บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5-0 กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ
เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
บุรีรัมย์ สเตเดียม
6 พ.ค. 58

“ผมจะนำทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปสู่การเป็น 1 ใน 5 ของเอเชียให้ได้”

จำได้ว่าคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเคยประกาศเป้าหมายเอาไว้อย่างนั้น ในนัดสุดท้ายของไทยพรีเมียร์ ลีก 2013 ฤดูกาลที่พวกเขาจบด้วยการฟาด 4 แชมป์ในประเทศและการเข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกอย่างสุดยิ่งใหญ่

เชื่อว่าท่านประธานใหญ่แห่งถิ่นอีสานใต้คงรู้สึก “เงิบ” ไม่น้อยในฤดูกาลถัดมาเพราะผลงานระดับเอเชียกลับกลายเป็นคนละเรื่องกับปีก่อนเลย ด้วยการ “ตกรอบแบ่งกลุ่ม” แบบสิ้นท่า

ปีนี้...เป้าหมายของขาใหญ่แห่งธันเดอร์ คาสเซิลก็ยังคงเดิม

แล้วก็เริ่มต้นได้ดีจนมีสิทธิ์จะสมหวังซะด้วยซ้ำ

ผมติดตามผลงานของ “ปราสาทสายฟ้า” บนถนนสายเอเชียผ่านการถ่ายทอดสดทาง Bugaboo.tv ในสามแม็ทช์แรกที่ทีมสตาร์ทอย่างสวยสดงดงามด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 (ขอโม้หน่อยว่าผมเป็นตัวนำโชค ไชยเจริญขนาดไหน พอ 2 แม็ทช์ต่อมาไม่ดูปุ๊บ ทีมก็แพ้ปั๊บเลย จนตกอยู่ในสถานการณ์ก้ำกึ่งในนัดสุดท้าย)

แอบคิดเอาไว้ในใจ...จะต้องไปชมเกมระดับเอเชียถึงสนามให้ได้สักครั้ง

นำธงชาติไทยประกาศศักดาบนสังเวียนเอเชีย...เป้าหมายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แล้วโอกาสก็เดินทางมาถึง คือช่วง Long Weekend ที่รัฐบาลให้หยุดตั้งแต่ 1-5 พ.ค.นั้น ออฟฟิศของผมให้หยุดแค่ 1-4 พ.ค.เท่านั้น แต่บังเอิ๊ญ ผมต้องมาคุมน้องทำงานเร่งด่วนในวันอาทิตย์และจันทร์ที่ 3-4 พ.ค.

วันฉัตรมงคล ผมก็ยังมาทำงานแบบหล่อ ๆ (ก็งานยังไม่เสร็จนี่ 555)

ก็เลยขอหยุดชดเชยวันที่ 6 เพื่อไปบุรีรัมย์ซะเลย

ไปเห็นแคมเปญ “เชียร์ทั่วไทย ไปกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” บนหน้าเพจบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่จ่าย 800 บาทก็ “เบ็ดเสร็จ” มีรถไปส่งถึงสนามรวมทั้งตั๋วชมเกมให้ด้วย ผมก็เลยตัดสินใจโอนเงินเพื่อเข้าร่วมทริปนี้ทันที

แต่เกือบเสีย 800 บาทฟรี ๆ ซะแล้วเพราะกลางดึกวันที่ 5 น้องที่เป็นทั้งคนสำคัญของหัวใจและอีกบทบาทนึงคือลูกค้า ไลน์มาบอกว่า

“สงสัยพี่จะต้องแก้งานนะ”

ก็ไม่เป็นไร เข้าไปแก้ที่ออฟฟิศคืนนั้นซะให้จบ ๆ

แก้งานเสร็จแล้วยังมีแก่ใจดูบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีกคู่ยูเว-มาดริดอีกนะ

“บอสบอกว่าตอนเปิดเรื่องยังไม่ใช่นะ พี่ต้องแก้อีก...” คือข่าวร้ายในตอนเช้า

เอาล่ะสิ...หรือจะยอมเสีย 800 บาทไปฟรี ๆ?

