--but life goes on, and this old world will keep on turning--
แค่คนข้างใจ (9)

9

ธารขวัญวางหนังสือเรียนลงบนโต๊ะข้างเตียงนอนอย่างหงุดหงิด นี่มันอะไรกันนักกันหนานะ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาวรางค์ยิ่งมีท่าทีเย็นชากับเธอมากขึ้นอีก ขนาดหน้าเธอ ฝ่ายนั้นยังแทบไม่มองเลยด้วยซ้ำ อย่างวันนี้ พอเธอเปิดประตูห้องเข้ามา อีกฝ่ายเดินสวนออกไปดื้อๆ โดยไม่พูดไม่จา

ส่วนภิญโญนั้นหลบหน้าเธออย่างเห็นได้ชัด เมื่อไม่มีคำพูดจาทักทายกวนประสาท หรือแม้แต่รอยยิ้มยียวนจากฝ่ายนั้นอย่างที่เคย แม้เธอจะโล่งใจอยู่มากที่ไม่ต้องลำบากใจกับการเผชิญหน้า หากธารขวัญก็ยังอดรู้สึกเหงาๆ ในใจไม่ได้ เขาเป็นอะไรของเขานะ ดูเหมือนไม่ใช่เขา..คนที่ส่งบทเพลงแสนหวานเพลงนั้นให้เธอ..ธารขวัญคิดอย่างพาลๆ จนลืมไปด้วยซ้ำว่าเธอเองเกือบจะลบข้อความนั้นเพราะความโมโหเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา

ภิญโญกับวรางค์ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาคืนดีกันได้อีก..เมื่อฝ่ายชายนั้นเฉยชากับทุกเหตุการณ์และคำวิพากษ์วิจารณ์ หากใครถาม เขาก็เพียงยักไหล่ยิ้มๆ โดยไม่ปริปาก จนคนถามหมดความพยายามไปเอง ท่ามกลางความเห็นด้วยของคนแทบจะทั้งชั้นปี เพราะทุกคนก็ได้เห็นความกะล่อนของเขา ที่ทำร้ายวรางค์มานักต่อนัก โดยเฉพาะเมื่อวรางค์นั้น เพียงแค่มีข่าวว่าจะเลิกรากับภิญโญ ก็มีคนมาเขาคิวรอสมัครเป็นคนดูแลเธอจนแทบจะนับไม่ทัน

จึงมีแต่คนเชียร์ให้..ทิ้งๆ ไอ้โยไปซะที..โดยที่แทบไม่มีใครสังเกตเห็นเหมือนที่ธารขวัญเห็นว่า..ฝ่ายที่ถูกทิ้งนั้นเห็นทีจะไม่ใช่ภิญโญแน่ๆ

ธารขวัญลงมือเก็บหนังสือเรียนลงเป้ใบโต พรุ่งนี้วันเสาร์ เธอมีนัดไปดูหนังกับธาวิน ซึ่งเลื่อนมาจากอาทิตย์ก่อน เขานัดจะมารับเธอที่หอพรุ่งนี้เช้าก็จริง หากบรรยากาศอึมครึมรอบตัวทำให้เธออยากจะกลับไปค้างที่บ้านมากกว่า ทั้งๆ ที่ตามปกติเธอเองกลับบ้านเพียงเดือนละครั้ง บางเดือนก็ไม่กลับด้วยซ้ำไป

เอาไว้ค่อยโทร.บอกธาวินทีหลังก็แล้วกัน..คนคิดๆอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อก้าวขึ้นรถแท็กซี่โดยไม่ทันเห็นใครคนหนึ่งที่เลี้ยวรถเข้ามาจอดตรงหน้าหอพักเธอในตอนนั้น

ธาวินฮัมเพลงอย่างสุขใจ เมื่อเปิดประตูรถก้าวลงมาด้วยอารมณ์ปลอดโปร่ง นีรนุชกำลังจะหมั้น วันนี้เธอมาบอกข่าวเขาด้วยแววตาเศร้าซึม เนื่องจากว่าที่คู่หมั้นของเธอนั้นเป็นคนที่ผู้ใหญ่จัดหาให้ ผู้เป็นบิดาของเธอฝังใจกับการที่ลูกสาวคนโตหนีตามผู้ชายออกไปอยู่กินกันดื้อๆ จนไม่อาจปล่อยให้ลูกสาวคนเล็กเลือกคู่ครองเองได้อีก

