space
space
space
<<
มิถุนายน 2563
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
space
space
30 มิถุนายน 2563
space
space
space

การไปปฏิบัติธรรม ที่ถ้ำปู่ใหญ่ เทพโลกอุดร(รอบที่1)(EP3/2)(จบ)

**จัดขึ้นเพื่อ เล่าประสบการณ์ให้เป็นวิทยาทาน ในการเพียรปฏิบัติธรรมและผลที่ได้จากการปฏิบัติธรรม  เป็นสิ่งที่พบเจอได้เฉพาะบางบุคคล  โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน**
คำเตือน  สิ่งศักดิ์สิทธิเป็นสิ่งที่ไม่ควรนำมาพูดเล่น โปรดอย่าใช้ความหยาบของตนทำให้ท่านแปดเปื้อน
บางอย่างอย่าทดลองทำตามหากยังไม่มีความรู้เพียงพอ ทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ



การไปปฏิบัติธรรม ที่ถ้ำปู่ใหญ่ เทพโลกอุดร(รอบที่1)(EP3/2)(จบ)
 
เข้าห้องน้ำเรียบร้อย ก็ขึ้นมาที่ห้อง7 ค่ะ นั่งเหมือนเดิมค่ะ หนูก็เลือกนั่งใกล้ๆอ.ค่ะเหมือนเดิม  ขอบารมีท่านจะได้รับพลังงานดีๆเยอะๆไปไวๆ(ยังคงฉลาดๆ)หรอออ555555   ขั้นตอนการนั่งก็เหมือนเดิมค่ะ นั่งปกติ รับพลังงานเต็มที่เย็นสบาย ซักพักก็เริ่มร้อนแบบร้อนด้านใน(พลังงาน) เหงื่อแตกเลยค่ะ นั่งไปพอประมาณ ก็เกิดทุกข์เวทนามาเต็ม ปวดหลัง ปวดแขน ปวดขา แต่ปวดขานี้หนักสุดค่ะ  อยู่ในสภาวะนั้นไปซักพัก ก็อดทนไป ปล่อยวางได้บ้างแล้วแต่ช่วง แต่ซักพักเริ่มปวดขา ถี่ๆ  ปวดจนน้ำตาไหล ก็ขอขมากรรมแล้วก็แผ่เมตตาให้เขาเรื่อยๆแต่ยิ่งขอขมาเหมือนยิ่งปวด แบบตุบๆๆ ปวดตะคิวว่าแน่แล้วเจอนี้ไปนี้ถึงกับจุกนะคะ ทั้งปวดทั้งร้อนๆเอาว่ะ ทนอีกซักหน่อย ก็ดึงมาที่คำภาวนา ก็ทุเลาลงไปบ้างแต่ก็รับรู้ว่าปวดแล้วก็ยังร้อน  แล้วพอจิตไปจดจ่อกับความปวดแล้วความร้อนยิ่งหนักเลย หนักไปทั้งขา ปวดมาก  ร้าวไปทั้งขาก็เลยเริ่มร้องไห้อีกแล้วก็ขอขมากรรมไปด้วย นานพอตัว ซักพักภาพก็ปรากฏเห็นแค่ตรงส่วนลำตัวช่วงล่างก็พิจารณาดูซักพักเลือดไหลนองทั้งขาทั้ง2ข้างแดงเต็มเลยค่ะ  การปรุงแต่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวค่ะ  เราต้องดึงจิตกลับมาใหม่ ดึงมาที่คำภาวนาเหมือนเดิมรับรู้ลมหายใจเข้าออก ภาพเขาก็ยังยื่นอยู่ค่ะ แต่ซักพักกลายเป็นภาพ เหมือนสมัยโบราณ เป็นคน2คน คนหนึ่งโดนล่ามไว้ อีกคนถือไม้  กำลังทุบขาอีกคน  ก็พยายามดึงตัวเองมาอยู่ที่คำภาวนา  แต่ภาพก็ไม่หายค่ะ ทุบขาคนที่ถูกล่ามแบบไม่มีหยั่งมือเลยค่ะ ในจิตแรกรู้สึกได้ถึงความโมโหความสะใจของคนที่ถือไม้และทุบตี(คิดไว้ว่าคงเป็นตัวเองเมื่ออดีตชาติค่ะ) ซักพักจิตรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของผู้ที่ถูกล่ามและถูกทุบตี ในจิตนั้นรู้สึกถึง ความขมขื่น  ความหมดหวัง ความสิ้นหวัง  ความเจ็บปวด  เป็นความรู้สึกที่หดหู่มากๆ ภาพที่ทุบขาก็ปรากฏซ้ำๆเลือดก็ไหลไม่หยุด จนต้องลืมตาขึ้นมานั่งร้องไห้เพราะว่าถ้าทนดูต่อคงต้องร้องไห้เสียงดังมากแน่ๆ  แถมยังกลัวจะรบกวนสมาธิของคนอื่นด้วย  ก็เลยต้องลืมตา มานั่งร้องไห้เงียบๆ น้ำตาไหลตลอด จนซักพัก ก็ดึงจิตกลับมาได้ เลยหลับตา แล้วภาวนาต่อ นั่งไปได้ไม่นาน ก็เห็น คนประมาณ2-3คนใส่ชุดชาวบ้านโบราณๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งถือถาดเหมือนเราจะประเคนอาหารพระ แล้วยื่นถาดนั้นให้ อ.  เลยมีความสงสัยลืมตาขึ้นมาดู สิ่งที่ได้ยินคือ เสียงท้องร้อง (อันนี้ได้ยินมาตั้งแต่นั่งแรกๆ)ต่อมาคือ อ. เอามือข้างหนึ่งค่อยๆเลื่อนเข้าตรงช่วงท้องแล้ววางมือไว้ตรงนั้นซักพักแล้วก็ค่อยๆกลับมาอยู่ที่ท่าสมาธิเหมือนเดิมเราก็เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจ  แล้วอ. ก็ให้ทุกคนค่อยๆลืมตา  พัก5นาทีแล้วให้ลุกขึ้น  ด้วยความที่ยังอยู่ในความหดหู่นั้น  จะเดินไปหยิบรองเท้าให้อ. เลยโดนปู่เจิ่มให้1ครั้ง  ถึงกับดึงสติกลับมาได้ ทันทีแต่ก็ยังเศร้าในดวงจิตอยู่  พอออกมา อ.เลยดูให้ หัวแตกจ้า 5555555  ออกมาข้างนอกพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ก็ได้ถามทุกคนว่า”มีใครได้กลิ่นแกงกะทิไหมค่าบ  หอมมากๆ”  หนูก็เลยมองไปทาง อ. ท่านก็ยิ้มอ่อนๆแล้วบอกว่า”เขามาถวายอาหาร” หนูก็คิดในใจ มีจริงๆหรอเนี้ยย และที่สำคัญฉันไม่ปรุง  การไปปฏิบัติธรรมในรอบแรกครั้งนี้ หัวใจหลัก หนูขอเรียกว่า “การฟอกกรรม” เราได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดความทรมาน รับรู้สภาวะจิตนั้นๆของบุคคลที่เราได้กระทำสิ่งไม่ดีไว้กับเขา ว่าในขณะนั้นความรู้สึกเขาเป็นเช่นไร การไร้ซึ่งทางสู้การสิ้นไร้หนทางสภาวะจิตในขณะนั้นของเขารู้สึกเป็นเช่นไร เขาต้องทนอยู่เช่นนี้มานานเท่าใด  กับตราบาปที่เราทิ้งไว้ด้วยความโง่เขล่า ที่เราคิดว่าแต่นี้เอง แต่สำหรับเขาในแต่ละวินาทีนั้นมันทุกข์ทรมานแสนสาหัสทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และในขณะที่เป็นวิญญาณอาฆาต  ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะอาฆาตพยาบาท ได้มาเป็นภพเป็นชาติ ขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยกับเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตที่เราต้องได้รับและต้องชดใช้ หนูกลับคิดว่า สิ่งร้ายๆที่หนูได้รับเพื่อที่จะชดใช้กรรมให้เขามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าคิดกลับกันถ้าหนูเป็นเขาหนูคงไม่มีความเมตตากับคนที่สร้างตราบาปสร้างความทุกข์ให้หนูได้ถึงขนาดนี้  จงขอบคุณเขาเถิดที่ยังมีลมหายใจ เหตุการณ์ต่างๆที่ล้วนเกิดขึ้นในโลกใบนี้นั้นย่อมมีเหตุมีผลเสมอ ไม่มีความบังเอิญทั้งสิ้น ข้าพเจ้า ขอขอบคุณในความเมตตา ในดวงจิตของท่าน เจ้ากรรมนายเวรเจ้าเวรนายกรรมและสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าเคยเบียดชีวิตตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ณ. ชาติ ที่ท่านยังเมตตาและยังให้โอกาสข้าพเจ้าในการกลับตัวและสร้างความดี   ขอชอบคุณความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล ขอขอบคุณ ครูอาจารย์ ที่ท่านมีความเมตตาอดทนสั่งสอนพระธรรม ขอขอบคุณบิดามารได้ที่ได้ให้ชีวิต  สิ่งที่สำคัญที่ได้เรียนรู้คือ  นี้คือการบำเพ็ญเพียรที่แท้จริง ไม่ใช่ที่เคยทำกัน อยู่ที่ห้องอยากนั่งก็นั่ง ปวดขาก็ลุก ไม่ได้อะไรเลย  คำที่พระอริยะสงค์เจ้าที่ท่านบอกว่า  บำเพ็ญเพียร  อดทนอดกลั้น มันต้องเป็นอะไรที่มากกว่านั้น การปฏิบัติของเราไม่ได้เศษเสี้ยวเลยด้วยซ้ำ
 
