|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
โบตั๋นกลีบสุดท้าย
ขอเอารูปนี้มาขึ้นนะคะ ลูกทำให้ เลยอยากอวด อิอิ

ชอบรูปนี้มาก

เอาข้อความที่คุณรพินทร์ถามคุณกานติมา มาลงไว้ค่ะ
*ความคิดเห็นที่ 41
คุณกานติมา ตอบเมล์มาแล้วนะครับ ขอเอาเมล์ที่ผมส่งไปให้ดูกันก่อน
From: rapinhunter Subject: ถามป้ากานเรื่องความหมายของโบตั๋นกลีบสุดท้ายครับ
พอดีมีเรื่องถกเถียงกันในคลับผมนิดหน่อยครับ (Atichart@Chalermthai) ว่าโบตั๋นกลีบสุดท้ายหมายถึงใครกันแน่ ผมจำได้ลางๆ ว่าเคยเห็นป้ากานเขียนในบ้านกระทู้ไหนสักกระทู้แต่ผมหาไม่เจอแล้วว่าหมายถึง อาหยง เป็นหลัก (อาจจะหมายถึงอาจูด้วยรึเปล่าครับ) ที่ว่าโบตั๋นกลีบสุดท้ายหมายถึงอาหยงลูกคนสุดท้องที่พ่อไม่รัก แต่สุดท้ายลูกคนนี้ที่พ่อว่าพึ่งไม่ได้สุดท้ายก็ได้เป็นที่พึ่งของพ่อน่ะครับ
คือมีบางคนเขาตีความว่าหมายถึงคู่ของอาหลงกับปาหนันรึเปล่าว่าสุดท้ายปาหนันก็เลือกอาหลง (ซึ่งผมว่าไม่น่าจะใช่นะ) คือถ้าเป็นแบบหลัง มิกลายเป็นว่า อาหลงเป็นพระเอก ปาหนันเป็นนางเอกเหรอครับ
รบกวนถามป้ากานด้วยนะครับ
รพินทร์
(ปล. ป้ากานจำผมได้รึเปล่าครับ คนที่ไปขอลายเซ็นหนังสือโบตั๋นฯ กับร่ายริษยาให้อั้มน่ะครับ ผมเป็นคนตั้งกระทู้รายงานสดโบตั๋นฯในเฉลิมไทยครับ)
คุณกานติมาตอบมาดังนี้ครับ
จำได้ค่ะคุณรพินทร์...นึกออกแล้ว คนนี้นี่เอง
ความจริง สามสาวพี่น้องเราเปรียบเป็นดอกโบตั๋น พอมาบอกว่าเป็นกลีบสุดท้ายก็จะต้องนึกถึงคนที่สุดท้าย.. แต่ความจริงกลีบสุดท้ายที่หมายถึงนั้น เขียนไว้ในคำนำว่า คือที่เหลืออยู่ที่เหมาะสม ที่คู่ควร เราจะไม่ได้กินความไปว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง และจะไม่ได้หมายถึงงิ้วเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงชีวิตทั้งหมด ของพวกเธอ ที่สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ไม่ได้ไปไหนไกล ทุกคนยังคงดูแลพ่อแม่ ยังคงดูแลให้มีคณะงิ้ว แม้ลูกสาวคนโตจะออกเรือน (ตามบทประพันธ์ในตอนท้ายเธอต้องไปเป็นนักธุรกิจแทนสามี) ลูกสาวคนเล็ก ตามบทประพันธ์เธอต้องออกเรือนไป แต่เขยเล็กก็ยังต้องแต่งเรื่องให้คณะงิ้วเล่น และคนกลางก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของงิ้ว ของพี่น้อง เพราะออกเรือนแล้วไม่ได้แยกไปไหน กลีบสุดท้าย...เหมือนสุดท้ายทุกอย่างก็สมใจพ่อแม่ คือทั้งสามคู่ก็มีความโดดเด่นตามเส้นทางรักของตนเอง ที่ยังมีศูนย์กลางอยู่ที่พ่อแม่
ต่างจากบ้านอาเชงซึ่งสุดท้ายแล้วลูกก็กระสานซ่านเซ็นไป ก็ประมาณนี้แหละค่ะ คงต้องเอาความที่แจงให้คุณรพินทร์ฟังนี้ ไว้เป็นหลัก
