Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
 
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
19 เมษายน 2558
 
All Blogs
 

แด่โค้ชแต๊กด้วยดวงใจ

ลีกคัพ 2015 รอบ 64 ทีมสุดท้าย
ทหารบก เอฟซี 0-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
17 เม.ย.58
สนามกีฬากองทัพบก


ตอนเช้าหลังหยุดยาวช่วงสงกรานต์

สิ่งแรกที่ผมทำหลังตื่นนอนขึ้นมาก็คือเช็คข่าวกีฬาในมือถือตามปรกติ ข่าวที่อยู่ท็อปสุดของเว็บสยามสปอร์ตก็คือ

“วงการลูกหนังไทยเศร้า! โค้ชแต๊กเสียชีวิตแล้ว”

อึ้งและรู้สึกช็อคไปชั่วขณะ T_T

ไม่กี่วันก่อนยังมีข่าวว่า “หลังผ่าน 48 ชั่วโมงมา โค้ชแต๊กมีอาการดีขึ้น” อยู่เลย

ผมไม่ได้รู้จักกับอรรถพล ปุษปาคมเป็นการส่วนตัว ก็แค่เคยพูดคุยกันบ้างตามจังหวะและเวลา แต่ที่ทำให้ผมแอบตีเนียนคิดว่า “ผูกพันกัน” ก็คือ...ครั้งนึงเขาเคยคุมทีมฟุตบอลโรงเรียนสวนกุหลาบ พร้อมทั้งนำถ้วยแชมป์จตุรมิตรที่ห่างหายจากรั้วสะพานพุทธไปนานกลับมายังถิ่นคุ้นเคย...

หลังจากได้โอกาสมาคุมทัพบุรีรัมย์ สมัยยังนามสกุลพีอีเอ โค้ชแต๊กก็เลยได้จับพลัดจับผลูคุมทัพ “ชมพู-ฟ้า” เพิ่มอีกทีมนึงด้วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำบัญชาของคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” ที่แอบรับจ๊อบเป็นผู้จัดการทีมสวนกุหลาบด้วยนั่นเอง




อรรถพล ปุษปาคมเทรนเด็ก ๆ สวนกุหลาบจนเป็นแชมป์จตุรมิตรเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน


โค้ชแต๊กคุมทีมเล่นฟุตบอลกรมพละ รุ่น 18 ปี ประเภท ก ปีการศึกษา 2553 สลับกับวิสูตร วิชาญา (ผอ.อะคาเดมีของบุรีรัมย์ขณะนั้น), ชัยยง ขำเปี่ยม (เฮดโค้ชบุรีรัมย์ เอฟซี) ตามแต่ใครจะสะดวกนัดไหน

ปีการศึกษาต่อๆ มา พอคุณเนวินเฟด ๆ จากการทำทีมลุยศึกกรมพละแล้ว โค้ชแต๊กก็ไม่ได้ทำทีมสวนกุหลาบอีก จนกระทั่งมาทำทีมอีกครั้งในศึกใหญ่จตุรมิตรปี 55 ที่สวนกุหลาบได้แชมป์ร่วมกับกรุงเทพคริสเตียนนั่นเอง

ส่วน “งานหลัก” กับบุรีรัมย์นั้น...คงไม่ต้องสาธยาย อรรถพล ปุษปาคมนำทัพ “ปราสาทสายฟ้า” คว้าทุกแชมป์ในเมืองไทยได้หมด รวมทั้งพาทีมผ่านเข้ารอบสองเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกได้ด้วย...น่าเสียดายที่ศึกนั้นกลับเป็นสายป่านเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาต้องอำลาถิ่นอีสานใต้ไปแบบที่แฟน ๆ ต่างก็เสียดาย T_T




โค้ชแต๊กกับเกมกรมพลศึกษา เกมนั้นเจอกับปทุมคงคา


“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจะจดจำคุณไว้ตลอดไป ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวปุษปาคมและขอไว้อาลัยต่อการจากไปของ ‘แต๊ก’ อรรถพล ปุษปาคม" คุณเนวิน ชิดชอบในฐานะประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” กล่าวผ่านแฟนเพจ BURIRAM UNITED