ธาวินแม้จะสงสารเธอ หากก็บอกตัวเองได้ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ในเมื่อว่าที่คู่หมั้นของเธอนั้นเป็นหนุ่มไฮโซที่มีชื่อเสียงว่าเป็นคนดีอยู่ในวงสังคม ดีพร้อมและสมบูรณ์แบบคู่ควรกับเธอทุกประการ และเขาเอง..คงไม่สามารถให้เธอได้มากกว่าความเป็นเพื่อน โดยเฉพาะความเป็นเพื่อนนั้นเอง..ที่ทำให้เขากับธารขวัญมีปัญหากันเรื่อยมา

ต่อจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างธารขวัญกับเขาคงจะราบรื่น สงบสุขเสียที ปีหน้าเขาก็จะเรียนจบ งานที่ต่างๆ ที่ไปสมัครไว้ ดูจากผลการเรียนของเขาแล้วคงมีตำแหน่งที่มั่นคงรองรับไม่ยาก เขากับเธอจะมีอนาคตร่วมกัน ธาวินคิดอย่างเป็นสุข วันนี้ พอแยกจากนีรนุชได้ เขาก็บึ่งรถตรงมาหาเธอ เพราะรู้ว่าวันนี้ธารขวัญเลิกเรียนไม่เย็นนัก หากเธออยากดูหนัง เขาก็จะชวนเธอไปดูเสียตั้งแต่วันนี้

เพราะพรุ่งนี้..เขาอยากจะชวนเธอไปฉลองกันที่ริมทะเลใกล้ๆ กันสองคน อาจจะเป็นบางแสนหรือพัทยา

ที่นั่น..เขาอาจจะถามเธอเสียทีว่า..หมั้นกับเขาไว้ก่อนได้ไหม..

แล้วอารมณ์แจ่มใสของเขาก็ต้องขุ่นมัวลง เมื่อโทร.เข้ามือถือธารขวัญเท่าไหร่ๆ ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ จนในที่สุด ธาวินจึงต่อเข้าเบอร์ห้องพัก ครู่หนึ่งก็มีเสียงคนรับสาย

"แววเหรอ.." เสียงเขาคลายความตื่นเต้นลงเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าคนรับสายคือวรางค์

"ขวัญอยู่มั้ย..โทร.เข้ามือถือเท่าไหร่ก็ไม่ติด"

วรางค์ฝืนยิ้มกับกระบอกโทรศัพท์ ดูเหมือนธารขวัญจะมีคนเป็นห่วงเป็นใยมากมายมิได้ขาด ความรู้สึกบางอย่างที่วาบขึ้นมา แม้เพียงชั่วแล่น ก็ทำให้เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มที่แม้แต่ตัวเธอเองก็คงประหลาดใจถ้าได้เห็น เมื่อบอกออกไปว่า

"ขวัญไม่รู้ไปไหน..แต่เดี๋ยวก็คงกลับมา..วินรออยู่ข้างล่างนะ เดี๋ยวเราจะลงไปหา มีเรื่องอยากคุยด้วย"

ธาวินวางโทรศัพท์ลงอย่างไม่เข้าใจนัก วรางค์จะมีเรื่องอะไรอยากคุยกับเขากันเล่า..คงจะเป็นเรื่องภิญโญอีกกระมัง..คนคิดๆ อย่างระอา คงต้องหาเวลาพูดจากับไอ้โยจริงๆ จังๆ เสียทีแล้ว..ทำร้ายผู้หญิงอยู่อย่างนี้ไม่ดีเลย


หากเรื่องที่ได้ฟังจากปากวรางค์ก็ทำให้เขาชาวาบไปทั้งตัวด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้างจนใครคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า ที่ม้านั่งยาวข้างหอพักนักศึกษาริมแม่น้ำ

ฝ่ายนั้นเดินตรงเข้ามาด้วยรอยยิ้มแจ่มใสอย่างเคย เมื่อส่งเสียงทักทายมาแต่ไกล

"ว่าไงไอ้วิน วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้ล่ะ ไม่ได้โผล่มาตั้งนานแล้วนี่หว่า.."

ก่อนที่จะรู้ตัว กำปั้นของธาวินก็ตรงเข้าที่ปากครึ่งจมูกของอีกฝ่ายเต็มแรงจนฝ่ายนั้นเซไป

"อะไรวะ ! " คนโดนชกอย่างไม่ทันตั้งตัวร้องออกมาอย่างโมโห

"ใช่ ! ข้าไม่ได้โผล่มานาน..ไม่งั้นคงรู้เรื่องเอ็งกะขวัญไปตั้งนานแล้ว..ไม่มัวโง่งมงายอย่างที่ผ่านๆ มา" ธาวินกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายหนึ่งมาตะโกนใส่หน้า

"เรื่องอะไร" อีกฝ่ายกลับย้อนถามเสียงเรียบ

"ยังจะมีหน้ามาถาม" ธาวินนึกอยากจะชกให้อีกสักโครม "เรื่องเอ็งกับขวัญ.."

