Group Blog
กันยายน 2554

 
 
 
 
2
5
6
8
11
13
14
20
22
23
24
25
28
29
 
 
All Blog
“เปรตกู้” ไม่เข็ด! อวดอุตริอ้างเป็นร่างปู่ฤๅษีตาไฟ ตุ๋นเงินแสนเหยื่อ
Photobucket

“เปรตกู้” จอมแสบยังไม่เข็ด อ้างตัวเป็นร่างทรงหลวงปู่ฤๅษีตาไฟ ทำพิธีเสริมดวงชะตา ทำผัวรักผัวหลง ลวงอวดอ้างเสกกระดาษธรรมดาเป็นเงินได้ หลอกเงินเหยื่อสาวไปกว่า 3 แสนบาท

วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ3) กก.1 บก.ป.แถลงการจับกุม นายกร หรือ กิตติ ปภัสโรบล หรือ อาจารย์กู้ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เปรตกู้” คำชะโนด อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/266 หมู่ 1 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง คัมภีร์ใบลานลงอักขระ เสื้อเชิ้ตสีขาว จับกุมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ได้ที่ชั้น 5 อาคารชลดา เลขที่ 40/59 หมู่ 2 ซ.แจ้งวัฒนะ 10 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา น.ส.เกศรินทร์ เขจรจิตร อายุ 33 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่า ได้รับคำชวนจากเพื่อนที่รู้จักกันให้มาดูดวง กับนายกร ซึ่งเคยดูดวงให้เพื่อนแล้วปรากฏว่าดูแม่น ด้วยความที่ตนเป็นคนศรัทธาเรื่องนี้อยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนั้นประสบปัญหาเรื่องเงินที่ต้องเป็นหนี้สินหลายแสนบาท จึงไปดูดวงและทำพิธีเสริมดวงกับนายกร เมื่อประมาณปลายปี 2553

น.ส.เกศรินทร์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ ไม่ทราบมาก่อนว่านายกร คือ คนเดียวกับอาจารย์กู้ เปรตคำชะโนด เมื่อพบกันก็ดูดวงให้ ปรากฏว่า ทราบภูมิหลังตนหลายๆ เรื่อง นอกจากนี้ ยังทำหลายอย่างที่สร้างความประหลาดใจให้หลายเรื่อง เช่น ให้อธิษฐานจิตจนสามารถนำภาพใบหน้าพ่อตนมาแสดงได้ เสกกระดาษเป็นธนบัตร เสกสลับเลขสลากกินแบ่ง โดยอ้างว่า สามารถทำพิธีเสริมบุญแล้วจะได้เงิน 58 ล้านบาท รวมทั้งยังอ้างตัวเป็นร่างทรงหลวงปู่ฤๅษีตาไฟ หลวงปู่นารอด หลวงพ่อหลักเมืองหลายองค์

น.ส.เกศรินทร์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ดูดวงเสริมชะตาเสร็จก็มีการติดต่อเรื่อยมา ซึ่งมีทั้งทำบุญ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ทำพิธีปิด ณ หน้าทอง ซึ่งแต่ละพิธีก็ต้องเสียเงินทำบุญไปหลายหมื่นบาท จากนั้นก็เป็นพิธีใหญ่ซึ่งจะทำให้ตนได้เงินหลายสิบล้าน แต่ต้องเสริมดวงชะตาบารมีโดยเดินทางไปทำพิธีหลายจังหวัดแต่ที่ไปบ่อยครั้ง คือ ที่ จ.ศรีสะเกษ แต่พิธีก็ยังไม่เสร็จเสียที ระหว่างนั้นยังชักชวนให้นำเงินไปลงทุนเล่นการพนันในบ่อนการพนันแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯด้วย ซึ่ง นายกร อ้างว่า มีคนรู้จักรู้วิธีเล่นแล้วกำไรหกสิบกว่าล้านบาท ตนก็หลงเชื่อเพราะต้องการหาเงินไปใช้หนี้สิน จึงนำรถยนต์ไปจำนำได้เงินมาก้อนหนึ่งก็แบ่งให้นายกรไปหนึ่งแสนบาท เพื่อไปเล่นในบ่อน แต่ก็ไม่เป็นไปตามนั้น

