บล็อก "บ้านหมอ" ขอนำเสนอเรื่องสุขภาพ + ภาษาอังกฤษ + ข่าวต่างประเทศสบายๆ สไตล์เราครับ...

 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
16 กุมภาพันธ์ 2552
 

10+1 วิธีกินอยู่ให้ผอมและกรนน้อยลงหน่อย


...



ภาพอาหารเม็กซิโก 'Nacho' > [ น้า - โฉ่ ] > [ Click ] , [ Wikipedia ]


...



ท่านอาจารย์ดอกเตอร์เบรียน วันซิงค์ แต่งหนังสือเรื่อง 'Mindless Eating: Why we eat more than we think' หรือ "การกินอย่างขาดสติ: ทำไมเราถึงได้กินมากกว่าที่คิด"


ท่านได้ทำการศึกษาโดยการถ่ายภาพสังเกตการณ์สถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้คนเรากิน "มากกว่าที่คิด" ติดต่อกันนานถึง 20 ปี และตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ออกมา


...


เว็บไซต์โรงพยาบาลเซนต์แอกเนส สหรัฐฯ ได้รวบรวมแก่นสารสาระจากหนังสือเล่มนี้ และทำเป็นคำแนะนำในการ "กินอย่างมีสติ (How to stop mindless eating = วิธีหยุดกินอย่างขาดสติ)" เพื่อป้องกันโรคอ้วนหรือช่วยเสริมโปรแกรมลดความอ้วน


ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ


...


(1). "(จาน ชาม ช้อน แก้ว)เล็กไว้ก่อน-พ่อสอนไว้"




  • คนเรามีแนวโน้มจะกินตาม "หน่วยนับ (unit)" ในใจ เช่น ตั้งใจว่า มื้อนี้จะกิน (ข้าว) 1 จาน (เครื่องดื่ม) 1 แก้ว" ฯลฯ



...




  • จานใหญ่ๆ แก้วใหญ่ๆ ช้อนใหญ่ๆ (โดยเฉพาะทรงอ้วนเตี้ย) มีแนวโน้มจะทำให้คนเรากินอาหารมากกว่าจานใบเล็กๆ แก้วเล็กๆ แก้วทรงผอมสูง และช้อนคันเล็ก



...


(2). มุ่งมั่นแต่น้อย




  • ถึงแม้ว่า คนเราจะไม่ค่อยมีความมุ่งมั่นในเรื่องงาน ทว่า... คนเรามักจะมี "ความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ (mission to finish)" มากกว่าที่คิด นั่นคือ ถ้าตักหรือเติมมาแล้ว... เรามักจะกินให้หมด (เสมอ)



  • ทางที่ดีคือ ฝึกตักหรือเติมอาหารให้น้อยลงประมาณ 1 ใน 3 เพื่อลดความมุ่งมั่น และถ้าจะมีของเหลือก็ฝึก "คิดใหม่-ทำใหม่" ไม่จำเป็นต้องกินให้หมดเสมอไป



...


(3). ของกินใกล้ตัว... น้อยไว้ละดี




  • การศึกษาทำในนักศึกษาปริญญาโทในชิคาโก สหรัฐฯ พบว่า นักศึกษาที่ได้รับข้าวโพดคั่ว (ปอปคอร์น) ถุงใหญ่จะกินมากกว่าคนที่ได้รับข้าวโพดคั่วถุงเล็ก 53% ในระหว่างการดูหนัง



...


(4). อย่าทำไฟสลัว 




  • คนเราจะกินมากขึ้นในบรรยากาศมืดๆ สลัวๆ เช่น ภายใต้แสงเทียน ห้องหรี่ไฟ ฯลฯ เมื่อเทียบกับห้องที่มีแสงสว่างมากๆ



  • กลไกที่อาจอธิบายเรื่องนี้ได้คือ ห้องมืดๆ สลัวๆ ทำให้คนเรากล้าที่จะทำอะไรๆ มากขึ้น เพราะฉะนั้นทางที่ดีคือ เปิดไฟในห้องอาหารให้สว่าง หรือติดกระจกเงาบานใหญ่ให้เห็นภาพตัวเรากำลังกินในกระจกไว้เป็นประจำ จะได้ไม่กล้ากินแบบ "ขาดสติ"



...


(5). นั่งใกล้คนกินช้าๆ




  • การนั่งใกล้คนที่กินเร็วหรือกินจุมีแนวโน้มจะทำให้คนเรากินเร็วขึ้นหรือกินมากขึ้นตามไปด้วย



  • กลไกที่อาจอธิบายได้คือ คนเรามีธรรมชาติที่ "ชอบแข่งขัน" ฝังลึกอยู่ใน DNA (สายพันธุกรรม) เพราะฉะนั้นทางที่ดีคือ นั่งใกล้ๆ คนที่กินช้าๆ และกินไม่เก่งเข้าไว้



...


(6). เสิร์ฟผักผลไม้จานใหญ่ อย่างอื่นจานเล็ก




  • การเสิร์ฟอาหารใส่จานหรือชามใหญ่ประเภท "ขนาดครอบครัว" ทำให้คนเรากินมากกว่าการเสิร์ฟในจานเล็กประมาณ 14%



  • ทางที่ดีคือ ให้เสิร์ฟผักผลไม้ (อาหารกำลังงานต่ำหรือแคลอรีต่ำ) ในจานหรือชามใบใหญ่ ตั้งไว้กลางโต๊ะที่ทุกคนจะตักหรือหยิบไปกินได้สะดวก และเสิร์ฟอาหารอื่นๆ ในจานหรือชามใบเล็ก อาหารประเภท "ผัดๆ ทอดๆ" และขนมให้เสิร์ฟในจานใบเล็กสุด



...


(7). อย่ากินอาหารจากถุง ชาม หรือกล่องใบใหญ่




  • ให้แบ่งใส่จานหรือชามเล็กๆ เฉพาะที่พออิ่มพอดี



...


(8). อย่าใส่ของกินในภาชนะโปร่งใส




  • การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนที่ทำงานไปเห็นชอคโกแลตในชามแก้วใสไปจะทนไม่ไหว และกินชอคโกแล็ตในชามแก้วใส (โปร่งใส) มากกว่าชามแก้วสีขาว (ทึบแสง) ประมาณ 71%



...




  • ทางที่ดีคือ อย่าเตรียมอาหารที่กินง่าย (comfort food) ไว้ใกล้ตัว ในบ้าน หรือที่ทำงาน โดยเฉพาะของอร่อย ของมีกลิ่นหอม หรือของที่เราชอบ



  • ตัวอย่างเช่น ถ้าจะตุนอาหารไว้ที่บ้าน... ข้าวกล้อง (ต้องใช้เวลาหุงนาน) น่าจะดีกว่าการตุนขนมกรุบกรอบหรือชอคโกแล็ต ฯลฯ



...


(9). บางอย่างหลากหลายไปก็ไม่ดี




  • คนเรามีแนวโน้มจะชอบกินของหลายๆ อย่าง อย่างละเล็กละน้อยมากกว่ากินของอย่างเดียวมากๆ



...




  • ทางที่ดีคือ ให้เตรียมอาหารประเภทผักผลไม้ (ผลไม้ทั้งผลที่ไม่หวานจัด ไม่ใช่น้ำผลไม้) ไว้หลายๆ อย่าง สีสันที่ต่างกันของผักผลไม้จะทำให้คนเราอยากกินผักผลไม้มากขึ้น



  • ส่วนอาหารประเภท "ผัดๆ ทอดๆ" ขนม หรือเครื่องดื่มเติมน้ำตาลนั้น... มีน้อยไว้ละดี เช่น อาจจะมีไว้อย่างเดียว และมีปริมาณจำกัด ฯลฯ



...


(10). ไม่ทำลายหลักฐาน




  • ร้านอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่นิยม "ทำลายหลักฐาน" โดยการเก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม แก้ว และของที่เหลือไป ทำให้ดูเหมือนเรากินไปไม่มาก และทำให้คนเรากินมากขึ้น



  • ทางที่ดีคือ เวลากินอะไรไปแล้ว ไม่ต้องเก็บภาชนะ และ "ซาก" เช่น ถ้ากินปลาก็ควรทิ้งก้างไว้บนโต๊ะ ถ้ากินไก่ควรทิ้งกระดูกไว้บนโต๊ะ ฯลฯ วิธีนี้จะทำให้ดูเหมือนกินไปมากแล้ว และทำให้กินได้น้อยลง



...