"เรื่องของข้าคนเดียว..ไม่เกี่ยวกับขวัญ" อีกฝ่ายขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา ปัดมือธาวินออกจากคอเสื้อโดยแรง

"ถ้าเอ็งอยากรู้ ข้าก็จะเล่าให้ฟัง" คนพูดนั่งลงบนม้านั่งยาวอย่างไม่มีทีท่าสะทกสะท้านต่ออาการของคนเป็นเพื่อน

"เอ็งอยากรู้อะไรก็ถามมา"

ธาวินชักอยากจะเค้นคอคนนั่งสบายอารมณ์ด้วยความรู้สึกว่าฝ่ายนั้นยียวนได้ไม่ถูกกาละเทศะอย่างแรง หากก็ได้แต่ข่มอารมณ์ บอกเสียงต่ำๆ ว่า

"เอ็งเล่ามา..ทั้งหมด"

อีกฝ่ายยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เมื่อตอบเรียบๆ

"ข้ารักขวัญ..แค่นั้น..จบ..ไม่มีเรื่องอื่น..ไม่มีรายละเอียดอื่น"

กำปั้นของธาวินที่ยกขึ้นสูงอีกถูกอีกฝ่ายหนึ่งจับเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่มันจะตรงเข้าส่วนใดส่วนหนึ่งของใบหน้าเขาอีกครั้ง ภิญโญจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยดวงตาวาววับ พูดคล้ายคำรามในลำคอว่า

"ข้าจะไม่ยอมให้เอ็งมาต่อยข้าเล่นฟรีๆ หลายๆ ครั้งหรอกโว้ย ถึงเอ็งจะเป็นเพื่อนรักของข้าก็เถอะ"

"เพื่อนรักเหรอ" อีกฝ่ายสวนกลับทันควันด้วยน้ำเสียงเยาะ

"เอ็งยังคิดว่าข้าเป็นเพื่อนรักของเอ็งอยู่อีกเหรอไอ้โย..แล้วเอ็งยังมีหน้ามาทรยศข้า..เอ็งมันก็ไอ้แมวขโมย..ข้ามันโง่..ที่ฝากปลาย่างไว้กับแมว" น้ำเสียงคนพูดเคียดแค้น หากคนโดนกล่าวหาเพียงแต่ถอนใจ ถามอย่างไม่เกรงกลัว

"ข้าทำอะไร..ที่เอ็งเรียกว่าแมวขโมย..เอ็งหยุดพูด" เขาชี้หน้าคนเป็นเพื่อนที่ขยับจะต่อปากต่อคำ พูดต่ออย่างหนักแน่น ทั้งในน้ำเสียงและแววตา

"ข้ารักขวัญ..เอ็งก็น่าจะรู้มาตั้งนานแล้ว..เพราะเอ็งก็เคยสงสัยข้า..แต่ที่ข้าไม่พูด..ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนดี เป็นคนเสียสละ ยอมเจ็บเพื่อให้เพื่อนรักมีความสุข หรืออะไรเทือกนั้นหรอกนะ.." คนพูดจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง

"แต่เป็นเพราะว่าข้ารู้ต่างหากว่า..ขวัญเค้ารักเอ็ง..รักมาก..จนถึงทุกวันนี้เค้าก็ยังรัก.." ประโยคสุดท้ายเบาลงด้วยความรู้สึกบางประการที่วาบขึ้นมา หากก็เพียงแวบเดียว..ก่อนจะกลายเป็นแววประชดประชันตามแบบของคนพูด

"ข้าแอบรักเค้า..มันเป็นการทรยศเอ็งตรงไหนไม่ทราบ..เพราะเค้าไม่ได้มารักข้าตอบนี่หว่า..เป็นเพื่อนกันนี่ต้องห้ามไปแอบรักแฟนเพื่อนด้วยงั้นเหรอ"

เงียบกันไปนาน ราวกับต้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์กันทั้งคู่

"แต่ที่แววเล่ามันมีมากกว่านี้นะโว้ย" น้ำเสียงธาวินอ่อนลงเพียงเล็กน้อย แม้วิธีพูดและแววตาหนักแน่นของอีกฝ่ายจะทำให้เขาอารมณ์เย็นลงมาก ด้วยความเชื่อถือในคนเป็นเพื่อนที่คบหากันมานานปี หากอะไรบางอย่างก็ยังเป็นเงามัวๆ ในจิตใจอยู่นั่นเอง

"อ้อ..ฟังมาจากแวว.." คนฟังยักไหล่ด้วยท่าทีกวนตา น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเยาะขึ้นมาทันตาเห็น

