Tribute to.. ว่าที่บัณฑิต.. แชร์เคล็ดลับเตรียมตัววันรับปริญญาให้ Perfect ที่สุด (ตอนจบ)
หลังจากพูดถึงการเตรียมตัวก่อนรับปริญญาทั้งเรื่องการหาช่างภาพหน้าผม เตรียมผิว ผม เล็บ เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์คู่กาย และการเชิญแขก ในตอนแรก //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ghambarbie&month=06-2009&date=10&group=2&gblog=1 ครั้งนี้เลยอยากจะมาต่อกันถึงเรื่องการปฏิบัติตัววันซ้อมรับปริญญา+วันรับจริง และสุดท้ายคือหลังรับปริญญาค่ะ ซึ่งน้องๆ ไม่ต้องกังวลค่ะ หากเราเตรียมตัวพร้อมแ้ล้ว วันงานก็ผ่านฉลุย ร่าเริงได้เต็มที่เลยค่า @ วันซ้อมรับปริญญา @
วันนี้จะเป็นวันที่เราได้ใสุ่ครุยวันแรกค่ะ ความรู้สึกมันจะทั้งภูมิใจ ปลื้มใจ ดีใจ สุด ๆ เลย คำแนะนำสำหรับวันซ้อมรับปริญญา จะพูดแนวเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่มาจากประสบการณ์นะคะ ส่วนเรื่อง sequence หรือรายละเอียดในการซ้อมคิดว่าจะแตกต่างกันไป ดังนั้นคำแนะนำของพี่ก็คือ - ปกติแล้ววันซ้อมรับปริญญา บัณฑิตจะน้อยกว่าวันรับปริญญาเพราะจะแบ่งซ้อมวันละไม่กี่คณะเท่านั้น (ของจุฬาฯเป็นอย่างงี้ ไม่รู้ที่อื่นเป็นรึเปล่า) ดังนั้นถ้าน้องอยากจะถ่ายรูปกับสถานที่ป็อปปูล่าร์จุดต่าง ๆ ของมหาลัยเดี่ยว ๆ ก็ขอให้พยายามเก็บให้มากที่สุดในวันซ้อมนะคะ เพราะวันจริงคนจะแน่น ต้องต่อคิวยาวค่ะ - อย่างที่พี่บอกไปในกระทู้ที่แล้วคือวันซ้อมเราสามารถเอามือถือติดตัวเข้าหอประชุมได้ ถ้าเป็นไปได้ก็พกเข้าไปด้วยนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าต้องซ้อมนานแค่ไหนค่ะ - ถ้าเป็นไปได้เลือกผมไว้ 2 ทรงนะคะ วันซ้อมกับวันจริงจะได้ลุคที่หลากหลายค่า - จากประสบการณ์แล้ววันจริงส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลาไปกับการถ่ายรูปกับแขกไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนต่างสถาบัน ญาติมิตร มากกว่า ดังนั้นวันซ้อมจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะเก็บภาพกับเพื่อน ๆ ในคณะให้มากที่สุดนะคะ เพราะวันจริงต่างคนต่างยุ่ง นัดกับญาติคนละที่เดี๋ยวอาจจะหาตัวไม่เจอ
- วันซ้อมของมหาลัยพี่จะเป็นวันที่่ถ่ายรูปรวมรุ่นคณะ ซึ่งเวลาเราจะต้องเข้าแถวก่อน ตรงจุดนี้่น้องต้องพยายามอย่าให้คลาดสายตากับช่างภาพเป็นอันขาด จะบอกว่าตอนเดินไปถ่ายรูปหมู่พี่ลืมเอามือถือไป ดังนั้นกับช่างภาพเลยมองไม่เห็นกันว่าอยู่ไหน เลยไม่ค่อยมีรูปที่ Zoom ๆ มาที่เราเลยค่ะ อ้อ แล้วพอเจ้าหน้าที่เค้าบอกให้เข้าแถวเตรียมถ่ายรูปหมู่ ก็มาเ้ข้าแถวเลยนะคะ อย่ารอช้า ช่างภาพเค้าจะได้ไปสแตนด์บาย จะได้ไปได้ตำแหน่งดี ๆ บนแสตนด์ถ่ายภาพ ดูนี่สิคะ ตอนพี่ถ่ายรูปหมู่พี่มัวแต่ชักช้า ช่างภาพเลยได้แถวล่าง ถ่ายออกมาติดร่ม ติดโน่นเต็มไปหมดเลย ฮือ ฮือ
