เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 

ฉุดกระชาก ลากกระเป๋า ซำเหมาเที่ยวญี่ปุ่น วันที่ 5 - 8

ลากกระเป๋า ซำเหมา Day 5

 

อยู่เกียวโต เช้ามาจะไปไหนได้ก็ต้องไปเที่ยววัดซิครับ วัดดังที่ใครก็ต้องไม่พลาดและแน่นอนว่าคนไทยเยอะดีมาก วัด Fushimi Inari Taisha จริงๆ เขาบอกว่าเป็นศาลไม่ใช่วัดแต่เราคนไทยไปไหนก็ไหว้สักการะหมด ศาลก็เหมือนวัดนั่นแล ขนาดพื้นที่ก็มหึมา

จุดเด่นเป็นประตูสีส้มแดงแบบดั้งเดิมจำนวนมาก ต้องเดินขึ้นเนินไปดูนิดนึง เรามีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าเลยถ่ายรูปที่ต้นทางเท่านั้น

ชวนกันนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนาระ ห่างออกไปจากเกียวโตประมาณ 1 ชม. 

นาระเป็นเมืองเก่าสำคัญของเขต Kansai

ลงรถไฟปุ๊บก็เดินเลยครับ ไปวัดดังๆ เนื่องจากดูในแผนที่ในไกด์บุ๊คเหมือนใกล้นิดเดียว จริงๆ แล้วไม่ใกล้เลยครับ แนะนำให้นั่งรถไฟหรือรถบัสไปตามวัดต่างๆ เดินได้แต่เหนื่อยแน่

วัดแรก Kofukuji เป็นหนึ่งในวัดที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 ของเมืองนาระและได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลก

สัญลักษณ์อีกอย่างของวัดในเมืองนาระนอกจากอาคารที่ใหญ่อลังการและสวยงามแล้ว ยังมีฝูงกวางน้อยคอยต้อนรับพวกเราด้วย

วัดอีกแห่งที่สุดท้ายผมตัดสินใจนั่งรถเมล์ไปแทนการเดิน เพราะแค่วัดแรกก็ขาลากแล้ว 

นั่นคือวัด Todaiji วัดที่สำคัญที่สุดในเมืองนาระก็ว่าได้มีโบสถ์ไม้ขนาดใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อลังการสมคำร่ำลือ

มีช่องในเสาไม้ให้เด็กลอดผ่านเป็นสิริมงคลด้วย 

กินอาหารเที่ยงกันที่ร้านแถวๆ สถานีรถไฟนาระ โอเค มีให้เลือกหลากหลาย รสชาติดี ราคาไม่แพง บริการรวดเร็ว ใครผ่านมาทางนาระแวะทานได้ครับ

 

นั่งรถไฟจากนาระตรงไปโอซากาอีก 1 ชม. เสียเวลาหน่อยเพราะไม่มีชินคันเซ็นวิ่งระหว่างสองเมืองนี้ แต่ก็วิ่งเร็วกว่า รฟท. มากแล้ว

ถึงโอซากาแล้วก็มุ่งตรงไปเที่ยวปราสาทโอซากาเลย ไฮไลท์อย่างเดียวที่อยากจะแวะดูที่โอซากา

ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่โอซากานี่เอง

 

ไปเที่ยวปราสาทที่มีชื่อตอนกลางวัน

กลางคืนก็ไปเที่ยวย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของโอซากาเช่นกัน 

ย่านนัมบะ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงก็คงเป็นรูปมิสเตอร์กูลิโกะ

 

และซาชิมิปูสดๆ ร้านปูยักษ์ หวานเจี๊ยบ ราคาไม่ถูกแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ที่เมืองไทย

++++++++++++++++++++++++++++

ลากกระเป๋า ซำเหมา Day 6

ที่เกียวโตคืนที่สองและสาม ลองพักที่พักแบบ airbnb ที่เจ้าของมาปล่อยห้องให้เช่าเป็นรายวัน ราคาถูกกว่าโรงแรมเล็กน้อย เหตุเพราะหาโรงแรมถูกๆ ไม่ได้ ความพึงพอใจไม่มากนัก เพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่าการที่ต้องมาเจอใครต่อใครมาแชร์บ้านหลังเดียวกัน