"แล้วเอ็งก็ไม่ถามข้าซักคำ..พอเจอหน้าก็ต่อยโครม.." คนพูดเริ่มจะรู้สึกแสบๆ ในปาก ฟันคงกระทบกับเนื้ออ่อนจนได้เลือดกันละ

"แววเค้าพูดว่าไงมั่งล่ะ"

"ช่างมันเถอะ..ข้าขอโทษ.." ธาวินระบายลมหายใจยาว..เขาเองไม่เคยเป็นคนวู่วามอย่างนี้ ครั้งนี้ก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงลงมือทำร้ายคนเป็นเพื่อนเมื่อครู่ แค่เพียงได้ฟังคำพูดไม่กี่ประโยคจากคนๆ หนึ่ง

อาจจะเป็นเพราะสัญญาณอันตรายบางอย่างกระมัง..


ถึงอีกฝ่ายจะไม่ตอบคำถาม หากภิญโญก็พอจะเดาออกว่าวรางค์..พูด..กับธาวินว่าอย่างไรบ้าง ในเมื่อเขาเองก็ถูกมองด้วยแววตาแปลกๆ จากกลุ่มเพื่อนผู้หญิงในระยะสองสามวันมานี่เหมือนกัน อีกทั้งเสียงซุบซิบเป็นทำนองว่า..รู้นะว่าคนใหม่ที่จะมาแทนที่วรางค์เป็นใคร..

น่าแปลกที่เขาเพิ่งจะรู้สึกโกรธ ทั้งๆ ที่การโดนชกเอาซึ่งหน้าอย่างเมื่อครู่ยังไม่ทำให้เขาโกรธได้เท่านี้

ร่างสูงลุกขึ้นทันควัน ทำท่าจะผละไปโดยไม่พูดไม่จา แต่ก็ช้ากว่าธาวินที่รั้งแขนอีกฝ่ายเอาไว้ทัน ถามขรึมๆ

"เอ็งจะไปไหน"

"ไปคุยกับแวว" คนตอบๆ เรียบๆ หากแววตาวาวโรจน์

"นั่งลงก่อนน่า..ใจเย็นๆ" ธาวินกลับต้องเป็นฝ่ายปลอบคนเป็นเพื่อนเสียเอง

"ข้าไม่รู้หรอกว่ามีปัญหาอะไรกัน..แต่แววบอกข้าว่าเอ็งทิ้งเค้าไปหาขวัญ.."

ยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็แทรกขึ้นอย่างเย็นชา

"ข้าทิ้งเค้า..แต่ไม่ได้ทิ้งไปหาขวัญ..เข้าใจมั้ย"

"ตกลงนี่เอ็งเลิกกะเค้าแล้วจริงๆ เหรอวะ" ธาวินถามอย่างตกใจ ส่ายหน้าอย่างระอากับพฤติกรรมของคนเป็นเพื่อน ก่อนจะออกปากตำหนิอย่างเคยชิน เช่นเดียวกับเวลาที่ภิญโญมีปัญหากับเรื่องเหล่านี้ทุกครั้ง

"ถ้างั้นมันก็เป็นความผิดของเอ็งนั่นแหละ..ที่ไปทำร้ายเค้าก่อน..เอ็งอย่าไปโทษเค้าเลยน่ะ..ไปคืนดีกับเค้าซะ" คำพูดนั้นคล้ายคำสั่งกลายๆ โดยเฉพาะคนพูดเป็นคนเชื่อมั่นในความคิดดีงามของตัวเองอยู่เสมอ

หากคราวนี้ภิญโญได้แต่นิ่ง มองหน้าคนเป็นเพื่อนราวกับเห็นเป็นสิ่งประหลาด ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า

"สรุปว่ากลายเป็นว่าข้าผิดใช่ไหม"

ธาวินหัวเราะออกมาเบาๆ ตอบอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก

"เออซิ..ก็เอ็งไปทิ้งเค้า..เอ็งก็ผิดอยู่วันยังค่ำ..ทำไมเอ็งไม่เลิกซะทีนะเรื่องไปทำร้ายผู้หญิงเนี่ย.."

หากยังไม่ทันจบประโยค ฝ่ายนั้นก็สวนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

"เอ็งด่าข้าพอรึยัง..ที่เอ็งด่ามาสิบกว่าปีซ้ำๆ กันนี่ เอ็งพอรึยัง" คนพูดยิ้มด้วยรอยยิ้มที่แปลความหมายไม่ออก

"ที่เอ็งด่าข้าว่าข้าเลว ข้าดีแต่ทำร้ายผู้หญิง ไม่เหมือนเอ็งที่คอยแต่เป็นพระเอก อบอุ่น อ่อนโยน คอยดูแล ปลอบโยนผู้หญิงทุกคน ที่เอ็งด่าข้าว่ากะล่อน เจ้าชู้ ทั้งหมดที่เอ็งด่ามานี่ เอ็งจะพอได้รึยัง..มีอะไรจะด่าอีกไหม"

ธาวินมองหน้าคนเป็นเพื่อนอย่างงุนงง ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าฝ่ายนั้นโมโหเรื่องอะไร

"ข้าแค่แนะนำให้เอ็งไปเคลียร์กับเค้าให้เรียบร้อย..ก็เท่านั้นเอง..ไม่ได้ตั้งใจจะด่าเอ็ง.."

