ไปเที่ยวโคเปนฮาเกนกันต่อนะคะ หลังจากเช็คอินที่โฮสเทลและจัดการทำธุระส่วนตัว นั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อยเล็กน้อยแล้ว ก็คว้าเป้ออกไปเที่ยวต่อ ฉันมีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวของโคเปนฮาเกนน้อยมาก มองดูตารางเที่ยวในมือที่จัดทำมา ตัดสินใจเลือกไปเดินชมป้อมปราการโคเปนฮาเกน Kastellet ก่อน ที่นี่มีรถเมล์สาย 1,6 และ 9 วิ่งผ่านนะคะ
ป้อมนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ลักษณะเป็นรูปดาว 5 แฉก แต่ละด้านจะมีอาคารหรือป้อมอยู่ กว่าจะเดินรอบเล่นเอาเหนื่อยหอบเหมือนกัน ...ปัจจุบันที่นี่ใช้เป็นสวนสาธารณะ มีหนุ่มสาวมาวิ่งหรือเดินออกกำลังกายกันเป็นจำนวนมาก ทางเข้า Kastellet
หลากมุมในป้อม Kastellet
มองเห็นกังหันลมจำนวนมาก
มีมุมหนึ่งในป้อมที่มองข้ามฝั่งไปจะเห็นกังหันลมกำลังทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ฉันเคยอ่านพบในหนังสือสารคดีว่า 20% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในเดนมาร์กนั้นมาจากพลังงานลม ประเทศนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นแชมป์ประเทศที่มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมมากที่สุดในโลก ส่วนนอร์เวย์กำลังจะได้เป็นเจ้าของกังหันลมผลิตไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก คือขนาด 10 เมกะวัตต์ สูง 162.5 เมตร ในปี 2554 สำหรับไทยเราเองก็เพิ่งเปิดใช้งานกังหันลมผลิตไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ขนาด 1.5 เมกะวัตต์ สูง 80 เมตร อยู่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช) เมื่อต้นปี 53 นี่เอง เห็นว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้วันละ 5,000 หน่วยหรือปีละ 1.8 ล้านหน่วย ซึ่งจะสามารถทดแทนการใช้น้ำมันดิบได้มากถึง 153 ล้านตันต่อปี
อยากให้บ้านเราหันมาผลิตพลังงานจากกังหันลมเยอะๆ นะคะ จะได้ลดต้นทุนในการนำเข้าน้ำมันดิบไปด้วย
...ดูเหมือนฉันจะเดินไม่ครบรอบห้าแฉกก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็ถือเป็นการดีเพราะเสมือนว่าได้ออกกำลังกายในสวนสาธารณะแห่งนี้ ได้ฟอกปอดรับอากาศสดชื่นแบบที่คนกรุงเทพฯ มักจะถวิลหา ต่อจากนั้นก็เบนทิศทางไปเที่ยวที่อื่นต่อค่ะ ...
คราวนี้ไปเดินเล่นแถวท่าเรือใหม่หรือ Nyhavn กันนะคะ Ny=New และ Havn=Harbor ความหมายก็แปลได้ตรงตัวดี Memorial Anchor หรืออนุสาวรีย์สมอเรือ บริเวณ Nyhavn
ผู้คนคึกคักที่ท่าเรือใหม่ Nyhavn
ดูจากสีสันแล้วก็คงจะรู้โดยทันทีว่า Nyhavn ต้องเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของโคเปนฮาเกนแน่ๆ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เช่นกัน เพื่อรองรับการขยายตัวของท่าเรือเดิม Kobenhavn และเพื่อเป็นคลองเชื่อมระหว่างเมืองออกสู่ทะเล ปัจจุบันก็อย่างที่เห็นล่ะค่ะ เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก และคาเฟ่ ทั้งสองฟากฝั่งคลอง ก่อนมาฉันตั้งใจแล้วว่าจะลองล่องเรือชมทิวทัศน์และสถานที่ต่างๆ ในเมืองดู ก็เลยมองหาทัวร์ทางน้ำที่ให้บริการแถวๆ นี้ บริเวณนั้นมี Canal City tour อยู่สองเจ้าด้วยกัน เป็นของ NETTO-BADENE และ DFDS Canal Tours ซึ่งรายแรกราคาจะถูกกว่าคือแค่ 30 DKK ส่วนรายหลังราคาเต็ม 60 DKK มีบัตร CPH Card ก็ลด 20% เหลือ 48 DKK ตัดสินใจเลือกของ DFDS เพราะดูดีมีมาตรฐานกว่าเจ้าแรกค่ะ
เบื้องหลังไกด์คือสีสันอันสวยงามของอาคารบริเวณท่าเรือใหม่ Nyhavn