พอสะระตะดูแล้วก็พบว่า ผมแค่โทรบอกน้องที่ออฟฟิศให้แก้กราฟฟิกตามบรีฟ ทำเสร็จก็ส่งให้ผมเช็คทางไลน์ก่อน ค่อยส่งลูกค้า เพราะเนื้อหาทุกส่วนถูกต้องแล้ว เหลือแค่ช่วงเปิดเรื่องเท่านั้นเอง

ก็เลยตัดสินใจเดินทางไปที่ช็อปบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่ปากซอยพหลโยธิน 43 ทันที (ความจริงสายกว่าเวลานัดแล้ว) ซึ่งระหว่างที่นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้นมีโทรศัพท์โทรเข้ามาด้วย

ลงรถก็พบว่าเป็นสายของสต๊าฟในทริปนี้...นี่เค้าใส่ใจลูกทริปกันขนาดนี้เลย ^^

ขึ้นไปนั่งบนรถ ผมไม่พูดพล่ามทำเพลงโทรบรีฟงานก่อน

จากนั้นพอรถออก เจ้าหน้าที่ก็แจกขนม “ยูโร่ คัสตาร์ด เค้ก” ให้ 1 กล่อง...ต่อ 2 ที่นั่ง (คือเบาะนึงนั่นแหละ)

ตั๋วเข้าชมเกมนัดนี้

ปรกติ ผมถือเคล็ดว่าจะไม่ใส่เสื้อทีมเชียร์ในวันแข่ง แต่พอมาร่วมทริปแบบนี้ คิดว่าใคร ๆ ก็คงใส่เสื้อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดกันหมด ก็เลย “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตามตาม” สักหน่อย

ผมใส่เสื้อสีขาวฤดูกาลล่าสุด ปักชื่อมิดฟิลด์ตัวรับชาวเกาหลีใต้...โก ซุล-กิมา

ก็บังเอิ๊ญไปอ่านโพสต์นึงในเพจ “พ่อบ้านใจกล้า” ทำให้ผมคิดถึงตอนที่ซื้อเสื้อตัวนี้มาเลย

โพสต์ในเพจ “พ่อบ้านใจกล้า” เป็นภาพสตั๊ด Puma สีชมพู-ฟ้า แคพชันของคนโพสต์คือ “ถ้าการแอบซื้อรองเท้าคู่นี้ทำให้บ้านแตก ก็ให้มันรู้ไป”

คอมเมนท์แรกเป็นของภรรเมียของเจ้าของโพสต์

"บ้านไม่แตกหรอก แต่หัวแกนั่นแหละที่จะแตก เย็นนี้แกตาย!!!"

ผมซื้อเสื้อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดปักชื่อโก ซุล-กิวันที่แข่งลีกคัพกับทหารบก โดยแว่บไปซื้อตอนพักครึ่ง ถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ค แล้วก็กลับมาดูครึ่งหลังต่อสบายใจ

สักพักเสียงไลน์ดัง

น้อง : ซื้อเสื้อหรอ!!!! ต้องซื้อเสื้อเลยหรอออออ

ผม : จร้า

น้อง : ยังมาจร้าอีก ตีดีมั้ยนี่ มีอีกหลายคนมั้ยที่พี่ชอบและต้องซื้อเสื้อชื่อเค้า

ผม : ชอบเธอคนเดียว

น้อง : ไม่ต้องมาแถเลย คืนนี้ไม่ต้องห่มผ้าห่มนะ ใช้เสื้อนั่นแหละห่ม!!

เสื้อนะน้อง ไม่ใช่ผ้าห่ม ^^

รถแล่นไปสักพัก เค้าก็แจกน้ำให้ดื่มแก้กระหายระหว่างทางคนละขวด...แน่นอนว่าเป็นน้ำดื่ม “ช้าง”

ความจริงผมกะว่าจะไม่หลับนะ จำได้ว่าตอนที่ผมชนะเลิศรางวัล TOT World Cup Reporter 2006 ที่ TOT จับมือกับสยามสปอร์ตจัดขึ้นมาเพื่อเฟ้นหาคอลัมนิสต์หน้าใหม่ที่จะได้เดินทางไปดูบอลโลก (และเขียนคอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน เล่มใหญ่)

โดยก่อนการชิงชัยรอบสุดท้ายนั้น สยามสปอร์ตจัดอบรมให้ผู้เข้าแข่งขัน 12 คนสุดท้าย (เอ๊ะ! หรือ 10 คน ผมจำไม่ได้แฮะ) โดยระดมคอลัมนิสต์ชื่อดังมาเล่าประสบการณ์และเทคนิคการเขียนคอลัมน์ให้

ผมจำคำพูดนึงของพี่ “ศาธนันท์” จอมปั่นฟรีคิกได้แม่น

“ระหว่างการเดินทางไม่ว่าจะโดยอะไรก็ตาม พี่แนะนำว่าไม่ควรหลับ สิ่งรอบตัวเหล่านี้แหละเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการเขียนงาน”

แล้วผมหลับมั้ยระหว่างทางไปบุรีรัมย์?