อีกครั้งที่ภิญโญไม่รอให้เขาพูดจบ เมื่อสวนออกมาทันควันอย่างเยาะๆ ว่า

"เรียบร้อยของเอ็งก็คือการกลับไปคืนดีกัน แฮปปีเอ็นดิ้งซินะ..เสียใจว่ะ..ข้าทำไม่ได้..เพราะข้าไม่ได้รักเค้าแล้ว..เอ็งไม่ต้องพูดไอ้วิน ! " คนพูดบอกเสียงเข้ม ไม่ต่างกับแววตาที่มองเขม็ง

"ข้าฟังเอ็งพูดมานานแล้ว วันนี้ข้าจะพูดบ้าง" ฝ่ายนั้นย้ำเสียงเครียด

"ในความคิดของเอ็ง คนอย่างข้าเป็นคนเลว คนที่มีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า กะล่อน ขี้หลี หรืออะไรก็ตามที่เอ็งจะด่า..ขณะที่คนอย่างเอ็งเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยน ไม่มีวันทำร้ายผู้หญิง..รักใครก็รักจริง มั่นคง" ทุกคำมิได้มีรอยประชด หากธาวินอยากจะเชื่อว่า น้ำเสียงนั้นเจือแววขื่นเสียมากกว่า

"ข้าไม่ได้ประชดเอ็ง แต่ข้าพูดจริง เอ็งเป็นคนดี ข้ายอมรับ ถึงข้าจะคิดไม่เหมือนกับเอ็ง ข้าก็ยอมรับ" ทุกประโยคมั่นคง จริงจัง

"แต่เอ็งไม่เคยยอมรับความคิดข้า ไม่เคยยอมรับมุมมองของข้า เอ็งเชื่อมั่นในความคิดของเอ็ง จนใครก็ตามที่คิดไม่เหมือนเอ็งจะกลายเป็นว่าคิดผิดไปหมด.."

"ข้าจีบใครต่อใครไปเรื่อยๆ เอ็งก็เอาแต่ด่าข้า..เอ็งเคยรับฟังความคิดของข้ามั้ยว่าข้าคิดยังไง ถึงได้ทำแบบนั้น.."

"ข้าเคยบอกเอ็งใช่มั้ย ว่าข้าจะมีใครต่อใครไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่..ใช่..จริงๆ ชีวิตของข้า ข้าต้องมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองซิ อาจจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว ความคิดของคนเลวๆ ที่ไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างเอ็ง แต่มันก็คือความคิดของสามัญชนคนธรรมดาอย่างข้า ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนดีอย่างพระเอกในละคร.."

"และข้าก็เชื่อมั่นในความคิดของข้า ก็คงเหมือนอย่างที่เอ็งเชื่อความคิดตัวเอง..แต่ข้าอยากจะบอกเอ็งไว้อย่างนึง..ว่าอย่างน้อย..ข้าก็ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเสมอ..ข้าชอบคนนี้ ข้าก็จีบ พอไม่ชอบ ไปกันไม่ได้ ข้าก็เลิก..ไม่มีการยืดเยื้อ..ไม่มีการทำร้ายกันต่อไป.."

"ข้าไม่ได้พูดว่าสิ่งที่ข้าทำอยู่มันถูก..เพราะข้าก็บอกแล้วว่ามันเป็นมุมมองของคนเลวๆ คนหนึ่งเท่านั้น..แต่ข้าก็อยากเตือนคนดีๆ อย่างเอ็ง..ว่าบางที กับบางเรื่อง..ความถูกต้อง เหมาะสม ความดีงาม อ่อนโยน มันก็ใช้ไม่ได้..โดยเฉพาะในเรื่องของหัวใจ.." น้ำเสียงคนพูดอ่อนลง ขณะที่ธาวินนั่งเงียบ ราวกับจนต่อถ้อยคำของอีกฝ่ายทุกประการ

"หรือเอ็งคิดว่าการที่เอ็งทำร้ายใครคนหนึ่ง..เพียงเพราะอยากรักษาจิตใจของใครอีกคนหนึ่งอย่างที่ผ่านๆ มาน่ะ..เอ็งทำถูกแล้ว..ในมุมมองของข้า..มันก็คือความเลวอย่างหนึ่งของคนที่ใจโลเล ไม่กล้าตัดสินใจนั่นแหละวะ ! " คนพูดกระแทกเสียงด้วยแรงอารมณ์

ธาวินเลือดขึ้นหน้า จนแทบจะชกอีกฝ่ายคว่ำลงเป็นคำรบสอง หากว่าฝ่ายนั้นจะไม่บอกเสียก่อนด้วยเสียงต่ำๆ ดวงตาเอาเรื่อง

"ข้าบอกแล้วว่าข้าจะไม่ยอมให้เอ็งมาต่อยข้าเล่นฟรีๆ อีก..ไอ้วิน"

"เอ็งต้องยอมรับ เคารพในความคิดของคนอื่นให้มากกว่านี้ ไอ้วิน อย่ามัวแต่มั่นใจว่าเอ็งเป็นคนดี เอ็งทำถูกต้องอยู่คนเดียว เพราะนี่มันคือชีวิตจริงๆ ของคน ไม่ใช่โลกในจินตนาการที่ทุกคนจะต้องมีจิตใจดีทัดเทียมกันหมด..ทำดีจะต้องได้ดี..ถ้าเอ็งจะยังเชื่ออย่างนั้น..ชีวิตข้างหน้าเอ็งอาจจะลำบาก..โดยเฉพาะถ้าเอ็งยังสงสารคนไม่เลือกหน้าอยู่อย่างนี้ ! " คนพูดเกือบจะหันหลังเดินจากไป หากก็ยังหันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงหนักๆ ว่า

"เรื่องแวว..เอ็งไม่ต้องมาสั่งข้า เพราะข้าจะไม่ทำตามที่เอ็งสั่ง ส่วนเรื่องขวัญ.." ฝ่ายนั้นโน้มตัวลงมาจ้องหน้าเขาอยู่ชั่วครู่..ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงและแววตาเรียบสนิท

"เอ็งอย่าหวัง..ว่าคนอย่างข้าจะหลีกทางให้เอ็ง..เพราะข้าบอกแล้วว่าที่ผ่านๆ มาข้าไม่ได้วางมือเพราะเห็นแก่เอ็ง เห็นแก่มิตรภาพอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะว่าข้าเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าเขารักเอ็ง ชื่นชมเอ็ง เอ็งอย่าลืมซิว่าใครเป็นคนแนะนำเอ็งให้รู้จักกับเขา ทั้งๆ ที่ตอนม.ห้า เอ็งอยู่คนละห้องกับเขา ข้ามองเขามาตลอด ทำไมข้าจะไม่รู้ว่าเขามองใคร.." คำสุดท้ายขาดหายไปในลำคอ หากประโยคต่อไปต่างหาก ที่ทำให้ธาวินต้องนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น..จนอีกฝ่ายเดินจากไป

"วันนี้..เขายังรักเอ็ง..ข้าไม่มีทางยื่นมือเข้าไปแทรก..แต่ถ้าวันไหน..เขาเปลี่ยนไป..ไม่ว่าจะเป็นเพราะเอ็งหรือเพราะตัวเขาเองก็ตาม..ข้าลงสนามแข่งกับเอ็งแน่..ไม่ต้องกลัว.."

.......................................................


"แววลงมาคุยกันหน่อย" เสียงที่แล่นมาตามสายโทรศัพท์ทำให้วรางค์น้ำตาหยดลงอีก จากที่แห้งเหือดไปแล้วหลังจากผ่านการร้องไห้มาแทบทั้งคืน

"จะต้องคุยอะไรกันอีก..ไหนโยว่าไม่มีอะไรต้องคุยแล้วไงล่ะ โยบอกว่ามันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ..ถ้าคุยก็ไม่จบน่ะซิ.." ความเป็นผู้หญิงทำให้ประชดประชันออกไป แม้เสียงจะเครือ

"จบ..ต้องคุยนั่นแหละถึงจะจบ.." ภิญโญพยายามอย่างอดทน

"คุยทางโทรศัพท์อย่างนี้ไม่รู้เรื่องกันหรอก..แววลงมาหน่อยได้มั้ย ไม่นานหรอก"

น้ำเสียงฝ่ายนั้นแม้จะมิได้มีวี่แววเอื้ออาทรอย่างวันเก่าก่อน หากก็ยังเป็นน้ำเสียงที่เธออยากได้ยินนัก วรางค์จึงแทบไม่ลังเลเลยเมื่อลงมาพบอีกฝ่ายหนึ่งที่ม้าหินใต้ซุ้มต้นแก้วหลังหอพัก

ที่เดียวกับที่เคยได้ฟังเขาและธารขวัญทะเลาะกันในวันนั้นเอง..

