กลุ่มผู้รักร่วมเพศยุคเริ่มต้นประชาธิปไตย



3. กลุ่มผู้รักร่วมเพศยุคเริ่มต้นประชาธิปไตย


ในยุคนี้พฤติกรรมรักร่วมเพศได้เกิดขึ้นกับ บุคคลทั่วไปมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลัทธิประชาธิปไตยแต่ประการใด หากแต่พฤติกรรมรักร่วมเพศได้ปรากฎให้พบเห็นได้ทั่วไปในสังคมไทยและมีการ สื่อสารในเรื่องนี้ไปถึงประชาชนอย่างกว้างขวาง เมื่อมีการลงข่าวในหนังสือพิมพ์รายวันศรีกรุง ฉบับประจำวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2478 ว่ามีการเปิดซ่องของ โสเภณีชายของนายถั่วดำหรือการุณ ผาสุก เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยนายถั่วดำได้หลอกลวงเด็กชายอายุตั้งแต่ 10-16 ปี ให้มาอยู่ด้วยในห้องแถวเช่า ย่าน ตำบลตรอกถั่วงอก อำเภอป้อมปราบ พร้อมทั้งสอนวิธีสำเร็จความใคร่ให้กับเด็กและให้เด็กสำเร็จความใคร่กับแขกที่มาเที่ยวโดยได้รับสินจ้างรางวัลเยี่ยงหญิง โสเภณี นับว่าเป็นการขายบริการทางเพศของชายที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเป็นครั้งแรก ดังนั้น ชื่อของนายการุณ ผาสุก หรือ นายถั่วดำ จึงเป็นที่กล่าวขานกัน อย่างกว้างขวาง จึงได้กลายเป็นคำแสลงที่ใช้เรียกพฤติกรรมรักร่วมเพศในเวลาต่อมา โดยที่สังคมถือว่าเป็นพฤติกรรมที่วิตถารและผิดจาก ธรรมชาติ


ก่อนขึ้นปี พ.ศ.2500 สังคมไทยฮือฮาและโจษจันอย่างมากเกี่ยวกับพฤติกรรมรักร่วมเพศ เมื่อมีข่าวใน หน้าหนังสือพิมพ์สยามนิกร ประจำวันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2493 ได้รายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมการเสพเมถุนทางเว็จมรรคหรือวิถีบำบัดความใคร่ของเหล่านัก โทษในคุกที่นิยมทำต่อกันในระหว่างจำคุก ทำให้เรื่องราวของพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นที่รับรู้ในสังคมมากขึ้น และตอกย้ำว่าเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติและผิด ศีลธรรมอย่างหนึ่ง โดยที่คนส่วนใหญ่ถือว่าเป็นเรื่องน่าอับอายและน่ารังเกียจ ดังนั้น พฤติกรรมรักร่วมเพศจึงถือเป็นความเบี่ยงเบนไปจากปทัสถานของสังคม ไทย จึงทำให้เกิดความชิงชังผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว


วงการแพทย์ไทยจึงต้องหาคำตอบเกี่ยวกับพฤติกรรมรักร่วม เพศอย่างจริงจัง เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวที่เป็นข้อสงสัยของสังคม โดยได้อาศัยความรู้จากประเทศตะวันตกมาเป็นกรอบอ้างอิง ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก แนวความคิดจากทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) เชื่อว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นปรากฏการณ์เจ็บป่วยทางจิตของมนุษย์อย่างหนึ่ง ต้องมีการบำบัดรักษาจึงหายจากอาการหรือพฤติกรรมดังกล่าว นายแพทย์สุด แสงวิเชียร แพทย์ไทยที่ได้รับทุนจากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ไปประเทศสหรัฐ อเมริกา ได้อธิบายว่า บุคคลที่มีความผิดปกติทางร่างกายที่อวัยวะเพศมีลักษณะที่กำกวมระหว่างชายและหญิงเรียกว่า "กะเทย" ส่วนผู้ที่มี พฤติกรรมทางสังคมที่ตรงกันข้ามกับเพศตนเองนั้นจะเรียกว่า "ลักเพศ" เนื่องจากเป็นผู้มีพฤติกรรมที่เป็นการ "ลัก" จากเพศตรงข้าม มาเป็นของตนเอง พฤติกรรมรักร่วมเพศ ในสังคมไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีความผิดปกติที่แสดงออกทางจิตใจมากกว่าทางร่างกาย พฤติกรรมรักร่วมเพศชนิด แรกที่สังคมไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ก็คือ กะเทย ซึ่งหมายถึงคนที่ไม่ใช่ทั้งผู้ชายและไม่ใช่ผู้หญิง ซึ่งสังคมไทยจึงรับรู้ว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นความเจ็บป่วย และวิปริต


ต่อมาในปี ค.ศ.1974 สมาคมจิตแพทย์อเมริกันจึงได้ประกาศว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศไม่ได้เป็นความ ผิดปกติทางเพศ ส่วนผู้ชายที่แปลงเพศ (Transsexual) ยังคงถือว่าเป็นความผิดปกติทางเพศอยู่ สังคมไทยมีแนวความคิดเกี่ยวกับ "กะเทย" และ "ลักเพศ" ที่แตกต่างกันไป โดยที่มองเห็นว่า "กะเทย" จะเป็นกลุ่มที่มีอวัยวะเพศทั้งเพศหญิงและเพศชายอยู่ในคนเดียวกัน ส่วน "ลักเพศ" เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมเป็นโรคของต่อมไม่มีท่อ (Glandular Disease) หรือฮอร์โมน และเป็นเรื่องของจิตใจซึ่งเกิดจากการ เจริญเติบโตที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตาม พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมรักร่วมเพศมากขึ้นและมีการบำบัดรักษาพฤติกรรมดังกล่าวในโรงพยาบาลของรัฐ เพราะคิดว่า เป็นความเจ็บป่วยอย่างหนึ่ง



Create Date : 07 มิถุนายน 2554
Last Update : 7 มิถุนายน 2554 0:02:28 น.
Counter : 565 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bel_Lu
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



偶然という名の運命 そんな出逢いだからこそ๐ 何気ない瞬間を 今日からは かけがえのない瞬間に๐ 永遠にともに いつの日も どんなときも๐
มิถุนายน 2554

 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30