ทัวร์ลำคลองนี่ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง แล่นผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญหลายๆ แห่ง ไกด์ใช้ภาษาอังกฤษและอีกหนึ่งภาษาซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเยอรมันหรือสวีดิชกันแน่ ไกด์พยายามพูดปล่อยมุขตลกบ้างเพื่อให้ลูกทัวร์ได้หัวเราะคลายหนาว ....ว่าแต่อากาศที่หนาวอยู่แล้วแบบนี้ ไปทัวร์ล่องเรือสัมผัสลมทะเลก็เหมือนกับจะทรมานตัวเองอยู่เหมือนกันนะคะ ถึงแม้จะสวมถุงมือไว้แล้วก็ตาม บางครั้งก็ยังรู้สึกว่ามือจะแข็งจนอดไม่ได้ที่ต้องซุกฝ่ามือซุกไว้ใต้ขาตัวเอง ไกด์บอกว่าวันนี้โชคดีที่ได้เจอเรือหลวงลอยลำในทะเลด้วย
ตึก Maersk บริษัทใหญ่ในธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ สัญชาติเดนมาร์ก ที่มีสาขาในเมืองไทยมานาน
ผ่านพระราชวัง Amalienborg มองเห็น Marble Church โบสถ์ทรงโดม
The Copenhagen Opera House
Boat House อยากมีบ้านเป็นเรืออย่างนี้สักลำ
ไฮไลท์สนุกๆ ตอนหนึ่งก็คือ ขณะที่เรือใกล้จะลอดผ่านสะพานแห่งหนึ่ง ไกด์บอกว่าเดี๋ยวจะผ่าน Vor Frelsers Kirke หรือ Our Saviour's Church โบสถ์สไตล์บารอค ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สวยงามมาก หากจะถ่ายรูปต้องรีบถ่ายเมื่อเรือลอดผ่านสะพานข้างหน้า เพราะเป็นมุมที่สวยที่สุดที่จะถ่ายได้ ...ลูกทัวร์ได้ฟังอย่างนั้นก็เลยรีบกระชับกล้องในมือเตรียมตัวถ่ายกันอย่างเต็มที่ ฉันก็ไม่รีรอล่ะค่ะ เพราะนั่งอยู่ด้านหลังของลำเรือ ก็เลยขอก้มตัวเดินลอดใต้สะพานไปดักรอที่หัวเรือแล้วถอยมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ถ่ายให้ได้มุมสวยมากที่สุด ค่อยๆ เห็น Vor Frelsers Kirke หรือ Our Saviour's Church
ลอดสะพานมากมาย ไกด์ต้องคอยบอกให้ระวังศีรษะเมื่อต้องผ่านสะพานเตี้ยๆ หรือช่วงที่มีความกว้างน้อย
The Royal Library หอสมุดแห่งชาติ หรือรู้จักกันในนาม The Black Diamond
Nicholaj Church บริเวณ Kongen Nytorv
Customs House ด่านศุลกากรที่ปัจจุบันเป็นเพียงคาเฟ่ริมน้ำ
บ้านที่นักเขียนชื่อดัง H.C. Andersen เคยอาศัย ปัจจุบันป้ายชื่อก็ยังคงอยู่
เรือวนกลับมาจุดเดิมที่ Nyhavn ยังมีผู้คนนั่งเล่นจิบกาแฟอยู่ตามลำคลอง
สิ่งที่ขาดไปสำหรับ Canal City Tour ในยามนี้ เห็นจะเป็นเรื่องราวของเงือกน้อยผจญภัยหรือ The Little Mermaid โดยปกติเมื่อแล่นมาถึงโขดหินที่เงือกสาวตัวนี้อาศัยอยู่ เรือจะหยุดพักและลูกทัวร์ก็จะขึ้นไปถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก แต่ตอนนี้ขาดหายไปเป็นเพราะทางการเดนมาร์กนำเธอไปร่วมงาน World Expo 2010 ที่เมืองจีน ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมแล้ว ใครจะไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก็อาจจะต้องลงทุนขึ้นไปนั่งโขดหินแล้วโพสต์ท่าเป็นนางเงือกแทน ซึ่งฉันก็เห็นนักท่องเที่ยวหลายๆ คนเขาทำกัน ไม่ว่าจะเพศชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ บนถนน H.C Andersen Boulevard ในยามเย็น
ความคึกคักตลอดเวลาของ Danhostel Copenhagen City
หลังจากนั้นฉันก็นั่งรถเมล์กลับไปที่พัก ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังรอเช็คอินที่ล็อบบี้อยู่ ที่ Danhostel นี่ดีตรงที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องอายุของผู้เข้าพัก ทำให้เห็นนักท่องเที่ยวหลากวัยเข้ามาใช้บริการที่นี่เป็นจำนวนมาก
วันนี้ฉันค่อนข้างเหนื่อยและเพลียมากหน่อย ..น่าจะเกิดจากอาการเอ๋อหลงทางกับการตามหาโฮสเทลเมื่อตอนกลางวัน เอาไว้พักผ่อนให้เพียงพอก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยออกไปเที่ยวกันต่อค่ะ |
เวลาต้องล่องเรือแล้วเจออากาศหนาวจัดๆ อย่างที่บอกเนี่ยมันทรมานมั่กๆเลยนะคะ เคยเจอมาบ้าง มันทำให้ความสนุก ความตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์สวยๆ หายไปเยอะเลย เพราะมัวแต่สู้กับความหนาว บรื๋อออออ