“2 ปีเศษที่ผมกับ ‘แต๊ก’ ได้ร่วมงานกัน มีทั้งสุขและทุกข์ ความผิดหวัง ความสมหวัง ความสำเร็จและความล้มเหลว ‘แต๊ก’ เป็นคนเก่ง มุ่งมั่น ทำงานจริงจัง เชื่อมั่นตัวเอง หลายครั้งเราขัดแย้งกันทางความคิด แนวทางการทำงานและการตัดสินใจที่ไม่ตรงกัน การแยกทางกันในวันนั้น แม้จะไม่สวยงามนัก แต่ก็น่าจะดีกว่า ที่ทั้ง 2 คนจะได้ทำงานตามแนวทางของตนเอง อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอขอบคุณ ‘แต๊ก’ ที่มาร่วมสร้างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดตั้งแต่ปีแรกที่ยังเป็นบุรีรัมย์ พีอีเอ 7 แชมป์แรกของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็น 7 แชมป์ที่ ‘แต๊ก’ มีส่วนร่วมสร้างขึ้นมา เป็นเกียรติประวัติของสโมสรที่น่าภาคภูมิใจ" คือคำอำลาจากใจคุณเนวิน

ศึกโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้ายที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดต้องเดินทางมาเยือนทหารบก เอฟซี ทีมในระดับลีกภูมิภาคก็เลยจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการไว้อาลัยแด่ “ยอดโค้ช” ผู้นี้โดยเฉพาะ

"ผมขอแสดงความเสียใจและขอเชิญชวนแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดทุกคน ร่วมไว้อาลัยให้กับ "แต๊ก" ที่จากพวกเราไปแล้ว พวกเราจะร่วมกันร้องเพลง ‘เรามีเรา’ ให้กับ ‘แต๊ก’ ก่อนการแข่งขันกับทหารบก เอฟซีที่สนามกีฬากองทัพบก เวลา 18.45 น. ขอบคุณ ‘แต๊ก’ ที่ร่วมกันสร้างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดขึ้นมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจะจดจำ ‘แต๊ก’ ไว้ตลอดไป"




คุณเนวินกับโค้ชแต๊กร่วมงานกันมาหลายทัวร์นาเมนท์ (ในภาพเป็นเกมเอฟเอ ยูธคัพ)


“อยู่กทม.ป่ะ” จู่ ๆ เพื่อนสมัยเรียนสวนกุหลาบที่ผ่านการอบรมโค้ชระดับ “C” มาแล้วก็ทักผมมาทางเฟซบุ๊ค

ด้วยการที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ (แต่ตอนเรียนสวนกุหลาบ ผมยืนยันว่าได้เกรดวิชาภาษาอังกฤษดีกว่ามันนะ ส่วนสกิล “อิ๊ง” ของผมตอนนี้น่ะเหรอ แหะ ๆ (-_-)), ผ่านการอบรมโค้ชมาแล้ว เขาก็เลยได้รับเกียรติให้เป็นล่ามประจำทีมสวนกุหลาบในศึกจตุรมิตรครั้งล่าสุด (ปี 57) ที่คุณเนวินส่งอเล็กซานดรา คริสติช ผู้ช่วยโค้ชของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับทัพชมพู-ฟ้า

เห็นลีลาข้างสนามของเขาจากการถ่ายทอดสดแล้ว ผมก็เลยแซว (แต่หวังว่าจะเป็นจริงในอนาคตนะ ^^) ว่า “นี่มันลีลาโชเซ มูริญโญชัด ๆ (เริ่มจากการเป็นล่ามเช่นกัน)”

พอทักมาวันที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแข่งแบบนี้ (เพื่อนผมคนนี้เป็นสาวก “ปราสาทสายฟ้า” ด้วย และมารู้ตอนหลังว่าภรรยาของเขาก็เป็นคนบุรีรัมย์ด้วย!) สงสัยชวนดูบอลแน่ ๆ

และก็เป็นจริง

“เย็นนี้ดูบอลกันป่ะ ทบ.เอฟซี vs บุรีรัมย์ สนาม ทบ. ขอบัตรน้องมันไว้ละ เดี๋ยวมันเช็คให้ น้องมันเล่นอยู่ทบ.เอฟซี ถ้าได้เดี๋ยวมาเจอกับผมก่อน มาเอาบัตรที่ผม”

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมากรุงเทพฯทั้งที แถมคิกออฟซะทุ่มนึงแบบนี้...จะพลาดได้ไง!




