณณรงค์ บัวศรีและครอบครัวมา ณ ที่นี้ค่ะ และขอขอบคุณครอบครัวฟ้าสวยฟ้าใสที่ไปเดินเป็นเพื่อนกัน และกินข้าวเป็นเพื่อนกันค่ะ)
คุณลุงเองใช้เครื่องมือไถนาและเกี่ยวข้าวแล้วนะคะ ซึ่งคุณแม่ก็เห็นด้วยเมื่อเทียบกับต้นทุนทางเวลาและกำลังนะคะ
การที่คุณแม่เลือกที่ใกล้บ้านนั้น เพราะคิดหวังไว้ว่าเราจะสามารถไปเยี่ยมเยือนผืนนาแกได้เป็นประจำ เพื่อที่จะไปเฝ้าดูการแปรเปลี่ยนเติบโตของต้นข้าวได้บ่อยครั้ง และได้เห็นการเปลี่ยนผ่านไปตามครรลองของฤดูกาล ชาวนาสมัครเล่นอย่างเรา คงยังไม่มีความสามารถพอที่จะลงมือปฎิบัติเองอย่างจริงจัง แต่อนาคตเธออาจเป็นชาวนาที่ตัวขาวที่สุดก็เป็นได้ใครจะทราบได้ นอกจากตัวเธอเองเท่านั้น
แน่นอนนะคะ สาวน้อยของเรายังชอบเล่นเกมอยู่ค่ะ คุณแม่ก็เลยให้ทำแผนที่แรลลี่เป็นหนังสือทำมือนะคะ โดยใช้รายละเอียดจากหนังสือ " "บ้านพ่อ" วังสวนจิตรลดา" (จัดทำโดยโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ร่วมกับ บริษัท ศริริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)
จากนั้นคุณแม่ก็ชี้ให้เห็นว่า "น้ำ" เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเกษตร ค่ะ
น้ำ คือชีวิตของคน สัตว์ และพืช
เราออกไปแรลลี่กันเลยค่ะ
ของจริงสัดส่วนมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมค่ะ
ผัก ผลไม้ ไม้ประดับ รอบ ๆ ที่นานับได้สิบกว่าชนิด คุณลุงขยันนำไปขายตลาดนัดกรุงเทพฯ กรีฑาทุกเช้าวันจันทร์และพฤหัสบดีด้วยค่ะ
พื้นที่บางส่วนปรับเปลี่ยนใช้ทำประโยชน์ให้เกิดรายได้ตามยุคสมัยค่ะ เช่นให้เช่าที่ในการทำร้านอาหารและโฮมสเตย์ "กรุงเทพกลางนา" อาหารรสชาติที่ไปกินปีที่แล้วดีกว่านี้ และราคาก็แพงขึ้นค่ะ แต่เทียบกับร้านอาหารทั่วไปก็ไม่แพงนะคะ อีกทั้งได้บรรยากาศที่ร่มรื่นเขียวขจีค่ะ ทางไปก็ไม่ยากนะคะ อยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 25 ตั้งแต่ปากซอยมีป้ายตลอดค่ะ เข้าซอยแล้วเลี้ยวซ้ายแรก ตรงเข้ามาประมาณเจ็ดร้อยเมตรจะเห็นป้ายซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปในซอยนั้นได้เลยค่ะ(ส่วนซอยกาญจนภิเษก 25 จะอยู่ทางคู่ขนานเยื้อง ๆ กับด่านทับช้าง ฝั่งเข้าหาสุวรรณภูมิค่ะ พอผ่านสะพานก็เลี้ยวซอยแรกค่ะ) และพื้นที่บางส่วนก็เป็นบ่อเลี้ยงกบส่งร้านอาหารค่ะ แต่คุณลุงบอกเราว่าจะเลิกแล้วเพราะเบื่อทุบหัวกบค่ะ และมีบ่อบัวไว้เก็บขายทั้งดอกบัวสายบัวค่ะ
ภาพจากปีที่แล้วหลายสิ่งก็ไม่เจอในครั้งนี้ค่ะ หรืออาจต้องรอให้ถึงช่วงเวลาเดียวกัน
แวะเข้าไปดูภายในโรงสีชุมชนซึ่งทำเหมือนโรงจอดรถเท่านั้นค่ะ มีเครื่องสีข้าวแบบใช้น้ำมันดีเซล เครื่องฝัดข้าว และเครื่องแยกขนาดเมล็ดข้าว เรียกว่าคุณลุงทำได้เองหมดนะคะ แกยังบอกว่าจริง ๆ แกสามารถใช้ชีวิตอยู่ในนี้ได้เป็นปี หากต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอกค่ะ เด็ก ๆ ไปสนุกสนานกับเครื่องชั่งข้าวสารแบบเก่า เมื่อก่อนคุณแม่เคยเห็นแต่ที่สำเพ็ง ซึ่งเขาใช้ชั่งเม็ดธัญพืชเป็นกระสอบค่ะ