บ้านมีสวนเล็กๆ นะครับ แต่ไม่ชอบนั่งคุยกับคนที่ก็คงไม่พบกันอีกแล้วเป็นเวลานานๆ

 

ไปนาระเที่ยววัด เกียวโตยิ่งแล้วใหญ่เลย หนึ่งวันเต็มๆ ในเกียวโตก็เที่ยววัดล้วนๆ 

เน้นไฮไลท์ เอาให้ครบ ไม่ต้องอยู่นาน จะเอาให้คุ้มก็ซื้อตั๋วรถแบบตั๋ววันไปเลย 

เริ่มที่วัด Kinkakuji หรือวัดทอง เป็นวัดเซนที่สวนสวยถูกต้องตามแบบมุโรมาจิ

นักท่องเที่ยวเยอะพอๆ กับนักเรียนญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยเฉพาะเด็กเล็กจะชอบเป็นพิเศษ

วัด Ryanji มีสวนหินแบบเซนล้อมด้วยกรวดจากแม่น้ำที่สมบูรณ์ที่สุด เหมาะสำหรับผู้นั่งสมาธิได้เพ่งมองหินรูปร่างต่างๆ ทั้ง 13 ก้อน ตอนผมไปคนเยอะมาก ใครนั่งสมาธิได้ถือว่าปรมาจารย์แล้ว

วัด Ninnaji เป็นวัดหลักของพุทธศาสนานิกายหนึ่งในญี่ปุ่น มีไฮไลท์สองอย่างที่ชอบมาก

 

คือสวนซากุระ ซึ่งที่อื่นร่วงหล่นไปหมดแล้ว และเจดีย์ภายในวัด

แอบเห็นคนแก่ชาวญี่ปุ่นจูงมือกันเที่ยว บ้างก็มาเป็นก๊วน ล้วนแล้วแต่คนเลยวัยเกษียณไปพักใหญ่ๆ แล้วทั้งนั้น คงเป็นคนแก่กลุ่มเดียวในประเทศเอเชียที่ไม่ชอบอยู่บ้านเลี้ยงหลาน สนับสนุนครับ

พระราชวังเกียวโต เข้าชมฟรี แค่จองล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ต ไม่ยุ่งยาก

ชมได้บางส่วน มีไกด์บรรยายภาษาอังกฤษนำไป เป็นพระราชวังที่จักรพรรดิ์เคยประทับก่อนย้ายเมืองหลวงไปโตเกียวเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว

ต่อด้วยวัด Ginkakuji สร้างโดยโชกุนคนหนึ่งที่ต้องการให้เป็นบ้านพักหลังเกษียณ แต่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นวัดในศาสนาเซนหลังโชกุนเสียชีวิตลง

ไม่มีอะไรมากนัก มีที่ต้องขึ้นเขาไปด้านหลังวัด แต่ดูแล้วไม่น่าสนใจเท่าไหร่

วันทัวร์วัดในวันนี้ เราไปสิ้นสุดกันที่วัด Kiyomizu Dera เป็นโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ อยู่ตรงหน้าผามองเห็นวิวเมืองเกียวโต 

ในอดีตมีธรรมเนียมว่าใครกระโดดลงมาจากวัดลงไปที่พื้นข้างล่างแล้วรอดชีวิต สิ่งที่ปรารถนาจะกลายเป็นจริง มีคนกระโดดและรอดชีวิตกันเป็นส่วนใหญ่เพราะความสูงแค่ 13 เมตร แต่ตำนานไม่ได้บอกว่ารอดแต่พิการหรือเปล่า

พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เรายังไม่ยอมแพ้แวะไปทานข้าวเย็นที่ตลาด Nishiki ซึ่งบัดนี้ได้ทยอยปิดตัวลงแล้ว

ได้เดินดูของเล็กน้อย จะได้พูดได้ว่ามาถึงแล้วและก็เลยแวะกินข้าวเสียเลย

จริงๆ ร้านขายสินค้าปิดดึกครับ ยังเดินช็อปได้มีแต่ร้านอาหารที่จะปิดเร็วหน่อย

 