จะเหลือเรอะ ทั้งแก้งาน ทั้งดูบอลแบบนั้น...ได้นอนกี่ชั่วโมงกัน

ว่าแล้วผมก็ผลอยหลับไป...ZzzzZ

จุดหมายปลายทางของทริป...บุรีรัมย์ สเตเดียม

ระหว่างทางไปสู่การเป็น 1 ใน 5 ของเอเชียในฤดูกาลนี้ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นด้วยการเปิดบ้านพบกับซองนัมซึ่งคุณเนวินมองว่า...นี่คือทีมจากเกาหลีใต้ที่อ่อนที่สุดที่เคยเจอมา

“4 ปีที่ผ่านมาในฟุตบอลเอเชียของเรา ถ้าเทียบแล้ว...ซองนัมมีศักยภาพด้อยที่สุดที่เราเคยเจอ ก่อนหน้านี้เราเจอมาทั้ง ชุนบุค, โซลและโปฮัง ซึ่งถือเป็นระดับบิ๊กเอเชียทั้งนั้น ฉะนั้นผมไม่กดดันเลย พูดตรง ๆ นะ เพราะบุรีรัมย์ไม่ต้องห่วงเรื่องผู้ตัดสินและรู้สึกเล่นสบายกว่าไทยลีกด้วยซ้ำ!" (ที่มาจากโกลดอทคอม)

และ “ปราสาทสายฟ้า” ก็ประเดิมศึกใหญ่ได้สวยด้วยการเชือดซองนัมไป 2-1 โดยประกิต ดีพร้อมและจิลแบร์โต มาเซนาอัดคนละเม็ด ส่วนทีมเยือนมาตีไข่แตกได้ในช่วงท้ายเกม

ผู้เล่น "ปราสาทสายฟ้า" ดีใจสุด ๆ หลังประเดิมชัยในเกมเอเชียฤดูกาลนี้
Credit ภาพ : goal.com

แม็ทช์ที่สอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดต้องบุกไปเยือนกว่างโจว อาร์แอนด์เอฟที่ประเทศจีน

หลาย ๆ คนอาจจะเกรงกลัวที่ต้องเป็นทีมเยือน แต่สำหรับนายใหญ่ของปราสาทสายฟ้าแล้วกลับสะบัดบ๊อบใส่เริ่ด ๆ

“โดยรวมแล้วผมคิดว่าพวกเขายังไม่แข็งแกร่งเท่าซองนัมนะ มีแค่สองจุดที่กว่างโจวดีกว่าซองนัม นั่นก็คือผู้เล่นหน้าเป้าทีมชาติโมรอกโก (อับดุรรอซัค ฮัมดัลลอฮ์) และเพลย์เมกเกอร์ชาวสเปนที่ซื้อมาจากเคตาเฟ (มิเชล เอร์เรโร)” (ที่มาจากโกลดอทคอม)

แม้จะมีคอสมิน คอนทราที่เพิ่งสะบัดก้นหนีจากเก้าอี้เฮดโค้ชเคตาเฟในลา ลีกามาหมาด ๆ แต่ “ปราสาทสายฟ้า” ก็ไม่หวั่น บุกไปเฉือนชนะสำเร็จ 2-1 ทั้ง ๆ ที่ถูกยิงนำไปก่อน

โก ซุล-กิโหม่งตีเสมอช่วงท้ายครึ่งแรก

จิลแบร์โต มาเซนาตีลังกายิงช่วงท้ายเกม

นั่นคือ 2 ประตูที่หมายถึงสามแต้มของแชมป์ประเทศไทย

“ผมยอมรับว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดสมควรเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ พวกเขารู้ดีว่าควรจัดการกับเกมนี้อย่างไร...” เฮดโค้ชชาวโรมาเนียของอาร์แอนด์เอฟกดไลค์ให้

เกมที่ 2 ของบุรีรัมย์ยังจบด้วยชัยชนะ
Credit ภาพ : goal.com

แม็ทช์ที่สาม ยังเป็นเกมหนักต่อเนื่องเพราะต้องออกไปเยือนกัมบะ โอซากาแห่งเจลีก แม้พวกเขาจะแพ้มารวด 2 นัดก็ตามเถอะ

“หลังจากแพ้มาสองเกม นี่จึงถือว่าเป็นงานหนักของเรา ส่วนบุรีรัมย์ที่รั้งจ่าฝูงของกลุ่มนั้น พวกเขาทำได้ดี อย่างไรก็ตามเป้าหมายการพบกันในเกมนี้...กัมบะต้องชนะสถานเดียว!" เคนตะ ฮาเซงาวา เฮดโค้ชกัมบะประกาศกร้าว

ในขณะที่ยาสึฮิโต “น้าค่อม ชวนชื่น” เอนโดมองว่า “ถ้าเราชนะต่อไปเรื่อย ๆ โอกาสสำหรับเราก็ยังมีอยู่ แต่ถ้าเราทำไม่ได้เราก็ไม่มีโอกาสแล้ว ดังนั้นเราต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น” (ที่มาจากโกลดอทคอม)

สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเกมนี้คือลูกฟรีคิกสุดสวยที่ธีราทร บุญมาทันบรรจงปั่นด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมช่วยทีมตีเสมอได้ในครึ่งหลังนั่นเอง

สามนัด เจ็ดแต้ม...โอกาสผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เริ่มสดใส...