ใช่ค่ะจำได้ว่าได้พูดถึงความหมายนี้ไว้ในกระทู้ (ใดก็จำไม่ได้เช่นกัน) และไม่ใช่ทุกถ้อยคำเดียวกันเป๊ะ แต่ธีมคือประมาณนี้
เล่ามาซะยาว คุณรพินทร์คงได้สาระไปบ้างนะคะ ก็คงมีบ้างที่คนดู ดูไปถกกันไป ตอนทีมงานทำบท เขาทำงานกัน เขาก็ถามมาว่า คู่ไหนคู่เอกกันแน่ คนเขียนก็ให้น้ำหนัก กับทุกคู่ เพราะแต่ละคนก็มีฝันของตัวเอง มีเส้นทางรักของตัวเอง แต่ที่สุดท้ายทุกคนมีศูนย์กลางเดียวกัน
อธิบายเบ็ดเสร็จก็คิดราคาบรรทัดละ300บาทนะคะ ไปเก็บเงินตอนงานมหกรรมหนังสือนะ...อย่าหลบล่ะ จำได้แล้ว
จากคุณ : รพินทร์ - [ 29 ก.ย. 51 13:38:39 ]
เนื้อเรื่องย่อ เอามาจากเวบ ช่อง 3 //www.thaitv3.com/drama/51botan/51botan.html บทประพันธ์ โดย กานติมา บทโทรทัศน์ โดย เอกลิขิต
่ณ งานประกาศรางวัลงานเขียนยอดเยี่ยมที่จัดเป็นประจำทุกปี นวนิยายเรื่อง โบตั๋นกลีบสุดท้าย จากผู้เขียนที่ใช้นามปากกา สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยม ในขณะที่นวนิยายเรื่อง ปีกมัจจุราช ของ มนชนก ซึ่งในนามปากกาว่า แก้วพรรณราย ต้องพลาดรางวัลไปอย่างพลิกล็อค เพราะมนชนกไม่คิดว่าสำเภาทองซึ่งเธอไม่เคยรู้จักว่าเขาเป็นใครจะเปลี่ยนแนวการเขียนจากแนวเมโลดราม่า มาเป็นแนวสะท้อนปัญญาครอบครัว ไม่เคยมีใครรู้ว่า สำเภาทอง มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร รู้แต่เพียงว่าเขาคือชายหนุ่มเชื้อสายจีนที่มีลีลาการเขียนนวนิยายที่พลิ้วไหว ระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดยมี ดนัยเลขาส่วนตัว ส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ต่างๆ และเป็นผู้ติดต่อและประสานงานทั้งหมด
แท้ ที่จริงสำเภาทองคือ ธีรเดช หรือ อาจู ลูกชายคนสุดท้องของอาเซงกับเหมยหลิง สองสามีชาวจีนขายข้าวมันไก่ เป็ดพะโล้จนสามารถส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนก็คือ ธีรชัย หรืออาโจว ,ธีรชาติ หรือ อาจิว และธีรเดช หรือ อาจู จนจบปริญญาตรี ในสายตาของอาเชง อาจูมักเป็นลูกชัง ส่วนอาโจวและอาจิวนั้นเป็นลูกรัก อาโจวเข้าทำงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์และแต่งงานกับจรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ อาจิวเข้าทำงานธนาคาร ส่วนอาจูนั้นรักการเขียนจึงตัดสินใจรับงานเขียนประเภทนวนิยายนิตยสาร และเมื่ออาจูรู้ว่าพ่อมักจะใช้เวลาว่างในการอ่านนิตยสาร ระเบียงบึง อาจูจึงตัดสินใจที่จะใช้งานเขียนของตน โดยที่พ่อไม่เคยรู้ว่า สำเภาทอง คือนามปากกาของตน เป็นสื่อกลางในการให้แง่คิดและเปลี่ยนทัศนคติของผู้เป็นพ่อ