แอบถ่ายแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่สนามกีฬากองทัพบก


ผมมาถึงสนามเอาตอน 6 โมงเกือบครึ่ง เห็นบูธขายของที่ระลึกของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็เลยแวะสักหน่อย เบอร์ฮิตที่แฟน ๆ จับจองกันมากที่สุดก็คือเบอร์ 13 ของ “ต้น” นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ็กขวาหน้าหล่อคนนั้นตามคาด

สักพักเพื่อนของผมก็โทรมา แล้วเราก็เข้าไปชมเกมด้วยกัน

บัตรที่ได้มาเป็นบัตรบริเวณบ๊อกซ์วีไอพี จึงไม่แปลกที่จะเห็น “กัปตันกบ” สุเชาว์ นุชนุ่มเดินมานั่งถัดไปทางขวาของกลุ่มผม เยื้องไปข้างหน้านั่นก็ “โอ๊ปป้าโก” โก ซุล-กิ

สักพักดาวเตะญี่ปุ่นแห่งอาร์มี ยูไนเต็ดก็ปรากฏกายในสนาม เขาวิ่งไปทักทายกับกลุ่ม “KU 12” ใช่แล้ว...ไค ฮิราโนะ อดีตขวัญใจแฟนบอล “ปราสาทสายฟ้า” คนนั้น




ไค ฮิราโนะ อดีตขวัญใจชาวบุรีรัมย์


สกอร์บอร์ดก่อนแข่งฉายภาพอรรถพล ปุษปาคมอยู่บนจอ หลังจากวอร์มอัพเสร็จ ผู้เล่นบุรีรัมย์ก็เดินไปยังกลุ่มแฟนบอลตนเอง (ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับสกอร์บอร์ดด้วย) และร่วมร้องเพลง “เรามีเรา” ซึ่งวันนี้พิเศษกว่าวันอื่น ๆ เพราะนี่คือการร้องเพื่อไว้อาลัยแด่ยอดโค้ชที่ทุกคนแห่งถิ่นอีสานใต้รักและคิดถึงเสมอ...อรรถพล ปุษปาคม

ภาพจำที่ผมมีถึงโค้ชแต๊กค่อย ๆ วนเวียนฉายในความทรงจำ

ภาพแรกคือภาพที่เขาเป็นหนึ่งใน “สามทหารเสือปาหัง” ที่บุกเบิกตลาดนักเตะไทยในฟุตบอลลีกมาเลเซีย จนหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันต้องส่งนักข่าวไปประจำการถึงที่นั่น

ตอนนั้นผมเรียนชั้น ม.2 สังคมศึกษาเรียนเรื่อง “เพื่อนบ้านของเรา” ผมก็เลยท่องชื่อรัฐต่าง ๆ ในมาเลเซียได้หมดเลยเพราะเป็นชื่อทีมบอลทั้งนั้น ปาหัง, กัวลาลัมเปอร์, ตรังกานู, ปะลิส, เนกรี เซมบิลัน ฯลฯ




เรามีเรา


ผมเจอโค้ชแต๊กครั้งแรกตอนเขาเป็นโค้ชแล้ว ข้ามเวลามาปี 52 นั่นเลย วันนั้นทีทีเอ็ม สมุทรสาคร (ของโค้ชแต๊ก) เปิดบ้านเจอกับสมุทรสงคราม

ผลงานของ “ยาสูบ-มหาชัย” ณ เวลานั้นอยู่ในช่วงดร็อป ๆ โค้ชแต๊กก็เลยคิดจะแสดงสปิริตด้วยการลาออก แล้วก็ต้องพบกับภาพที่แสนซึ้งใจเพราะแฟน ๆ ยังหนุนหลังเขาเต็มที่ (^-’)b

แต่พอเกมจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีทีเอ็ม สมุทรสาคร อรรรถพลก็ตัดสินใจโบกมือลา

ผมยังจำที่เขาพูดกับผมได้ดี (ความจริงไม่ได้จำ แต่ผมไปเปิดรีวิวนัดนั้น แล้ว Ctrl+C กับ Ctrl+V เอา :-p)

“ผลงานมันฟ้องอยู่แล้ว ซึ่งผู้ใหญ่เราคาดหวังไว้เยอะเพราะลงทุนค่อนข้างสูง ประกอบกับมีแฟนคลับมาเชียร์เยอะด้วย ผมต้องถนอมน้ำใจพวกเขา จึงคิดว่าต้องแสดงความรับผิดชอบตรงนี้...ด้วยการลาออก อย่างน้อยก็เพื่อให้โค้ชคนใหม่ที่เข้ามามีเวลาพอจะปรับเปลี่ยนอะไรได้ทัน ดีกว่าจะปล่อยให้ถลำลึกไปมากกว่านี้”

