เริ่มต้นปี 2563 เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรทุ่งนา 2019 หรือโรค COVID-19 กระจัดกระจายไปทั่วทั้งโลก เหตุการณ์การระบาดของโรครุนแรงแบบนี้ ชักชวนให้หวนคิดถึงโรคเอดส์ที่เคยเป็นภัยรุกรามคนทั่วทั้งโลก เดี๋ยวนี้มีผู้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง ราว 37 ล้านคนทั่วทั้งโลก เราเข้าใจดีว่าเอดส์ยังไม่มีวัคซีน ยังไม่มีการดูแลและรักษาให้สามารถหายสนิทได้แต่ทั่วโลกต่างยินยอมอยู่ร่วมกับโรคร้ายนี้มายาวนานได้อย่างไรไวรัส HIV ย่อมาจาก human Immunodeficiency Virus เป็นเชื้อไวรัสก่อโรคภูมิคุมกันบกพร่อง โดยเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องจะเข้าทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆที่เข้ามาในร่างกายในช่วงเวลาที่เราเจ็บป่วย AIDS ย่อมาจาก Acquired Immunodeficiency Syndrome (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง) โรคเอดส์จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิต้านทานในร่างกายถูกเชื้อเอชไอวีบั่นทอนให้อ่อนแอลง จนถึงขั้นที่ร่างกายไม่อาจจะขัดขวางเชื้อโรคต่างๆได้อีก จนเริ่มติดเชื้อ หรือเกิดเป็นโรคต่างๆศึกษาและทำการค้นพบโรคเอดส์หนแรกโรคเอดส์เจอหนแรกในมิ.ย. พ.ศ. 2524 ที่อเมริกา ผู้เจ็บป่วยเป็นชายรักร่วมเพศป่วยเป็นปอดอักเสบจากเชื้อ นิวโมซีสตีส แครินิอาย (Pneumocystis Carinii) ทั้งๆที่เป็นคนแข็งแรงมากมายมาก่อน และไม่เคยใช้ยากดภูมิต้านทาน ผลของการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าเซลล์ที่มีหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิต้านทานไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ได้ตามธรรมดา จากการศึกษาเล่าเรียนย้อนไป พบว่าโรคนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกในปี 2503 รวมทั้งถัดมาได้แพร่ไปยังเกาะไฮติ ทวีปอเมริกา ยุโรปและก็ทวีปเอเชียและก็ประเทศไทยด้วย คนป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่องรายแรกในประเทศไทยเป็นชายอายุ 28 ปี เดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกาแล้วก็มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ เริ่มมีลักษณะในปี 2526 ได้รับการตรวจและก็รักษาที่โรงหมอแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าปอดอักเสบจากเชื้อ Pneumocystis Carinii หมอลงความเห็นว่าเป็นโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ก็เลยกลับมารักษาตัวที่เมืองไทยในปี 2527 และก็เสียชีวิตในเวลาถัดมาเพราะฉะนั้นในปี 2527 ประเทศไทยจึงเริ่มมีโรคภูมิคุมกันบกพร่องเกิดขึ้นตามรายงานทีแรก รวมทั้งในตอน ปี 2527 ถึง 2533 จำนวนคนเจ็บที่ติดเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่องมีอัตราเพิ่มสูงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจึงได้ประกาศความมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาโรคภูมิคุมกันบกพร่อง โดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบให้มีคณะกรรมการประสานงานโรคภูมิคุมกันบกพร่องแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2528 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน

ระบาดวิทยาโรคภูมิคุมกันบกพร่องในไทยประชาชนไทยติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องสูงสุดใน 8 กรุ๊ป อย่างเช่น กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น กลุ่มนางคณิกาทางตรง กรุ๊ปหญิงขายบริการทางเพศซ่อนเร้น กลุ่มชายที่มาตรวจกามโรค กลุ่มชายขายบริการทางเพศ กรุ๊ปหญิงที่มาฝากครรภ์ กรุ๊ปเลือดบริจาค และกรุ๊ปชายไทยที่เข้ามาเป็นทหารประจำการศูนย์ข้อมูลทางระบาดวิทยา สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานว่ากลุ่มอายุ 30 - 34 ปี มีผู้ป่วยสูงสุด (จำนวนร้อยละ 25.86) รองลงมาได้แก่ อายุ 25 - 29 ปี โดยพบว่ากลุ่มวัยต่ำสุดหมายถึงกลุ่มอายุเพียง 10-14 ปี (จำนวนร้อยละ 0.29) เมื่อจำแนกตามอาชีพ พบว่าอาชีพรับจ้างเป็นกลุ่มที่เป็นเอดส์มากที่สุด รองลงมาเป็น เกษตรกร ว่างงาน ค้าขาย และก็แม่บ้าน ส่วนต้นเหตุของการได้รับเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่องนั้น พบว่าร้อยละ 83.97 ติดเชื้อโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องจากการมีเพศสัมพันธ์ รองลงมาเป็นการฉีดยาเสพติดเข้าเส้น รวมทั้งติดเชื้อจากแม่ แม้กระนั้น ยังมีคนเจ็บที่ไม่รู้มูลเหตุ ถึงจำนวนร้อยละ 7.30 ส่วนเชื้อฉวยโอกาส ซึ่งสามารถตรวจพบในคนเจ็บโรคภูมิคุมกันบกพร่องสูงที่สุด เช่น เชื้อ Mycobacterium tuberculosis ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดวัณโรค นั่นเองรายงานทางระบาดวิทยา ตั้งแต่ปี 2532 จากการเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่องในกลุ่มสามัญชน โดยการสุ่มตรวจการติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องในราษฎรวัตถุประสงค์ 8 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ (1) กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น มีอัตราความชุกอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด ในปี 2551 รายงานข้อมูลล่าสุดของสำนักระบาดวิทยา ในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นมีอัตราการติดเชื้อสูงมากขึ้นถึง ร้อยละ 48.15 แต่ว่ามีการรายงานเพียง 9 จังหวัดแค่นั้น ซึ่งทำให้เห็นว่ายังมีปัญหาในเชิงระบบการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงอยู่มากมาย อีกทั้งเป็นปัญหาด้านแผนการการให้บริการการรักษา การเฝ้าระวังคุ้มครองปกป้องโรค รวมทั้งการลดพฤติกรรมเสี่ยงในกลุ่มเป้าหมายออกจะมีความสลับซับซ้อนมาก จากข้อมูลได้สะท้อนให้เห็นพื้นที่จังหวัดที่เป็นปัญหา ในช่วงเวลาที่ (2) กลุ่มนางคณิกาทางตรง (3) กลุ่มนางโลมแฝง และก็ (4)กลุ่มชายที่มาตรวจกามโรคมีลักษณะท่าทางของการติดเชื้อลดน้อยลงจากรอบปีให้หลัง เป็น ปริมาณร้อยละ 4.67 จำนวนร้อยละ 2.64 และร้อยละ 3.19 ตามลำดับ โดยเฉพาะใน (5) กรุ๊ปชายขายบริการทางเพศ เจอร้อยละ 12.21 กลุ่มชาวเล จำนวนร้อยละ 2.5 รวมทั้งกรุ๊ปแรงงานต่างประเทศ เจอจำนวนร้อยละ 1.00
(6) กลุ่มหญิงที่มาฝากครรภ์และ (7) กรุ๊ปโลหิตบริจาค พบว่าอัตราความชุกของการได้รับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องในกรุ๊ปหญิงที่มาฝากครรภ์มีลักษณะท่าทางลดน้อยลง ตั้งแต่ปี 2541-2551 จากร้อยละ 1.53 เหลือร้อยละ 0.72 ส่วนอัตราการติดเชื้อในกรุ๊ปเลือดบริจาคมีแนวโน้มสูงมากขึ้นนิดหน่อย ในปี2541-2549 จากจำนวนร้อยละ 0.40 และก็มีทิศทางที่ต่ำลงในปี 2551 ปริมาณร้อยละ 0.18 ในช่วงเวลาที่ (8) กรุ๊ปชายไทยที่เข้าเป็นทหารประจำการมีทิศทางคงที่ ซึ่งอัตราการได้รับเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายไทยที่เข้ามาตรฐานทหารจำนวนมากมักพบที่สุดในกรุงเทพมหานคร 2.67 รองลงมาภาคเหนือ 1.62 ภาคกึ่งกลาง 1.60 (ไม่รวมจังหวัดกรุงเทพมหานคร) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.40 และภาคใต้ 1.00 ตามลำดับปัจจุบัน จ.กรุงเทพฯได้เดาว่ามีผู้ติดโรคเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ในปี 2562 จำนวน 77,558 คน เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องรายใหม่จำนวน 1,190 คน ในจำนวนผู้ติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องรายใหม่เป็นกรุ๊ปเยาวชนที่แก่น้อยกว่า 25 ปี จำนวน 628 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.8 และมีคนตายภายในปี 2562 ปริมาณ 1,877 คน ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (NAP Program) ในปี 2561 พบว่า มีผู้ที่ทราบสถานะการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องและมีชีวิตอยู่ปริมาณ 70,747 คน ผู้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้รับยาต้านไวรัสรวมทั้งมีชีวิตอยู่จำนวน 55,123 คน รวมทั้งส่งผลการตรวจพบว่า มีปริมาณไวรัสในกระแสโลหิตน้อยกว่า 1,000 copies/ml จำนวน 41,893 คน