"โยมีอะไร" เธอถามอย่างเฉยชา ทั้งที่ในใจร่ำไห้ เมื่อเห็นผู้ชายที่เธอรักเหลือเกินมองตรงมาด้วยสายตาว่างเปล่า

"แววไปพูดอะไรไว้กับใครบ้าง..เรื่องโยกับขวัญ" น้ำเสียงนั้นแม้จะไม่โกรธเคือง หากสีหน้าและแววตาเคร่งขรึมของอีกฝ่ายก็ทำเอาเธอแทบน้ำตาร่วงอย่างน้อยใจ วรางค์กัดริมฝีปากนิ่งโดยมิได้ตอบ

อีกฝ่ายมองเธอนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า

"โยรู้..ว่าแววรู้สึกยังไง.." เพราะความรู้สึกเขาเองตอนนี้ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่หรอก

"แต่แววก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว..เพราะเราสองคน..ไม่ใช่เพราะขวัญหรือเพราะใครทั้งนั้น..ปัญหาระหว่างเรามันสะสมมานาน..จนเกินแก้ไขแล้ว..แววก็คงรู้พอๆ กับเราว่าเป็นเรื่องอะไร.." เขามองตาอีกฝ่าย ก่อนจะผ่อนลมหายใจ

"โยผิด ที่ปล่อยมันมาถึงทุกวันนี้..แต่แววเชื่อโยเถอะ..ว่าการจากกันตอนนี้..เป็นทางที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา..อย่างน้อย..เราก็ต้องเป็นเพื่อนร่วมคณะ ร่วมชั้นปีกันอีกตั้งสามปีนะ..รักษาความเป็นเพื่อน ความรู้สึกดีๆ ต่อกันไว้ดีกว่า ก่อนที่เราจะเกลียดกัน ไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อนระหว่างกัน.."

รอยยิ้ม ที่แม้จะดูฝืดฝืน ระบายขึ้นที่มุมปากและแววตาของเขาเป็นครั้งแรก เมื่อบอกเธออย่างนุ่มนวลว่า

"แววน่าจะให้โอกาสตัวเอง ลองค้นหาตัวเองดูอีกครั้งว่าแววต้องการอะไร แล้วแววจะพบว่าชีวิตเราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้..แววยังต้องเจอคนอีกมากมาย..คนที่ดีกว่าโย..คนที่แววจะรักเขาอย่างจริงใจ ไม่ใช่ความรักอย่างลูกหมาในวันนี้.." เขาลงท้ายคำพูดนั้นด้วยรอยยิ้มทั้งปากและตา เจิดจ้า เปิดเผยตามแบบของเขา

วรางค์เป็นฝ่ายหันกลับ และเดินจากมาเสียเอง ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้เห็นหยาดน้ำใสๆ ที่หยดรินจากดวงตา เธอไม่เถียง ไม่มีความเห็นใดๆ เพราะสิ่งที่เขาพูดล้วนเป็นสิ่งที่พูดกันมาจนนับครั้งไม่ถ้วน ที่เธอลงมาหาเขา..ก็เพียงเพราะเธออยากจะเห็นหน้าเขา ได้พูดจากันอย่างคนใกล้ชิดอีกสักครั้ง ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้..เธอกับเขาจะกลายเป็น..คนอื่น..ของกันและกันอย่างสมบูรณ์

แล้วสายลมก็พัดผ่านไป..ไม่มีวันหวนคืน..

...................................................................


ภิญโญรู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย แม้จะไม่สบายใจอยู่บ้างที่ต้องทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งลงอย่างเลือดเย็น..หากข้อความในโทรศัพท์มือถือ..ซึ่งลงชื่อว่ามาจากผู้หญิงอีกคนหนึ่งต่างหาก..ที่ทำให้อารมณ์เขาแจ่มใสขึ้นมากมาย

กดโทรศัพท์หาเธอโดยที่ยังไม่ได้อ่านข้อความนั้นชัดๆ ด้วยซ้ำ หากก็ต้องนิ่งไป เมื่อเสียงมารดาอีกฝ่ายบอกมาว่า

"ขวัญไปพัทยากับวินจ้ะ นี่คงรีบ ลืมเอามือถือไป เดี๋ยวค่ำๆ ก็คงกลับ จะให้บอกว่าใครโทร.มาจ๊ะ.."

เขากดตัดการติดต่อลงโดยมิได้พูดอะไรอีก ความแจ่มใสในอารมณ์หมดไป เมื่อกดอ่านข้อความนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง

.... "You make me live
.... You make me die
.... You make me laugh
.... You make me cry for you

.... I hate you ! "


ประโยคอื่นแทบไม่ผ่านตา เมื่อตัวอักษรในบรรทัดสุดท้ายราวกับจะขยายใหญ่ กระโดดเข้าใส่ตาอย่างประหลาด

...... I hate you ! .....