ไม่นานหลังจากนั้นอรรถพลก็ได้งานใหม่ที่เมืองทอง ยูไนเต็ด




ความรักที่แฟน ๆ "ยาสูบ-มหาชัย (ในอดีต)" มีให้โค้ชแต๊ก


หลังจากนั้นอีกเดือนครึ่ง ผมได้เจอโค้ชแต๊กแบบรีแลกซ์ ๆ บ้างเพราะเจอกันบนอัฒจันทร์สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต วันนั้น บียูเปิดบ้านเจอบีจี

“มาเชียร์บีจีหรือครับ?” พอเห็นหน้าโค้ชแต๊ก ผมก็เลยแซวแบบนั้น...คือ...ก่อนหน้าหนึ่งวัน “กิเลนผยอง” ของโค้ชแต๊กเพิ่งโชว์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ถล่มชลบุรีคารัง 5-2 ขึ้นนำจ่าฝูงได้สำเร็จ (ส่วนบางกอกกลาส ถ้าชนะก็จะทำแต้มเบียดเมืองทองเข้าไปอีก – ก็เลยถามแบบแซวเล่น ๆ ไง :-p)

โค้ชแต๊กยิ้มนิดนึง ส่ายหน้าแล้วตอบว่า “เปล่า ๆ ผมเห็นว่าวันนี้มีแต่เกมต่างจังหวัด จึงมาดูนัดนี้ มาดูว่าสองทีมเคลื่อนไหวอะไรบ้าง? มีอะไรใหม่ ๆ ไหม?”

นี่คือการทำงานแบบมืออาชีพจริง ๆ แม้จะไม่มีแม็ทช์แข่ง แต่ก็ยังมาทำการบ้าน! (^-’)b

เพลง “เรามีเรา” จบแล้ว ภาพจำถึงโค้ชแต๊กของผมก็เลยหยุดลงตรงนั้น...




โค้ชแต๊กที่ม.กรุงเทพ วันเดียวกับที่โค้ชง้วนมาเปิดตัวคุมบีจี (ณ ปีนั้น)


วันนี้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจัดทีมแบบส่ง “ตัวหลัก” ลงแค่ 2 คนเท่านั้นคืออันเดรส ตูนเญซที่ได้เป็นกัปตันทีมแทนสุเชาว์ และประกิต ดีพร้อม

11 ตัวแรกของ “ปราสาทสายฟ้า” ในระบบ 3-5-2 มียศพล เทียงดาห์เป็นผู้รักษาประตู แผงหลังนอกจากตูนเญซแล้วก็มีนุกูลกิจ ครุฑใหญ่กับสุรัตน์ สุขะเป็นลูกหาบ

วิงแบ็ก 2 ฝั่งใช้บริการของอนาวิน จูจีนทางฝั่งขวาและสุรีย์ สุขะทางฝั่งซ้าย

แดนกลางนอกจากประกิตแล้วก็มีเชาว์วัฒน์ วีระชาติกับวันเฉลิม ยิ่งยงคอยช่วยขับเคลื่อนเกม มีณัฐวุฒิ สมบัติโยธาเป็นหน้าต่ำและเคน วินเซนต์เป็นตัวเป้า




11 เซราะกราว


ในขณะที่เจ้าบ้านนั้น ดู ๆ แล้วเหมือนมาในระบบ 3-5-2 เช่นกัน มีสิทธิพร ไชยวงษาเป็นผู้รักษาประตู แผงหลังประกอบไปด้วยพินิจพงษ์ แจ้งพลอย (กัปตันทีม), รุ่งศักดิ์ คชรัตน์และสุจริตพงษ์ น้อยโสภา

วิงแบ็กขวา - พีระพล วัฒนจินดา วิงแบ็กซ้าย - พิสิฐพงษ์ ผูกวาจา

แดนกลางคุมทัพโดยรัฐศักดิ์ แดนรักษ์กับธัชนนท์ นคราวงศ์ มีณัฐพงษ์ คุ้มเนตรทำเกมอยู่ข้างหน้า