ยาต้านทานไวรัสรวมทั้งความมานะบากบั่นหยุดยั้งการติดเชื้อเอดส์ทั้งโลกต่างยอมอยู่ร่วมกับไวรัสเอดส์มาได้หลายสิบปีเหตุเพราะมีการพัฒนายาต่อต้านไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่องมาอย่างต่อเนื่อง ยาต้านทานเชื้อไวรัสหรือที่เรียกว่า "เออาร์วี" (ARV) ย่อมาจาก antiretroviral ในตอนนี้มียาต้านทานไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่องมากไม่น้อยเลยทีเดียว ออกฤทธิ์ยั้งทำให้เชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่องต่ำลงได้ แล้วก็ช่วยคุ้มครองปกป้องไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T-cell ยาต้านทานไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่องจำนวนมากใช้ได้ผลในด้านที่ดี แต่ว่ายังเจอปัญหาของการใช้ยาบางประการ ทั้งปัญหาจากผลกระทบของยา ปัญหาด้านการดื้อยาอีกทั้งในระยะสั้นรวมทั้งระยะยาว รวมทั้งปัญหาคุณภาพชีวิตที่ต้องรับประทานยาให้ถูกต้องเป็นประจำเป็นระยะเวลาช้านานตลอดชาติ สำหรับประเทศไทย นับเป็นครั้งแรกที่ยาต้านทานไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง Efavirenz Tablets 600 mg ขององค์การเภสัชกรรม (จีพีโอ) ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อ WHO Prequalification Program (WHO PQ) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) นำมาซึ่งการทำให้คนเจ็บเอดส์ไทยเข้าถึงยาคุณภาพระดับสากลความอุตสาหะล่าสุด นักวิทย์สหรัฐฯ เจอโมเลกุล RNA ทำหน้าที่เป็น ‘ปุ่มหยุดการทำงาน’ ของเซลล์ที่ติดเชื้อโรคเชื้อไวรัส เอชไอวี แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่แล้ว ในเดือนกันยายน 2562 เว็บไซต์เดอะ ซัน แถลงการณ์ว่าความคาดหมายของบรรดาผู้ติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องที่นำมาซึ่งโรคเอดส์ อาจได้รับการรักษาจนถึงหายจากการติดเชื้อร้ายกำลังใกล้เข้ามาอีกขั้น เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซาน ดิเอโก ในเมืองแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ศึกษาค้นพบโมเลกุล RNA ประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็น ‘kill swith’ หรือปุ่มหยุดการทำงาน ที่สามารถหยุดยั้งเซลล์ที่ติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ ภายหลังจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ทั้งโลกได้เพียรพยายามค้นหาโมเลกุลนี้กันมานานนับ 30 ปีปัจจุบันโรคเอดส์ยังเป็นวาระสำคัญสุดยอด โครงการโรคภูมิคุมกันบกพร่องแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNAIDS) กำหนดเป้าหมายถึงการหยุดปัญหาเอดส์ทั้งโลกในปี 2573 รวมทั้งมีรายงานถึงจำนวนคนป่วยเอดส์กึ่งหนึ่งของผู้ติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องทั่วโลกได้รับการบำบัด แต่ว่าจำนวนกว่า 17 ล้านคนยังมีบุคคลที่ไม่สามารถที่จะเข้าถึงระบบยาต่อต้านเชื้อไวรัส ส่วนหนึ่งส่วนใดเพราะว่าผู้คนเหล่านั้นไม่รู้จักว่าตนเองเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ถึงแม้ปริมาณผู้ติดเชื้อโรครายใหม่จะต่ำลงจาก 3.4 ล้านคนมาอยู่ที่1.8 ล้านคนต่อปีโดยกลุ่มเสี่ยงคือหญิงที่แก่น้อย ชายที่มีความประพฤติรักร่วมเพศ ผู้ที่ใช้ยาเสพติดประเภทฉีดเข้าเส้น ผู้ต้องขังในเรือนจำ คนขายบริการทางเพศและก็กลุ่มของผู้คนข้ามเพศ

Create Date : 17 เมษายน 2564
Last Update : 17 เมษายน 2564 15:18:54 น.		0 comments
Counter : 93 Pageviews.
Share Tweet