“ช่วงหลังเริ่มคิดว่าถูกหลอก จึงเริ่มรู้สึกตัว ขอให้เพื่อนที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดช่วยตรวจสอบประวัติ จึงมาทราบความจริง แต่ขณะนั้นก็เสียเงินค่าพิธีต่างๆ ไปกว่า 3 แสนบาทแล้ว จึงนำเรื่องมาแจ้งความ นอกจากนี้ ก็ยังมีผู้ที่หลงเชื่ออีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อด้วยแต่ทราบว่าไม่กล้าเข้าแจ้งความ” ผู้เสียหายรายนี้ กล่าว

สอบสวนเบื้องต้น นายกร หรืออดีตอาจารย์กู้ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ให้การภาคเสธ อ้างว่า ได้ทำพิธีต่างๆ ตามที่ผู้เสียหายกล่าว แต่ไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด และยอมรับว่า เอาเงินไปเล่นการพนัน 1 แสนบาท เล่นบาคาร่า ผู้เสียหายก็ทราบ ซึ่งตนได้คืนเงินให้ผู้เสียหายไปแล้ว 9 หมื่นบาท

นายกร ให้การด้วยว่า หลังจากที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2543 และถูกดำเนินคดีที่ศาลโดยมีทั้งที่ยกฟ้อง และรอลงอาญาแล้ว ช่วงนั้นตนก็ไปค้าขายเสื้อผ้า รองเท้า ซีดี ต้นไม้ อยู่ที่เซียร์รังสิต ตนอยู่เฉยๆ อยู่กับลูกอย่างมีความสุขแล้วแต่ผู้เสียหายเข้ามาหาเอง เพราะต้องการดูดวง ดูเนื้อคู่ ทั้งนี้ ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายกร ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีข้อหา ฉ้อโกงประชาชน

สำหรับ นายกร เดิมชื่อ นายกิตติ ปภัสโรบล หรือที่รู้จักในชื่อ อาจารย์กู้ ในคดีเปรตกู้ โดยหลอกว่ามีเปรตที่ป่าคำชะโนด อ.บ้านดุล จ.อุดรธานี และมีการหลอกทำพิธีต่างๆ เช่น เสกดินเป็นทอง แต่งกายเลียนแบบสงฆ์แล้วทำท่าลอยไปบิณฑบาตเทวดาบนต้นไม้ ทำให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้ก็มีผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นถึงอาจารย์หลายราย

กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ก็ยังพยายามแสดงปาฏิหาริย์เสกดินเป็นทองกลางห้องประชุม บก.ป.โดยให้ พ.ต.อ.คงเดช ชูศรี รองผบก.ป.ขณะนั้น เป็นผู้อธิษฐานว่าต้องการให้เสกดินเป็นอะไร แต่หลังจากนั่งท่องคาถาอยู่นาน ก็ยังทำไม่สำเร็จ สุดท้ายอ้างว่าไม่มีสมาธิ ซึ่ง นายกิตติ ถูกดำเนินคดีข้อหาแต่กายเลียนแบบสงฆ์ ขึ้นไปเหยียบฐานพระพุทธรูปแล้วทำท่าล้อเลียนอย่างไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่น ต่อมา ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ส่วนคดีที่ถูก พ.อ.นพ.พงศักดิ์ ตั้งคณา นักพูดชื่อดัง ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้นศาลตัดสินว่ามีความผิด จำเลยรับสารภาพลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี


ที่มา ผู้จัดการ



Create Date : 07 กันยายน 2554
Last Update : 7 กันยายน 2554 16:37:52 น.
Counter : 1150 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]