คู่หน้าใช้บริการของขจรปณต น้อยโสภากับฌาคส์ ตีโอเย

ผลงานของทหารบก เอฟซีในลีกภูมิภาคฤดูกาลนี้ต้องบอกว่า “ทรง ๆ” เท่านั้นเอง

พวกเขาเปิดฤดูกาลด้วยชัยชนะสวย ๆ เหนือจามจุรี ยูไนเต็ด 3-1 ด้วยทรงบอลแบบทหารเด๊ะ ๆ เลย ฟิต แข็งแกร่ง (บวกความผิดพลาดของกรรมการ) ไล่ชน ไล่ฟัดซะจนทีมเยือนหาทางกลับสามย่านไม่ถูก แต่หลังจากนั้นผลงานก็รูดลงติดดิน แพ้ 4 เสมอ 1 และเพิ่งมากระเตื้องขึ้นด้วยการชนะ 2 แม็ทช์หลัง จนตอนนี้แขวนอยู่อันดับ 9 (จาก 14 ทีม) ของโซนกรุงเทพฯและภาคกลางนี่แหละ

“ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 เราไม่ได้ตั้งเป้าอะไรไว้เลย จะว่าไปถ้าเราได้เลื่อนชั้น แต่งบประมาณก็ไม่พอทำทีมอยู่ดี เราเล่นกันแค่เพื่อสร้างชื่อให้กองทัพ รวมทั้งเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ให้นักกีฬาเท่านั้นเอง” ขวัญ รัตนรังษี เฮดโค้ชทหารบก เอฟซีเปิดใจตรง ๆ (ที่มาจากโกลดอทคอม)




11 ทหารบก


ก่อนเริ่มเกมผู้เล่นทั้งสองทีมต่างก็มายืนไว้อาลัยแด่ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคมบริเวณวงกลมกลางสนาม

เกมเป็นไปตามคาด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดชื่อชั้นดีกว่าเป็นฝ่ายเปิดเกมบุก แต่ทหารบกก็อาศัยความสามัคคี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม วิ่งเข้าพัวพัน รวมถึงการถอยรถยีเอ็มซีมาจอดขวางหน้าประตูให้ “อดีตแชมป์ถ้วยนี้สามสมัย” เล่นได้ไม่ถนัด

นาที 14 ประกิตลากบอลหลอกผู้เล่นเจ้าบ้านก่อนเปิดให้วันเฉลิมได้ยิงด้วยขวา น่าเสียดายที่บอลเฉียดเสาไปนิดเดียว

เคยฟังสัมภาษณ์ของคุณเนวิน ชิดชอบในรายการตอบโจทย์ที่บอกว่าประกิตยังปรับตัวเข้ากับแท็กติกบุรีรัมย์ยังไม่ได้ คำพูดนี้มันแว่บขึ้นมาในหัวตอนที่เห็นวันเฉลิมนี่แหละ หลายจังหวะอดีตดาวรุ่งจากสวนกุหลาบปทุมธานีและเพื่อนตำรวจดูฝืนเล่นเองไปหน่อย ทำให้จังหวะขาด ๆ เกิน ๆ ไป

พอเกมฝืด ๆ แล้วต้องส่ง “โรนัลอุ้ม” (ฉายาจากโกลดอทคอม) ธีราทร บุญมาทันลงไปช่วยแก้เกมตั้งแต่ก่อนจบครึ่งแรกแบบนี้ ผู้โชคร้ายที่ถูกถอดก็เลยเป็นวันเฉลิมไปอย่างช่วยไม่ได้




สงบนิ่งไว้อาลัยแด่โค้ชแต๊ก


ในขณะที่วันเฉลิมเล่นไม่ออก ดาวรุ่งในแดนกลางอีกคนอย่าง “อิ๊น” เชาว์วัฒน์นั้น ผมว่าทรงโอเคเลย รอเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกนิดน่าจะเป็นอะไหล่ที่ดีของทีมได้เลย

“เชาว์วัฒน์เหมือนโน้ต (จักรพันธ์ แก้วพรม) เวอร์ชันเด็กอ่ะ” เพื่อนโค้ชระดับซีไลเซนส์ของผมให้ความเห็น

ทหารบกก็ใช่ว่าจะมางอมือ งอเท้าอย่างเดียว จังหวะสับไกที่ทำเอา “เต้ย” ยศพลต้องออกแรงเซฟนั้น ทำเอาเพื่อนของผมถึงกับอุทานว่า “เสียวกว่าบุรีรัมย์ยิงอีกนะนี่”

จบครึ่งแรกด้วยสกอร์เซอร์ไพร้ส์เล็ก ๆ 0-0




วันเฉลิม (คนหลัง) ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง


ช่วงพักครึ่ง ผมรีบเดินไปปฏิบัติภารกิจซื้อเสื้อแข่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดทันที (ตั้งเป้าไว้ในใจแล้วว่าจะต้องอุดหนุนเสื้อทุกสนามที่ไปดู แม็ทช์ละตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ผมไม่เห็นร้านขายเสื้อของทหารบก เอฟซีเท่านั้นเอง ก็เลยต้องซื้อเสื้อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปแทน)

ความเดิมจากแม็ทช์ที่แล้ว (เชียงราย ยูไนเต็ด-บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ที่ผมซื้อเสื้อเชียงราย ยูไนเต็ดไป แล้วกะติดชื่อเฟร์นานโด เฟร์เรยรา แบ็กขวาหมายเลข 40 ด้วย (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ติดเพราะเชียงราย ยูไนเต็ด เมกะ สโตร์ทำให้ไม่ทัน) แค่คิด นัดนั้นกองหลังผมยาวก็โดนไล่ออกแล้ว - -"

ก็เลยคิดว่าไหน ๆ เกมนี้ “โอ๊ปป้าโก” โก ซุล-กิก็ไม่ได้ลงอยู่แล้ว งั้นก็สอยเสื้อติดชื่อเขาไปเลยก็แล้วกัน (คงไม่ทำให้มิดฟิลด์เกาหลีใต้เดินตกอัฒจันทร์หรอกนะ :-p)

ในฐานะที่ผมชอบเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ การได้เห็นวิธีการเล่นของซุล-กิ ต้องบอกว่า “กรี๊ด” เลยทีเดียวและคิดไว้แต่แรกแล้วว่าปีนี้ต้องมีเสื้อที่มีชื่อเขาอยู่ในคอลเลคชันซะหน่อย (^-^)V

เดินกลับเข้าสนามอีกครั้ง ผมเห็นสุเชาว์เดินสวนออกมา เขาทักทายเจ้าหน้าที่หน้าสนาม พลางพูดว่า “ต้องรีบออกมาก่อน ข้างในนั่นพายุกำลังเข้า...”

ไม่แน่ใจว่า “กัปตันกบ” หมายถึงบรรยากาศในห้องแต่งตัวของทีมหรือเปล่า?




เก็บสะสมไว้ในคอลเลคชันเสื้อบอลของผม


“ให้เวลาวิเซนต์อีกสัก 15 นาที” พอขึ้นไปบนอัฒจันทร์ปุ๊บ ผมก็บอกกับเพื่อนไปแบบนั้นเมื่อเห็นว่าดีโอโก หลุยส์ ซานโตเริ่มขยับ

เห็นฟอร์มของเคน วินเซนต์แล้วต้องบอกว่าจังหวะดูขาด ๆ เกิน ๆ เหมือนไม่เข้ากับทีมยังไงก็ไม่รู้...ผมรู้สึกเหมือนเห็นเงาของใครสักคนทาบทับอยู่

ใช่แล้ว...

ราดาเมล ฟัลเกา “เอล ติเกร” คนนั้นไง!

มุ่งมั่น พยายามพิสูจน์ตัวเอง แต่เหมือนจังหวะไม่ใช่ไปซะหมด

“ไม่ถึง 15 นาทีว่ะ” เพื่อนผมกระซิบเมื่อเห็นอดีตศูนย์หน้าโอลิมเปียกอสกำลังเตรียมลงสนาม

แต่คนที่ถูกถอดไม่ใช่เคน วินเซนต์ แต่เป็น “เบ๊นซ์” ณัฐวุฒิ สมบัติโยธาต่างหาก




ดีโอโกถูกส่งมาเพิ่มพลังสังหาร


บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเริ่มคุมเกมได้หมดแล้ว อยู่ที่ว่าจะยิงได้เร็วหรือช้ายังไงเท่านั้นเอง

เชาว์วัฒน์มีโอกาสวอลเลย์จากนอกเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบแบบได้ลุ้น แต่กลับถูกสิทธิพร ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นบินเซฟงามงด

นาทีที่ 63 บุรีรัมย์ขยับอีก ส่งนฤพล อารมณ์สวะลงมาแทนสุรีย์ ส่วนทหารบกส่งวทัญญู พรมโสภาลงมาแทนพิสิฐพงษ์ ผูกวาจาที่เริ่มถูกยั่วจนธาตุไฟเข้าแทรก

และแล้ววินาทีที่สาวก “เซราะกราว” รอมานานก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 72 เมื่อธีราทรบรรจงโยนลูกฟรีคิกให้ตูนเญซโผขึ้นโขก

ซวบ!

0-1 ทันที!

“มีกองหน้า แต่สุดท้ายต้องให้กองหลังยิง” กองเชียร์บุรีรัมย์ข้างหลังผมบ่นกระปอดกระแปด ได้ยินอย่างนั้นไม่รู้ทำไม ผมคิดไปถึงเกมที่ฝรั่งเศสเชือดปารากวัยในบอลโลก 98 รอบ 2 ก็ไม่รู้ เกมนั้นทีมตราไก่บุกทั้งเกม แต่สุดท้ายต้องให้โลรองต์ บลองค์ ปราการหลังขึ้นไปพังประตูชัย!




ฮีโร่ของชาวเซราะกราวในเกมนี้


ก็ไม่รู้สินะ เคน วินเซนต์ก็คงอยากจะยิงนั่นแหละ ทั้งหัว ทั้งเท้า พยายามมาก เพื่อน ๆ ก็พยายามปั้น พยายามส่ง แต่อะไร ๆ ก็ดูเหมือนไม่เป็นใจเลย

คนไม่ใช่ทำไรก็ผิด!

หมดเวลาการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดผ่านเข้ารอบต่อไปแบบหืดจับด้วยชัยชนะแบบจุ๋มจิ๋มเหนือทหารบก 1-0

“เกมนี้ ถึงแม้เราจะชนะ แต่ผมไม่พอใจฟอร์มการเล่นของทีมเท่าไหร่ เราเล่นเหมือนไม่ใช่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด!” อเลกซานเดอร์ กามาแถลงหลังเกม “โดยปรกติ เราจะเพรสซิง ไล่บอลกันมากกว่านี้ ขึ้นเกมกับจ่ายบอลกันเร็วกว่านี้ แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้นในเกมนี้”

ส่วนฝั่งผู้แพ้นั้น ขวัญให้ความเห็นว่า “ก่อนเกมเราก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก ผมบอกกับลูกทีมว่าเรากำลังจะได้เล่นกับทีมที่เก่งที่สุดในประเทศไทยและเอซีแอล ฉะนั้นสิ่งที่เราหวังจึงไม่ใช่ผลการแข่งขัน แต่เป็นประสบการณ์มากกว่า ซึ่งเด็ก ๆ ก็ทำได้ดีเยี่ยม ก่อนจะโดนนำ ผมแอบคิดไปถึงช่วงต่อเวลาแล้ว เพราะเด็ก ๆ ป้องกันกันได้แบบมีวินัยมาก”




กามาติวเข้มยังไง แต่วันนี้ก็ไม่ใช่วันของวินเซนต์


หลังเกมนี้ ขุนพลปราสาทสายฟ้าก็จะซ้อมกันเบา ๆ อีกในวันเสาร์ ก่อนที่จะเดินทางไปเกาหลีใต้ตอนค่ำเพื่อทำศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกนัดสำคัญ

เส้นทางนี้คงไม่ง่าย

แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความพยายามของขุนพลเซราะกราวหรอก

ผมเชื่อว่าหัวใจของทุกคนมักผูกติดกับสิ่งที่เคยรัก เคยผูกพัน...

ถ้าเช่นนั้นก็เชื่อแน่ว่า ยังมีอีกคนนึงที่จะคอยเป็นกำลังใจให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดผ่านเข้ารอบสองให้ได้...เขาคือคนที่เคยพาทีมนี้ทำได้สำเร็จมาแล้ว

และคงเฝ้ามองความสำเร็จนั้นอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่งบนฟากฟ้าแสนไกล

ก็เพราะว่ายังไง “เรา (ก็) มีเรา” อยู่เสมอ

แด่อรรถพล ปุษปาคม อีกหนึ่งตำนานแห่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด...ด้วยดวงใจ




 

Create Date : 19 เมษายน 2558
0 comments
Last Update : 19 เมษายน 2558 18:53:05 น.
Counter : 1046 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.