และสุดท้าย วันซ้อมพี่รู้สึกเหนื่อยกว่าวันจริงมาก ไม่รู้ทำไม เหอะ ๆ @ วันรับปริญญา @ - คืนก่อนหน้ารับปริญญา พี่ไปม้วนผมเป็นลอน ๆ ไว้ก่อนที่ร้านประจำ ออกมาสวยมาก พอตื่นมา จริง ๆ มันก็ยังโอเคอยู่ แต่พี่ดันไม่มั่นใจกลัวว่าลอนจะไม่อยูทั้งวัน เลยให้ช่างผมที่เค้ามาที่บ้านม้วนเพิ่มให้ ปรากฏลอนเละเลยค่ะ พี่ต้องวิ่งไปที่ร้านประจำที่สามย่านให้เค้าแก้ให้ กว่าจะแก้เสร็จพี่ต้องวิ่งข้ามรั้วไปต่อแถวเข้าหอประชุม ซึ่งเกือบจะเข้าไม่ทัน ไปเฉียดฉิวสุด ๆๆๆ แต่ก็ยังมีเพื่อนพี่ทีี่มาสายกว่าพี่อีก ยิ่งเฉียดกันเข้าไปใหญ่ ดังนั้นน้อง ๆ ควรเผื่อเวลาโน่นนี่อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงนะคะ ส่วนใครที่จะไปทำผมที่ร้านแล้วมีข้อติดขัดที่ว่าร้านเปิดช้ากลัวไปไม่ทัน ก็ไปม้วนผมไว้ก่อนก็ได้ค่ะคื่นก่อนหน้ารับอ่ะ เวลาม้วนให้เค้าใส่โฟมเยอะ ๆ ไว้ก่อน แล้วเวลานอนก็ปัดผมมาไว้ด้านข้าง แ้ล้วก็สะกดจิตตัวเองว่าอย่าดิ้น ๆ ตื่นมารับรองไม่เละ แล้วค่อยไปให้เค้าติดเก็บทำผมให้เป็นทรงก็ได้ค่ะ - นัดเจอกับช่างภาพและคนที่เราฝากโทรศัพท์เอาไว้เวลาเราเข้าหออย่างน้อย 15-20 นาทีก่อนเวลาที่มหาลัยกำหนดว่าจะเสร็จพิธี ตอนปีพี่ พี่เสร็จก่อนค่ะ นัดจุดกันให้แน่ใจ อย่างของพี่พอเสร็จแล้วต้องเข้าพิธีถวายบังคับลาต่อเลย ซึ่งถ้าน้องที่อยากให้ช่างภาพเค้าเก็บตอนชอตนั้น น้องต้องนัดให้เค้ามารอตรงรั้วแล้วตัวน้องเองต้องไปเข้าแถวให้อยู่ติดรั้วให้มากที่สุด แล้วนัดด้วยว่ารั้วฝั่งไหน จะได้ภาพสวยงาม ตอนของพี่ พี่ดันไปอยู่ตรงกลาง ช่างภาพหาพี่ไม่เจอเลยได้แต่ถ่ายรูปหมู่้เยอะ ๆ ค่ะ - เตรียมทิชชู่สำหรับเข้าห้องน้ำไปด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าวันปกติมหาลัยหรือคณะของน้อง ๆ จะมีทิชชู่เตรียมไว้ให้ แต่วันรับปริญญาห้องน้ำจะเละและกระดาษจะหมดอย่างแน่นอนค่ะ - สำหรับน้องๆ ที่พาคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย คุณป้า คุณลุง มาด้วย หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว อย่าลืมหาที่ให้ท่านได้นั่งพักผ่อนนะคะเพราะอากาศร้อนมาก อยากจะบอกว่าอย่าลืมให้ความสำคัญกับท่านด้วยเพราะครอบครัวเรามีส่วนสำคัญมากที่ให้เราเรียนจนจบจนมีวันนี้นะคะ หรืออย่างน้อยบอกท่านว่ามีร้านอาหารอะไรเย็น ๆ ใกล้ ๆ บ้าง มีของกินตรงไหนบ้าง จะได้มีที่นั่งพักผ่อนคอยกันค่ะ - อย่าลืมเตรียมขวดน้ำและขนมของว่างไว้เผื่อด้วย เอาเกเตเรดหรือน้ำดื่มเกลือแร่ไปกินเลยค่ะ มันหมดพลัง หมดแรงสุด ๆ ไปเลย - วันจริงถ้าเป็นไปได้อยู่บริเวณไหนก็อยู่บริเวณเดียวดีกว่า จะได้หาไม่ลำบาก บางงานตอนพี่ไปถึงโทรถามเพื่อน เพื่อนบอกอยู่จุด A พอเดินใกล้ถึง A โทร.ก็ไปอยู่จุด B ก็จะทำให้แขกเราเหนื่อยขึ้นค่ะ - ถ้าเป็นคนบ้ารูปถ่ายก็บอกช่างภาพไว้ก่อน เค้าจะได้เตรียม Memory stick มาพอ ตอนพี่ถ่ายพี่่ถ่ายหมดเลย - เตรียมถุงน่องไปเผื่อด้วยนะคะ แอบเห็นบางคนถุงน่องรันด้วยค่ะ - น้อง ๆ ที่อยู่มธ. ตอนนั้นพี่ไปงานเพื่อนกลางวันนั่งเรือข้ามไปกินร้านสุภัทรา ริวเรอ์ เฮ้าส์ ที่ขึ้นเรือตรงท่าเรือมหาราช แอบเห็นบัณฑิตบางคนพาช่างภาพนั่งเรือไปถ่ายตรงบริเวณนั้น สวยมากๆๆๆๆๆๆๆ ถ้ามีโอกาสไปถ่ายก็จะได้ภาพน่าประทับใจค่ะ - ดูแลรักษาปริญญาบัตรกันด้วยนะคะ เห็นเพื่อนบางคนเอามาถ่ายรูปแบบไม่ระวัง ไม่ถึง 3 ชั่วโมงใบปริญญาก็มีรอยแล้วน่าเสียดายมาก ๆ เลยค่ะ - แนะนำเทคนิคเวลาจังหวะรับพระราชทานปริญญาบัตร ให้ทอดสายตาไปมองขอบบนสุดของขอบปริญญา อย่าก้มหน้า ยิ้มเล็กน้อย ภาพออกมาตาจะไม่หรี่นะคะ @ Idea ในการถ่ายรูป @
เนื่องจากเป็นคนชอบถ่ายรูปมากเลยเอารูปมาให้ดู เผื่อใครคิดท่าโพสต์ไม่ออกจะลองดูเป็นไอเดียก็ได้นะคะ (แต่เชื่อว่าสาว ๆ ห้องแป้งโพสต์กันเก่งอยู่แล้วแน่ ๆ เลย ^^
เริ่มจากรูปเดี่ยวกันนะคะ ขอให้เครดิตกับพี่จิต loveemoon จากเว็บ loveemoon.multiply.com ค่า อันนี้เป็นรูปกับครอบครัวค่ะ ก็เน้นหอมแก้มเป็นหลัก 55 ใครมีญาติผู้ใหญ่ที่มางานไม่ไหวก็อย่าลืมถ่ายรูปกับท่านก่อนออกจากบ้าน หรือกลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดินแล้วถ่ายกับท่านด้วยนะค้า
ส่วนอันนี้เป็นการถ่ายกับเพื่อนๆ ค่ะ - จะบอกว่าเวลาถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ก็จะมีกล้องเราและกล้องเพื่อน ถ่ายคู่ก็มี 2 กล้อง ถ่่าย 3 ก็มี 3 กล้อง (เอ๊ะ จะบอกทำไม) ถ่าย 12 คนก็มี 12 กล้อง ซึ่งถ้าตากล้องของน้องเป็นคนขี้อายน้องก็อาจจะได้ภาพไกล ๆ หรือภาพที่ไม่ค่อยมีเพื่อนๆ มองกล้อง ดังนั้นอย่าลืม Cheer up ให้ช่างภาพของน้องกล้าเขยิบมาข้างหน้า รวมถึงกล้าขอว่า "กล้องนี้ด้วยครับ กล้องนี้ด้วยครับ" ด้วยนะคะ - มีท่าไหนอยากถ่ายก็ถ่ายกันให้เต็มที่นะค้า ถ่ายกับเพื่อนนี่สนุกสุด ๆ นอกจากนี้เวลาถ่ายมีรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อน ญาติ ให้ของขวัญ อย่าลืมหันโชว์ออกมาให้กล้องนะคะ ทั้งของทั้งการ์ดเลย ^^ ส่วนเวลาืถือดอกไม้่ถ่ายรูปก็ให้ตัวช่อสวยๆหันออกมาหากล้อง อย่าถือเข้าตัวเอง เวลาถ่ายรูปจะสวยกว่าค่า @ การเติมหน้าระหว่างวัน @ - เวลาเติมให้ซับมันก่อนทุกครั้ง วิธีซับคือซับจริงๆ ห้ามถูเด็ดขาด - เติมแป้งก็เช่นกัน ค่อย ๆ กดที่ละจุด ๆ ห้ามถูปืด ๆ เช่นกันค่ะ ไม่งั้นรองพื้นมันจะเละหมด - ใครแต่งหน้าเองเอารองพื้นนั่นลงปากไ้ว้ก็จะ่ช่วยให้ลิปติดนานขึ้น (ช่างแต่งหน้าพี่เค้าบอกมาค่ะ) - หากเป็นไปได้ขอแป้งอันที่ช่างแต่งหน้าเค้าลงให้เราตอนแรกเริ่มแบ่งมาไว้เติมระหว่างวัน จะเนียนกว่าใช้แป้งคนละตัวค่ะ - ถ้าน้องเป็นคนที่ตามัน (คือตามีไขมันออกมา) เป็นไปได้ที่อายไลเนอร์จะหลุดง่าย พกไปซักแท่งเผื่อ ๆ ไว้ก็ดีค่ะ) - ใครใส่คอนแทคอย่าลืมเตรียมน้ำยาและตลับ รวมถึงคอนแทคเลนส์สำรองไปด้วยนะคะ เผื่อแพ้กะทันหัน แต่จริงๆ จะใส่คู่ไหน แนะนำให้ใส่ล่วงหน้าก่อน 2 วัน มันจะได้ชินกับตาค่ะ เพราะวันแรกที่ใส่อาจจะเคือง ๆ ได้ค่ะ - ถ้าผมหลุดรุ่ยแล้วจะใส่เจลหรือสเปรย์เพิ่ม ต้องระมัดระวังมาก ถ้าใส่แล้วหวี เจลหรือสเปรย์ลอตแรกจะเป็นขุยขาว ๆ ได้ค่ะ หลังงานรับปริญญา และแล้วเมื่อเรารับปริญญาชื่นมื่นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยังเหลือภารกิจที่ต้องทำอีก 2 อย่างค่ะ (ถ้านับรวมปาร์ตี้ฉลองเรียนจบ อิอิ) อย่างแรกก็คือ
@ ขอบคุณแขก @ หลังจากจบวันซ้อมรับและวันรับปริญญา พี่ส่ง sms ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานเท่าที่พี่จะพอมีเบอร์มือถือเค้าค่ะ รู้สึกว่าอยากรีบขอบคุณจริง ๆ บางคนเดินทางมาตัี้งไกล บางคนนั่งรอเราหลายชั่วโมงเพื่อที่จะได้ยินดีกับความสำเร็จของเรา
@ ส่งรูป+โพสรูป+Tag รูปรับปริญญา @ หลังจากจบงานแล้วเข้าใจว่าน้องๆ ทุกคนจะต้องเหนื่อยและอ่อนแรงมก แต่้ถ้าเริ่มมีแรงเมื่อไหร่และได้รูปจากช่างภาพแล้ว ก็ได้เวลาเอารูปมาโพสแล้วหล่ะค่ะ นอกจากจะโพสใน Hi5, Facebook, Multiply แล้วพี่ยังส่งอีเมลให้ทุกคนที่ีพี่ถ่ายรูปด้วยค่ะ เพราะมาจาก inside ที่ว่าเวลาไปงานคนอื่นถึงแม้เราจะใ้ช้กล้องส่วนตัวเราถ่ายแล้ว แต่ก็อยากจะได้ภาพคุณภาพเยี่ยมจากช่างภาพมืออาชีพของเพื่อนด้วยค่ะ ดังนั้นพี่เลยส่งอีเมลพร้อมกับคำขอบคุณจากใจไปให้ทุกคนค่ะ ซึ่งพี่ก็ย่อรูปให้เหลือไซส์ 1800 x 1200 pixel (6 x 4 นิ้ว) ความละเอียดเลือกที่ 300 dpi ซึ่งเป็นค่าที่ละเอียดพอสำหรับอัดรูปได้ค่ะ
ส่วนแขกผู้ใหญ่หรือที่สนิทกันมาก ๆ จริงๆ พี่ก็อัดรูปไซส์ 6 x 4 แล้วเขียนโน๊ตขอบคุณหลังรูปส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บ้านค่ะ
