อึ้ง! เด็กอินโดฯ ได้กลับบ้าน หลังสึนามิซัดหลง 7 ปีก่อน
ปาฏิหาริย์! เด็กอินโดฯ ได้กลับบ้านอีกครั้ง หลังพลัดหลงกับพ่อแม่ ช่วงเกิดสึนามิถล่มอินโดฯ 7 ปีก่อน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ว่า เด็กหญิงชาวอินโดนีเซียคนหนึ่งได้กลับมาพบกับพ่อแม่อีกครั้งราวปาฏิหาริย์ หลังจากเธอพลัดหลงกับพ่อแม่ไปตั้งแต่เหตุการณ์สึนามิถล่มอินโดนีเซียเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เด็กหญิงคนดังกล่าวซึ่งปัจจุบันอายุ 14 ปีแล้ว มีชื่อว่า แมรี่ ยูรันดา ได้พลัดหลงกับพ่อแม่ในช่วงเหตุการณ์สึนามิถล่มจังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น และมีผู้หญิงคนหนึ่งมาพาเธอไปอยู่ด้วย พร้อมกับบังคับให้หนูน้อยนั่งขอทานอยู่ข้างถนน
และความโชคดีก็บังเกิดขึ้นกับ แมรี่ เมื่ออีก 7 ปีต่อมา ขณะที่เธอออกเดินตามหาพ่อแม่ตามร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองเมอลาโบะห์ จังหวัดอาเจะห์ ก็ได้พบกับคนขับแท็กซี่ใจบุญคนหนึ่ง ที่รู้จักหมู่บ้านที่เธอต้องการไป หลังจากเธอบอกชื่อหมู่บ้าน และชื่อของคุณปู่ ซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนาที่มีชื่อเสียงของท้องถิ่น ให้คนขับแท็กซี่รู้ คนขับแท็กซี่ก็พาเธอไปส่งที่บ้านทันที และทำให้เธอได้พบหน้านายทาร์เมียส ผู้เป็นพ่อ และนางยูสนิดาร์ ผู้เป็นแม่ที่พรากจากกันไปนานกว่า 7 ปีอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ
แน่นอนว่า ด้วยเวลาที่ผ่านไปนานกว่า 7 ปี ทำให้ แมรี่ เริ่มโตเป็นสาวแล้ว จึงไม่แปลกที่คนในครอบครัวของเธออาจจะจำหน้าเด็กสาวไม่ได้ แต่นางยูสนิดาร์ แม่ของเธอก็มั่นใจว่า เด็กสาวที่ปรากฏตรงหน้าคือลูกสาวที่หายตัวไปตอนเกิดสึนามิแน่นอน เพราะหน้าตาละม้ายคล้ายคลึง นอกจากนั้นเด็กสาวยังมีปานที่ท้อง รวมทั้งยังมีไฝ และรอยแผลเป็นบนหน้า ตรงกับตำหนิของลูกสาวที่หายตัวไปเมื่อ 7 ปีก่อนทุกประการ
"ฉันไม่สามารถบอกได้เลยว่า ฉันรู้สึกดีใจมากขนาดไหนที่ได้พบลูกสาวอีกครั้ง" นางยูสนิดาร์ บอก ขณะที่ แมรี่ เอง ก็เล่าว่าตอนที่พบหน้าแม่ครั้งแรก เธอมั่นใจเลยว่า ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของเธอแน่นอน
ทั้งนี้ นายทาร์เมียส และ นางยูสนิดาร์ มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่เหตุการณ์สึนามิถล่มมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี พ.ศ.2547 ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 220,000 คน ได้พรากลูกสาวของพวกเขาสูญหายไปถึง 2 คน หนึ่งในนั้นก็คือ แมรี่ ยูรันดา ที่โชคดีได้กลับมาพบหน้าพ่อแม่อีกครั้งราวปาฏิหาริย์ ขณะที่ลูกสาวคนโตของพวกเขายังคงหายสาบสูญ และไม่มีข่าวคราวใด ๆ
ที่มา กระปุกดอทคอม
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [