space
space
space
 
เมษายน 2564
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
20 เมษายน 2564
space
space
space

รู้หรือเปล่า? “โรคภูมิคุมกันบกพร่อง” (AIDS) รวมทั้ง “ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง” (HIV) ต่างกันเช่นไร?

มีความรู้สึกว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่เคยรู้โรคภูมิคุมกันบกพร่อง โรคติดต่อทางเพศสมาคมที่ยังไม่มียารักษาโรคได้อย่างแท้จริง มีเพียงยาต้านเชื้อไวรัสที่ช่วยประคับประคองลักษณะของผู้เจ็บป่วยให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรงไปได้อีกหลายปี (หรือสิบปี) แต่ว่าผู้เจ็บป่วยจะต้องมีวินัยสำหรับการทานยา รวมทั้งเจอหมอตรงเวลาแค่นั้น แต่ว่านอกจากชื่อโรคว่า “โรคภูมิคุมกันบกพร่อง” แล้วยังมีชื่อที่พวกเราเรียกว่าเชื้อ “เอชไอวี” อีกชื่อหนึ่งด้วย สองคำนี้ไม่เหมือนกันเช่นไร Sanook! Health พวกเรามีคำตอบมาชี้แจงให้รู้เรื่องกันความหมายของ “ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง” (HIV)เชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus)หมายถึงไวรัสที่จะเข้าไปกัดรับประทานทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ภูมิต้านทานบกพร่องความหมายของ “เอดส์” (AIDS)เอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome - AIDS) คือกรุ๊ปลักษณะของการติดเชื้อโรคแทรกซ้อนต่างๆเมื่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายถูกเชื้อเอชไอวีทำลาย จนไม่สามารถต้านเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายพวกนี้ได้ติดโรคเอชไอวี ≠ โรคภูมิคุมกันบกพร่องถ้าคนเจ็บติดโรคเอชไอวี ไม่สำคัญจะต้องเป็นโรคภูมิคุมกันบกพร่องเสมอไป เพราะว่าถ้าตรวจพบว่าติดเชื้อได้เร็วผ่านการวิเคราะห์เลือด สามารถรักษาได้ด้วยการทานยาต่อต้านไวรัส เมื่อทำรักษาแล้ว อาจไม่สามารถตรวจเจอเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องในร่างกายได้อีก เมื่อตรวจไม่พบก็เท่ากับไม่แพร่ระบาดสู่ผู้อื่นได้ยิ่งกว่านั้น ถ้าเกิดคนไข้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องทำการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างแม่นยำ และก็ตลอด จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ แก่ขัยยืนยาวเท่ากับผู้ที่ปลอดเชื้อ รวมทั้งอาจไม่จำเป็นที่จะต้องทานยาต้านไวรัสไปตลอดชาติ เพราะถ้าตรวจไม่พบเชื้ออีก ก็สามารถหยุดทานยาได้ แต่ว่าแพทย์อาจนัดพบเพื่อตรวจร่างกายเป็นระยะๆ


“ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง ทราบเร็ว รักษาได้”


การติดต่อของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง จากคนสู่คนเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องสามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ผ่านสารคัดเลือกหลั่ง ดังเช่นว่า เลือดของคนเจ็บ ที่ไปสู่ร่างกายอีกคนผ่านการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ซึมผ่านเข้ารอยแผลสดๆการให้นมบุตรจากแม่ที่ติดโรคสู่ลูก ฯลฯ แม้กระนั้นจังหวะที่จะติดโรคก็ไม่ 100% เสมอไปส่วนการกอด จูบ (ในกรณีที่ไม่มีแผลในปาก หรือเป็นการจูบแลกเปลี่ยนลิ้น แลกเปลี่ยนน้ำลายกัน) รับประทานข้าวร่วมกัน จานเดียวกัน ใช้ช้อนส้อม แก้วหน้าร่วมกัน ใช้สบู่ ยาสระผม ยาสีฟันด้วยกัน ไอจามใส่กัน หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัย (ที่ยังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน) ไม่ทำให้เกิดการรับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้แนวทางคุ้มครองปกป้องการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องสวมถุงยางทุกคราวเมื่อร่วมเพศถ้าหากอยากมีบุตร ต้องมีเพศสัมพันธ์กับคนรักของตนเองเพียงแค่นั้น แล้วก็อย่าลืมตรวจร่างกายเพื่อการวางเป้าหมายครอบครัวก่อนไม่เปลี่ยนแปลงคู่นอนเป็นประจำควรรักเดียวใจเดียวไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่นหากพบว่าร่างกายติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องแล้ว ควรจะรีบขอความเห็นหมอเพื่อกระทำรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด ยิ่งเร็ว ยิ่งรักษาง่ายถ้าหากเป็นผู้ติดโรคจากแม่ ควรจะเข้ารับการดูแลและรักษากับแพทย์ตั้งแต่เด็ก แล้วก็มีวินัยสำหรับการรักษาอย่างเคร่งครัดไม่ควรหวังตรวจเลือดด้วยการให้ทานโลหิต เนื่องจากเป็นการรบกวนลักษณะการทำงานของข้าราชการ และไม่มีคุณประโยชน์ต่อคนที่รอคอยรับโลหิตเพื่อการรักษา



ขอบคุณบทความจาก : https://www.healththailand.net/?s=%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%8C

Tags : เอดส์,hiv,ภูมิคุ้มกันบกพร่อง




 

Create Date : 20 เมษายน 2564
0 comments
Last Update : 20 เมษายน 2564 17:11:45 น.
Counter : 137 Pageviews.


สมาชิกหมายเลข 717375
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 717375's blog to your web]
space
space
space
space
space