ท่านพระอาจารย์สมบัติ นันทิโกสอนผู้เขียนว่า วิธีหนึ่งในการ "ระงับ" ความอยากของคนเราได้คือ การใช้ลิ้นดันเพดานปากแรงๆ ให้นานพอสมควร พอทำไปหลายๆ ครั้ง... ความอยากในเรื่องต่างๆ จะลดลง


ผู้เขียนสังเกตว่า วิธีนี้เป็นวิธีบริหารกล้ามเนื้อลำคอที่ดีมากด้วย การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การออกกำลังกล้ามเนื้อลำคอ เช่น การฝึกเครื่องเป่า การฝึกร้องเพลง ฯลฯ มีส่วนช่วยลดการกรนได้ จึงขอเรียนเสนอให้ท่านผู้อ่านที่ต้องการฝึกลดการกินอย่างขาดสติ หรือกรนมากทดลองออกกำลัง โดยการใช้ลิ้นดันเพดานปากแรงๆ ให้นานพอสมควรดู


...


การออกกำลังแบบต้านแรง เช่น การใช้ลิ้นดันเพดาน ฯลฯ... คนทั่วไปไม่ควรกลั้นหายใจ ทว่า... ควรหายใจเข้าออกช้าๆ ไปด้วย เนื่องจากการกลั้นหายใจขณะออกแรงอาจทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้


เรียนเสนอให้ตรวจเช็คความดันเลือดก่อนทดลองใช้ลิ้นดันเพดานปากแรงๆ เป็นประจำ (ถ้าความดันเลือดสูงควรปรึกษาหมอใกล้บ้านก่อนเสมอ)


 


ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ


...



ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา                       


หัวข้อข่าวตอนนี้คือ 'How to stop mindless eating' แปลว่า "วิธีหยุดการกินแบบขาดสติ"


 




  • 'mindless' > [ มาย - ด(d) - เหลส ] > [ Click ] , [ Click ] = ใจ



  • 'mindless' > adjective = ใจลอย ขาดสติ โง่ ไม่ได้ใช้สติปัญญา





  • ตัวอย่าง > Hotel working is not a mindless job.

  • แปลว่า > การทำงานโรงแรมไม่ใช่งาน (ประเภท) แรงงานไร้ฝืมือ (ใช้สติปัญญา หรือความเชี่ยวชาญในการทำงาน)





  • คำ 'mindless' มาจากคำว่า 'mind' = ใจ + '-less' = ไม่มี ปราศจาก



  • คำ '-less' เป็นคำต่อท้าย (suffix) เมื่อไปต่อท้ายคำนาม (noun) ใดจะทำให้คำนั้นกลายเป็นคำขยาย (adjective / คุณศัพท์) และแสดงความหมายปฏิเสธ คล้ายๆ กับคำว่า "ไม่"






  • ตัวอย่าง > blame = การติเตียน > blameless = ปราศจากการติเตียน ไม่มีที่ติ



  • ตัวอย่าง > child = เด็ก > childless = ไม่มีลูก



  • ตัวอย่าง > window = หน้าต่าง > windowless = ไม่มีหน้าต่าง



...


ขอให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ตรงเสียงตัวอักษรหนา (ขีดเส้นใต้) เสียงอื่นๆ พูดให้เบาลง ส่วนตัวเสียงที่ใช้อักษรเอียงให้พูดเบาๆ คล้ายเสียงกระซิบ


พยายามอย่าพูดภาษาอังกฤษโดยไม่ย้ำเสียง (ไม่มี accent) เพราะฝรั่งฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ


...


 


ที่มา                                                       





  • Thank St. Agnes Hospital > How to stop mindless eating > [ Click ] > 10/2/2008. 



  • ขอขอบพระคุณ > อ.นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร สสจ.ลำปาง + อ.นพ.โอฬาร ยิ่งเสรี ผอ.รพ.ห้างฉัตร + อ.อรพินท์ บุญเสริม + อ.อนุพงษ์ แก้วมา > สนับสนุนเทคนิค iT.



  • ข้อมูลในบล็อกมีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค > ท่านที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงโรคสูง ควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้



  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์ > ยินดีให้ท่านผู้อ่านนำไปเผยแพร่ความรู้ได้ ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 16 กุมภาพันธ์ 2552.








Free TextEditor




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552
2 comments
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2552 22:23:19 น.
Counter : 631 Pageviews.

 
 
 
 
อ่านแล้วได้ความรู้มากมายเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ ขอให้คุณหมอมีความสุขมากๆค่ะ
 
 

โดย: Flowerfun วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:32:11 น.  

 
 
 
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน + ทุกๆ ความเห็นครับ... ขอให้คุณ flowerfun + ท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมากๆ เช่นกัน...
 
 

โดย: นพ.วัลลภ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:20:32 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

wullop
 
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




บล็อกสุขภาพ + เรื่องทั่วไป... ท่านนำบทความไปใช้ โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ... นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์...
New Comments
[Add wullop's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com