ของฝากจากคุณลุงและแปรรูปเรียบร้อยค่ะ
กลับมาวาดรูปความประทับใจกันต่อค่ะ
เด็ก ๆ ลุ้นมากเพราะมะละกอที่บ้านขาดแดด สูงหาแดดอย่างเดียวไม่มีลูกเลยค่ะ
เด็ก ๆ แปลกใจอยากเห็นคนกินกบ แต่ตัวเองไม่กล้ากินค่ะ
กลับมารับปริศนาที่บ้านต่อค่ะ
ขออภัยที่สีขาวหม่นไปหน่อยค่ะ
ผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรที่เด็ก ๆ ชื่นชอบค่ะ นั่นก็คือพิซซ่าและไอศกรีมค่ะ
เราซื้อแป้งสำเร็จรูปจากในเน็ตค่ะ วิธีทำแสนง่ายจากเจ้าของร้านค่ะ ทาเนยให้ทั่วแผ่นด้านที่จะใส่หน้า ทาซอสพิซซ่า(หรือซอสมะเขือเทศ) ทามายองเนส ใส่หน้าตามใจชอบ ใส่ชีสที่ชอบค่ะ คนขายบอกว่าใช้ได้ทั้งไมโครเวฟและเตาอบ แต่เราลองทั้งสองอย่างแล้ว ใช้ไมโครเวฟไม่ผ่านนะคะ ฉะนั้นนำใส่เตาอบตั้งไฟ 220 องศา 4 นาทีค่ะ (ขอบคุณวิธีทำจากคนขายนะคะ ไหน ๆ แล้วก็โฆษณาให้เสียเลยนะคะ เผื่อใครสนใจตามไปสั่งได้นะคะร้านขายแป้งพิซซ่าค่ะ)
เยี่ยมชมโรงงานไอศกรีมของน้องปลายฟ้า กับเพื่อนโฮมสคูลอีกสองครอบครัวค่ะ เจ้าของโรงงานคุณพ่อกับคุณแม่น้องปลายฟ้า ก็เป็นเพื่อนโฮมสคูลของเราเองค่ะ วันนั้นนอกจากจะนำชมโรงงานแล้ว ยังให้ไอศกรีมเด็ก ๆ กลับบ้านมาทานกันอร่อยเย็นชื่นใจกันไปทั่วหน้าค่ะ (ขอบคุณคุณเบ็นคุณพ่อของน้องปลายฟ้า คุณไก่คุณแม่ของน้องปลายฟ้า น้องปลายฟ้า และเจ้าหน้าที่ทุกท่านค่ะ รวมทั้งขอขอบคุณครอบครัวคุณเก๋ กับคุณอันผู้ร่วมทีมของเราในวันนั้นค่ะ และถ้าใครอยากทราบประวัติไอศกรีมหรือวิธีทำ ขอเชิญที่เวป icyzone ขอขอบคุณเวปไอซี่โซน มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)
ตบท้ายด้วยการทำความดี ด้วยการไปช่วยย้ายเวิร์คชอพของผ้าทอมือซาโอรินะคะ เด็ก ๆ ช่วยอะไรไม่ได้มากค่ะ แต่แอบได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 10 บาท กับ 7 บาทเท่าอายุตามลำดับ จากป้าแมวผู้ดำเนินการเวิร์คชอพค่ะ (ขอขอบคุณแม่เปาหรือป้าแมวมา ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ ท่านสามารถเข้าไปเยี่ยมชมบล็อกของแม่เปาเพื่อดูรายละเอียด รูปภาพและความก้าวหน้าของโครงการได้โดยคลิกที่นี่นะคะ)
ขอให้ชิงชิงมีความสุข แข็งแรง และอดทนค่ะ
ปีนี้สาวน้อยของเราสิบขวบแล้วค่ะ เริ่มที่จะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยรุ่น แต่ประสบการณ์ก็ยังคงตามไม่ทันร่างกายและอารมณ์ความรู้สึก คุณแม่ก็หวังว่าแกจะสามารถจัดการประคับประคองให้ทุกอย่างกลมกลืนกัน และเติบโตอย่างแข็งแรงและสวยงามค่ะ
ขอบคุณ BG สวย ๆ จากคุณ Hawaii_Havaii ค่ะ
Create Date : 20 มิถุนายน 2554 |
|
15 comments |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2554 9:07:08 น. |
Counter : 1144 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะค่ะ
//thailandtravel.bloggang.com/
สถานที่ท่องเที่ยว จองโรงแรม