.................................................................................................


มาถึงตอนนี้ เชียร์ใครกันเอ่ยคะ




Create Date : 19 กรกฎาคม 2551
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 21:02:55 น. 8 comments
Counter : 455 Pageviews.

 
เชียร์โยค่ะ ^_^


โดย: jewo1 IP: 124.122.136.204 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:55:20 น.  

 
เชียร์นายโย แต่แอบเสียดายวิน 555
จริงๆแล้วเชียร์โยค่ะ แม้ดูภายนอกเหมือนวินจะเข้มแข็ง หนักแน่น กว่าแต่เอาเข้าจริง นายโยน่าจะเป็นคนเข้มแข็ง ตัดสินใจอะไรได้เด็ดขาดกว่า (มั้ง)
อิอิ ตอนแรกว่าจะมาทวงตอนใหม่พอดีเรย ^^


โดย: Life's for Rent วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:14:32 น.  

 
เชียร์โยสุดใจขาดดิ้นเลย


โดย: 2in1 IP: 124.121.87.127 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:09:56 น.  

 
ยังเชียร์โยเหมือนเดิม ขวัญบอกเลิกวินไปเหอะ ดูมันจะยืดเยื้อนะ คนอ่านก็ลุ้นจนตัวโก่งแล้ว รักหรือเกลียดโยกันแน่เนี๊ยะ


โดย: ammy IP: 124.120.11.221 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:20:26 น.  

 
เชียร์โยเหมือนเดิมค่ะ รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเลิกเจ้าชู้ ขีหลีจะน่ารักที่สุดเลยค่ะ


โดย: OnlyU IP: 202.57.129.99 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:28:42 น.  

 
จะเขียนตามใจเสียงส่วนใหญ่หรือจะพลิกล็อคหละ


เชียร์โยเหมือนกันเพราะเราเป็นคนเหมือนโย


แต่ก็เหมือนเรื่องจะไม่จบงง่ายๆแล้วสินะ


โดย: กช IP: 58.136.98.94 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:44:00 น.  

 
คุณ jewo1 กองเชียร์โยเหนียวแน่นจริงๆ ค่ะ อิอิ


คุณไลฟ์ฯ ตอนใหม่ของตอนใหม่อีกที(งงนิ เหะๆ) ก็มาแล้วค่า
โยกับวิน คงคิดกันไปคนละทางอะค่ะ มันแล้วแต่คนคิดเนอะ
(แต่คนเขียนก็ชอบคนแบบโยมากกว่าอ่ะ อุ๊ยเขิล )


คุณ ammy สรุปคนโลเล เอาแน่เอานอนไม่ได้ที่สุดในเรื่องนี้
ก็เจ๊ขวัญ นางเอกของเราเองนี่แหละเนอะ
คนอาไร้ๆๆๆ


คุณ OnlyU ไอ้ความเจ้าชู้นี่มันก็เปลี่ยนกันยากด้วยจิคะ
แต่ไม่แน่เนาะ มาเอาใจช่วยกันค่ะ


คุณกช 555 คนเขียนไม่เขียนตามเสียงส่วนใหญ่หรอกค่า เหอๆ
แต่เขียนตามใจตัวเองอย่างร้ายแรง ฮ่าๆๆๆ




โดย: โยษิตา วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:13:54 น.  

 
อ๊าา เพิ่งเห็นว่าข้ามคุณ2in1 ไปเจ๋ยเลย ขอโทษด้วยค่า

โอ๊ยตาลาย มันติดกันเป็นพืดๆๆ เลยเนอะ
กลับไปเอากรอบคอมเมนท์มาใส่อย่างที่ควรจะใส่ดีมะเนี่ย

คุณ 2in1 ก็กองเชียร์โยเหนียวแน่นอีกคนแล้วเนาะคะ เย้ๆๆๆ


โดย: โยษิตา วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:16:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โยษิตา
Location :
Kobe Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนไทย แต่ระหกระเหินมาใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่ประเทศหมู่เกาะประเทศหนึ่ง กินเวลาสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่ (โถ่)

เป็นคนจับจดมาก อยากทำไปทุกอย่าง แต่ทำไม่ได้ดีซักอย่าง รู้น้อยกว่าเป็ด ควรจะเรียกว่ารู้อย่างลูกเป็ด หรือไข่เป็ด

ที่แน่ๆ ชอบอ่านกระทู้พันทิป มากถึงมากที่สุด



Longer - Dan Fogelberg
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add โยษิตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.