วันนี้ไปครบคุ้มจริงๆ เหนื่อยกายสบายใจนอนหลับสบายอีกหนึ่งคืน

++++++++++++++++++++++++++

ลากกระเป๋า ซำเหมา Day 7

แผนในวันนี้คือออกเดินทางกลับไปเมืองหลวงโตเกียวด้วยชินคันเซ็น ซึ่งแน่นอนว่านั่งรวดเดียวถึง เมื่อคำนึงถึงความคุ้มค่าในการเดินทาง ซึ่งเรามี JR Pass จะขึ้นชินคันเซ็นที่ไหนกี่เที่ยวก็ได้อยู่แล้ว เราจึงวางแผนไปชมเมือง Himeji กันก่อนกลับโตเกียวครับ

ลากกระเป๋าสัมภาระขึ้นชินคันเซ็นนั่งไปทางตะวันตกของเกียวโตไม่นาน ก็ถึงเมือง Himeji

มีป้ายบอกทางไปปราสาท Himeji ชัดเจน มีสัมภาระมาด้วย จึงใช้บริการฝากกระเป๋าที่สถานีเดินเที่ยวตัวเปล่าสบายๆ

วันนี้น่าจะเป็นวันที่อากาศดีที่สุดในหลายวันที่ผ่านมา อะไรที่เมือง Himeji จึงดูสวยงาม ชวนให้หลงใหลไปหมด

ปราสาท Himeji เดินไปจากสถานีรถไฟประมาณ 20 นาที ระหว่างทางชมนกชมไม้ได้

ในบรรดาค่าเข้าปราสาทและวัดที่ผ่านมา ปราสาท Himeji ถือว่าราคาแพงที่สุด 270 บาท แต่ก็คงถือว่าคุ้มค่า

เป็นปราสาทต้นแบบของญี่ปุ่นที่สวยงามที่สุด มีสีขาวสะท้อนแดด ดูเหมือนนกกำลังสยายปีกออกบิน

ค่าเข้าเกือบ 300 บาท แต่ก็ได้เข้าชมถึงชั้นบนสุดของปราสาท มองเห็นวิวเมือง Himeji ได้รอบทิศ

มื้อกลางวันก็กินที่ร้านแถวๆ ปราสาท ใช้หลักหิวหน้าร้านไหนเข้าร้านนั้น ได้กินข้าวหน้าปลาไหลของโปรดก็วันท้ายๆ ของทริปวันนี้นี่เอง

เสร็จกิจก็วิ่งขึ้นชินคันเซ็นจาก Himeji มุ่งตรงไปโตเกียวอย่างไม่ลังเล ใช้เวลาเดินทางบนชินคันเซ็น Super Express 4 ชม. เต็ม

ลงสถานีโตเกียว ต่อรถใต้ดินไปลง Shinjuku เพื่อเดินตามหาโรงแรมสำหรับสองคืนสุดท้ายที่ญี่ปุ่นที่จองไว้

ว่าจะไม่แปลกใจแล้วถึงขนาดอันกะทัดรัดของโรงแรม แต่ก็อดไม่ได้ เล็กจริงๆ ห้องน้ำและเตียงแล้วก็หมดแค่นั้นจริงๆ ที่ว่างกระเป๋าแทบไม่มี สมกับเป็นเมืองมหานครสุดยุ่งและแพง

คืนนั้นได้นัดเจอเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เลี้ยงอาหารค่ำในร้านที่มีแต่คนท้องถิ่นที่อยากเป็นศิลปินเท่านั้นที่กล้าเข้า

และเดินพาชมสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่มีสำหรับทุกเพศในย่าน Shinjuku อย่างเต็มตา โดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า ที่แบบนี้มาเองไม่ได้จึงอยากพามา

 

เจอก็อตซิล่าอยู่บนตึกด้วย เชื่อว่ามันจะกลายเป็น landmark แห่งใหม่ของโตเกียวสำหรับคนไทย ที่ต้องแห่ไปชมเหมือนมนุษย์กูลิโกะที่โอซากา