***จริตชอบ การที่จะเอาชนะมันนั้นต้องก้าวผ่านความทุกข์ก่อน ต้องมีความอดทน อดกลั้น เพราะนั้นเป็นสิ่งที่จิตของเราชอบ ธรรมชาติแล้วจิตของเรานั้นจะชื่นชอบกิเลสสะสมกิเลสมาทั้งชีวิตไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ  จึงเกิดความทุกข์เมื่อจะกำจัดมัน แต่เมื่อกำจัดมันได้แล้วจากนั้นก็จะค้นพบความสุขที่แท้จริง***


**อย่าลืม  กดติดตาม  กดไลค์ กดแชร์ ให้ด้วยนะคะ  ขอให้ทุกท่านได้รับบุญกุศล ในการอ่านฟังและพิจารณาธรรมตามนะคะ   สาธุ สาธุ สาธุทิพย์ค่ะ ติชมได้นะคะจะเก็บไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองต่อๆไปค่ะหรืออยากอ่านเรื่องไหนในการปฏิบัติธรรมมีข้อสงสัยสามารถถามได้เลยนะคะ **ถ้าขี้เกียจอ่านติดตามได้ที่ช่องยูทูปได้เลยค่ะคลิปจะเอามาลงที่นี้ที่หลังนะคะ**



https://www.facebook.com/BUddha156/?modal=admin_todo_tour  (ฝากกดไลค์กดติดตามเพจด้วยนะคะ)  
https://www.youtube.com/channel/UC-MbQZCYkRJaD_zDOttCjRw (ฝากกดไลค์กดติดตามช่องยูทูปด้วยนะคะ)
 




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2563
0 comments
Last Update : 30 มิถุนายน 2563 11:48:51 น.
Counter : 1444 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

ชีวิตที่รู้แจ้งแสงแห่งพระธรรม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add ชีวิตที่รู้แจ้งแสงแห่งพระธรรม's blog to your web]
space
space
space
space
space