เรื่อง ราวของครอบครัวชาวจีนที่มีแต่ลูกสาวไม่มีลูกชายเป็นผู้สืบสกุลคืองานเขียน ที่อาจูจะใช้เป็นยาทิพย์ชโลมใจผู้เป็นพ่อ อาจูตัดสินใจเลือกครอบครัวคณะงิ้ว ฉางซิน เป็นแหล่งข้อมูลในการเขียนนวนิยายเรื่องใหม่ เขาตัดสินใจไปสมัครงานเพื่อล้วงลึกสายสัมพันธ์ ตันหยง บุตรสาวคนเล็กของนายฉางและนางซิน ซึ่งไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน เธอคิดว่าอาจูเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำให้ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอด อาฉางและอาซิน มีลูกสาว 3 คน ที่มีความงดงามและนิสัยใจคอต่างกัน ดาหลา บุตรสาวคนโตอยากเรียนพยาบาล แต่พ่อไม่สนับสนุน เป็นคนสวย อ่อนหวาน เธอมักจะได้แสดงงิ้วในบทนางร้ายเสมอ ดาหลาได้แต่งงานกับพงษ์เลิศ ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวกำธรและมาดามเหลียว มีลูก 2 คนคือหยกกับหงษ์ ปาหนัน บุตรสาวคนกลาง เจ้าอารมณ์เอาแต่ใจตัวเอง เธอเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการแสดงงิ้ว เธอจึงมักจะได้เป็นนางเอกเสมอ เธอให้ความสนใจชายหนุ่มเป็นพิเศษอยู่ 3 คน คือ เดชา เสี่ยหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการร้านทอง อติเทพ ผู้กำกับละครชื่อดังและ แอนดี้ เพล์บอยหนุ่มนักเรียนนอก ส่วนลูกสาวคนสุดท้อง ตันหยง เธอใฝ่ฝันที่จะเปิดอู่รถ มีนิสัยห้าวหาญเยี่ยงชายฉกรรจ์ มักได้แสดงเป็นดาวร้ายฝ่ายชายเสมอ ด้านอาหลง เด็กชายกำพร้าที่อาฉางและอาซินรับเลี้ยงไว้ จึงทำทุกอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ มักได้รับบทเป็นพระเอกอยู่เสมอ เขาหลงรักปาหนัน โดยที่อาซุ่นพ่อบ้านของคณะรู้มาโดยตลอด อาจูได้ฟังเรื่องราวจากอาซุ่น เห็นความน่าสนใจของตระกูลฉางจึงตั้งชื่อนวนิยายว่า โบตั๋นกลีบสุดท้าย
ร้าน ข้าวมันไก่อาเซงต้องปิดชั่วคราวเพราะล้มป่วยด้วยโรคไต โดยไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นอาจูเป็นคนรับผิดชอบ อาเซงคิดว่าอาโจวและอาจิวช่วยกันออกค่ารักษา แต่ทั้งคู่ไม่เคยมาเยี่ยมอาเซงเลย ช่วงที่อาเซงอยู่ที่โรงพยาบาลยามว่างเขาจึงอ่านนิตยสาร ระเบียงบึง และครั้งแรกที่เขาอ่านไม่มีนวนิยายเรื่องใดที่เขาจะติดตามอ่านนอกจาก โบตั๋นกลีบสุดท้าย มันทำให้ความคิดเริ่มเปลี่ยนไป อาเซงได้ฝากอาจูชมนักเขียนที่ชื่อ สำเภาทอง ว่าน่าสนใจและน่าติดตาม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผู้พ่อเห็นคุณค่าในตัวเขาแม้จะไม่รู้ว่าแท้จริงก็คือ บุตรชายตนเอง งิ้วเรื่องกระบี่มารได้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง แต่ขาดเงินลงทุน เดชาจึงยื่นข้อเสนอให้ยืมเงินโดยไม่ต้องคืนแต่ต้องแลกกับตัวปาหนัน เมื่อทุกคนในบ้านรับรู้จึงช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหา อาจประทับใจที่ทุกคนไม่ทิ้งกันโดยเฉพาะลูกสาวทั้งสามและอาซิน