++++++++++++++++++++++++

ลากกระเป๋า ซำเหมา Day 8

วันสุดท้ายที่โตเกียวและญี่ปุ่น ออกไปตลาดปลา Tsukiji แต่เช้า ผู้คนมากหน้าหลาย เห็นหลายร้านมีคนต่อคิวรอเข้าไปกินยาวยืด นึกในใจว่าโชคดีจังเราไม่ต้องทำอะไรแบบนี้

ปรากฏเพื่อนที่ไปด้วยกันก็พาไปเข้าคิวหน้าร้าน Sushi Dai รอกินข้าวปั้นเป็นชั่วโมงจนได้ ด้วยคำปลอบโยนว่าปกติร้านนี้รอสามชั่วโมงนะ

เข้าไปกินแล้วก็งั้นๆ แหละความที่ไม่ได้ชอบกินข้าวหวานโปะหน้าด้วยปลาสด

กินเสร็จก็เที่ยงแล้วก็เดินทางไป Tokyo Tower เสียหน่อย เพราะก็ไม่รู้จะไปไหนแล้วจริงๆ เข้าใจว่าที่เที่ยวโตเกียวเยอะ แต่เต็มอิ่มกับวัดวังแล้ว ระหว่างทางยังผ่านวัดแขก Tsukiji Hongwanji อีก

Tokyo Tower เป็นหอที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นหลังจาก Tokyo Skytree สร้างเสร็จ ชัดเจนว่าได้รับแรงบันดาลใจจากหอไอเฟล

คนน้อยกว่า Tokyo Skytree เยอะเลย 

แต่ที่ชอบมากกว่า คือ พื้นกระจกที่ทำได้ดูหวาดเสียวกว่าเยอะ

และก็แวะสวนอุเอโนะที่ตั้งใจจะไปตั้งแต่วันแรกที่มาถึงญี่ปุ่นในที่สุด

กว้างขวางไพศาล มีคนญี่ปุ่นมาปิกนิกกันด้วย บางกลุ่มก็ดื่มเมามาย ส่งเสียงดังโหวกเหวก คนญี่ปุ่นนี่เวลาไม่เมานะ เรียบร้อย สงบสุขุม เป็นทางการ เป็นมืออาชีพมาก แต่เวลาเมานี่หนังคนละม้วนเลย

พลาดไม่ได้ คือ ช็อปปิ้งตึกม่วงซึ่งแทบไม่มีของอะไรเหลือเลย ผิดหวังมากแวะซื้อเอาตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยาใหญ่ๆ ดีกว่า พวกขนม เครื่องสำอางฝากชาวบ้านเนี่ย เอ หรือเราไปผิดตึกหว่า

สุดท้ายขอบคุณเพื่อนชาวมาเลเซียที่เลี้ยงอาหารมื้อสุดท้ายในโตเกียวหลังจากไม่ได้เจอกันนานหลายปี มิตรภาพยังชื่นมื่นเหมือนเดิม

 

แม้คนญี่ปุ่นออกจะเคร่งเครียดสักหน่อย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ รู้สึกดีมากเลยครับ เป็นประเทศที่เที่ยวแล้วสบายใจ ไม่ต้องระวังตัว ไม่กลัวล้วงกระเป๋า ไม่เอาก็บอกได้ รถราก็สะดวก ไกลปืนเที่ยงแค่ไหนก็ไปถึง มันถึงเที่ยวกันได้ทั้งปีทุกที่ทุกเมือง จะเซอร์ไพร์สหน่อยก็คงราคาค่าใช้จ่าย ไม่ถูกนัก

 

+++++++++++++++++++++

 

 

 




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2558
2 comments
Last Update : 30 ธันวาคม 2564 23:30:31 น.
Counter : 3099 Pageviews.

 

ปลาไหลน่ากินสุด ๆ อยากไปมากครับ



18002payday | 18002payday

 

โดย: ข้าขงเบ้ง 16 กรกฎาคม 2558 16:32:28 น.  

 

ขอบคุณรีวิว ดีๆคะ

 

โดย: กก IP: 203.130.144.222 9 พฤศจิกายน 2558 15:04:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.