พี่เข้าใจว่าตอนได้รูปมามันจะลานตามากรวมวันซ้อมกับวันจริงมีเป็น 1000 รูปเลย พี่ก็เลยทำเป็นไฟล์ excel ขึ้นมาจะได้ดูสะดวก ๆ ค่ะ อิอิ @ ฟื้นฟูร่างกาย ผมเผ้าและผิวพรรณ @
หัีวข้อสุดท้ายแล้วค่ะ หลังจากรับปริญญาเสร็จแล้ว - ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่ก็ควรจะอาบน้ำ ล้างหน้า เช็ดเครื่องสำอาง ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนล้มตัวลงนอนนะคะ ถ้าไม่อยากสิวขึ้นในวันรุ่งขึ้น - ดื่มน้ำมาก ๆ มากกว่าปกติเพื่อชดเชยความชุ่มชื่น เหงื่อ ฯลฯ ที่สูญเสียไประหว่างตากแดดทั้งวัน - อย่างที่แนะนำในกระทู้ที่แล้วว่าเมื่อโดนแดดครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ (อโลเวร่า) และน้ำผึ้ง ก็จะช่วยให้ผิวเราไม่ไหม้เป็นการ cool down ผิวเราได้ค่ะ (ตอนนั้นพี่ใช้วาสลีน อโล ค่ะ)หลังจากนั้นก็ใช้ไวท์เทนนิ่งอะไรได้ตามปกติ (พี่ใช้ซิตร้าสีส้ม ชโลมเช้าเย็นเลยค่ะ ประมาณ อาทิตย์กว่า ๆ ก็ขาวเท่าเดิม) - พอกโยเกิร์ตที่หน้าเมื่อกลับถึงบ้าน จะช่วยให้ห้นาเราไม่ดูเหนื่อยล้าเกินไปค่ะ เอาละค่ะ หมดแล้วจริงๆ สำหรับประสบการณ์การรับปริญญาและเคล็ดลับจากพี่ (เท่าที่พอจะระลึกได้หลังผ่านวันนั้นไป 1 ปี)
ปีนี้ก็เป็นปีของน้องๆ ว่าที่บัณฑิตทุกคน พี่ก็ขอให้น้อง ๆ มีวันที่ Perfect ที่สุดเป็นวันแห่งความทรงจำที่ดีตลอดไปนะคะ
แต่จะบอกว่าที่สุดของความภูมิใจในวันนั้น ไ่ม่ได้อยู่ที่ว่าเราแต่งหน้า ทำผม ออกมาสวยแค่ไหน แต่มันอยู่ที่ปริญญาใบที่น้องกำลังจะไ้ด้รับซึ่งแลกมากับความพยายาม ความมุมานะ ความตั้งใจ ความช่วยเหลือ น้ำใจ จากตัวน้องๆ ครอบครัว เพื่อน ๆ อาจารย์ รุ่นพี่ รุ่นน้อง พี่ ๆ ที่ไปฝึกงาน เพื่อน ๆ ต่างคณะที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ฯลฯ ซึ่งมองทีไรก็เห็นแต่ความทรงจำที่งดงาม
Congratulations อีกครั้งค่ะ ว่าที่บัณฑิตทุกคน (n_n)
Free TextEditor
Create Date : 10 มิถุนายน 2552 |
|
16 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 17:33:51 น. |
Counter : 9180 Pageviews. |
|
|
|
แต่ไม่รู้ว่าถึงคราวตัวเองจะทำได้ครึ่งนึงรึเปล่านะคะ ของเราตอนเชิญญาติๆเพื่อนๆพี่ๆก็บอกไว้ว่าไม่ต้องขนตุ๊กตาบลายธ์ ข้าวตอกดอกไม้ฯลฯมาแค่ตัว หัวใจกับรอยยิ้มไว้ถ่ายรูปด้วยกันก็พอ อีกอย่าง เค้าจะได้ไม่เปลือง ส่วนเราก็ไม่ต้องวุ่นวายกับของด้วย เพราะไม่รู้ว่าวันจริงจะมีญาติหรือใครว่างมาช่วยแบกขนหรือเปล่าอ่ะค่ะ