ซึ่งต่างจาก ครอบครัวของเขา ตันหยงได้ระบายความอัดอั้นทั้งหมดกับอาจู คำพูดและคำปลอบของอาจูทำให้ ตันหยงสงสัยในตัวเขามากขึ้น เธอแอบเข้าไปค้นห้องอาจู วันรุ่งขึ้นอาจูถูกเรียกพบ อาฉางเห็นบทนวนิยายที่เขาทิ้งลงขยะ อาจูแก้ตัวว่าเป็นนวนิยายที่เขาเขียนชิงรางวัล อาฉางเห็นความตั้งใจจึงให้อาจูลองแต่งงิ้วเรื่องใหม่ชื่อ ศึกรักบัลลังก็เลือด
ด้านอาเซงอาการดีขึ้น อาจูพาไปพักรักษาตัวที่บ้านริมน้ำ โดยอาจูจะส่งนิตยสาร ระเบียงบึง ให้เขาอ่านทุกฉบับ ส่วนอาฉางเริ่มให้ทุกคนซ้อมงิ้วเรื่องใหม่ ดาหลาใจลอย ไม่ตั้งใจซ้อมเลยถูกอาฉางตำหนิ ตันหยงคะยั้นคะยอถามพี่สาว จึงรู้ปัญหาว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์ และดาหลาได้ขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ หลักการซ้อมอาจูเห็นตันหยงออกไปข้างนอก จึงแอบตามไป เห็นตันหยงมีเรื่องกับกลุ่มอันธพาล อาจูจึงเขาไปช่วยและได้รับบาดเจ็บ ตันหยงเลยช่วยทำบาดแผลและมองเขาในทางที่ดีขึ้น และได้ปรึกษาปัญหาของดาหลากับอาจู อาจูแนะนำให้ดาหลาเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ส่วน ปาหนันได้ออกไปเที่ยวกับแอนดี้ โดยลืมไปว่าเธอนัดฉลองวันเกิดกับอาหลงทำให้อาหลงเสียใจ ดื่มเหล้าเมามายจนมีเรื่อง อาจูและตันหยงออกมาช่วย แต่อาหลงแขนหักไม่สามารถแสดงงิ้วได้ อาฉางรับสมัครพระเอกงิ้วคนใหม่แต่ไม่มีใครที่มีฝีมือเท่าอาหลง จนทำให้อาฉางเลือกอาจูมาเป็นพระเอกแทน ด้านดาหลาตัดสินใจหย่าขาดกับพงษ์เลิศ ขอเป็นฝ่ายเลี้ยงลูกทั้งสองเอง ทำให้อาฉางล้มป่วย อาซุ่นช่วยดูแลการซ้อมแทนอาฉาง ส่วนตันหยงยังคอยแกล้งอาจูเสมอ แต่ภายในใจกลับมีความรู้สึกที่ประหลาดขึ้น เธอสุขใจและอบอุ่นที่ใกล้ชิดเขา อาจูก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเธอ แต่ด้วยทิฐิเธอจึงปิดกั้นความรู้สึกเอาไว้ แต่ไม่รอดพ้นจากสายตาของปาหนัน วันหนึ่งปาหนันช่วยอาจูไปเที่ยว ทำให้เดชาไม่พอใจจึงให้ลูกน้องมาทำร้ายอาจูจนได้รับบาดเจ็บ ตันหยงรู้จึงไปเยี่ยมและหลงกลปาหนัน จนเผลอบอกรักอาจู เรื่องราวความเข้มข้นยังไม่ยุติเพียงเท่านี้ ความสัมพันธ์ของทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามชม โบตั๋นกลับสุดท้าย
ตอนนี้ ละคร ออกอากาศมาแล้ว 2 วัน หวังว่า เพื่อน ๆ คงจะชอบเหมือนเรานะคะ
ขอบคุณรูปจาก คุณรพินทร์, คุณ Kiss KeepInTouch, บ้านตุ้ย และสมาชิกทุกคนใน Atichart@Chalermthai ทุกคน ค่ะ 
TOP
Create Date : 24 กันยายน 2551 |
Last Update : 29 ตุลาคม 2551 22:45:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1252 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|