ธีราทรเล็งเหลี่ยมก่อนจะยิงฟรีคิกตีเสมอ
Credit ภาพ : goal.com

รถแล่นมา 2 ชั่วโมงก็เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน

“เราจะแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี่เลยนะคะ แล้วจะไปจอดอีกทีก็นางรองเลย...” สต๊าฟสาวประกาศ

รถจอดที่นี่ 50 นาทีเพื่อให้ลูกทริปได้กินข้าว ดื่มน้ำปัสสาวะ เอ้ย! ดื่มน้ำแล้วก็ปัสสาวะ ช็อปของกินเล่นตามอัธยาศัย จากนั้นก็ออกเดินทาง

ท้องฟ้าเริ่มครื้ม ๆ สุดท้ายฟ้าฝนก็เทกระหน่ำลงมา...ไม่ต่างจากสถานการณ์ในศึกเอซีแอลของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แม็ทช์ที่ 4 “ปราสาทสายฟ้า” ต้องเปิดบ้านรับกัมบะ โอซากา...นี่คือโอกาสดีเยี่ยมที่จะเปิดประตูในการผ่านเข้ารอบให้กว้างขึ้นอีก ขณะเดียวกันก็จะเป็นการเขี่ยยอดทีมจากเมืองอาทิตย์อุทัยให้ร่วงไปในตัวด้วย

การเก็บผลเสมอที่ญี่ปุ่นมาทำให้แทบทุกคนมองไปในทางเดียว...”ทำได้น่ะ”

เจ้าอุ้ม ธีราทรช่วยตอกย้ำคำนั้นให้ชัด ๆ ด้วยการเปิดลูกเตะมุมเข้าประตูอย่างงดงาม

“เท้าซ้ายของธีราทรอันตรายมาก ผมคิดว่าเทียบเท่าชุนซูเกะ นาคามูระเลยนะเพราะโกล์ของเราก็ระดับทีมชาติเหมือนกัน แต่ลูกเปิดของเขาก็มหัศจรรย์เกินกว่าจะหยุดยั้งได้” เคนตะ ฮาเซงาวา เฮดโค้ชกัมบะ โอซากาซูฮก

ในขณะที่ยอดแบ็กซ้ายแห่งเมืองปราสาทพูดถึงลูกนี้ว่า “ผมศึกษาจากวีดีโอมาแล้วว่าพวกเขามักจะไม่มีตัวคุมเสา ก็เลยตัดสินใจลองดู ก็ดีใจที่ทำสำเร็จ เพราะตอนซ้อมผมก็เคยลองมาแล้ว"

น่าเสียดายที่สุดท้ายบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดดันแผ่วปลาย ถูกอาคันตุกะจากเมืองปลาดิบยิงสองลูก แซงชนะไปอย่างเจ็บปวด

แอคชันดีใจของอุ้ม หลังเตะมุมเข้าประตูจนเป็นประตูขึ้นนำ
Credit ภาพ : เพจ BURIRAM UNITED

ฝนยังคงกระหน่ำบนเส้นทางสู่บุรีรัมย์ทำเอาอากาศในรถหนาวเหน็บ เสื้อโก ซุล-กิก็ใส่อยู่ ผมเลยไม่มีอะไรมาห่มตัวให้หายหนาวเลย ได้แต่กอดอกอย่างทรมานอยู่อย่างนั้น

แต่คงเหน็บหนาวน้อยกว่าสถานการณ์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดหลังจบ 5 แม็ทช์แน่ ๆ

แม็ทช์เดย์ไฟว์นี้ “ปราสาทสายฟ้า” ต้องออกไปเยือนซองนัมในสถานการณ์ที่พ่ายแพ้ไม่ได้

“เราต้องมุ่งมั่นให้มากกว่าเดิม เพราะเกมนี้มีความหมายต่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเป็นอย่างมาก ถ้าเราเก็บ 3 แต้มกลับไปได้ เส้นทางที่เราจะไปถึงรอบ 8 ทีมอีกครั้งก็จะมีมากขึ้น แต่ถ้าเก็บแต้มเดียวก็จะต้องไปฟาดฟันกันในนัดสุดท้ายอีก" คุณเนวิน ชิดชอบแถลงกับผู้สื่อข่าว

แม้อเลกซานเดอร์ กามา เฮดโค้ชบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจะข่มขวัญซองนัมก่อนแข่งด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า “ที่ผ่านมา ผมเป็นโค้ชให้กียองนัมก็ไม่เคยแพ้ซองนัมเลย แม้แต่นัดล่าสุดที่ผมมาทำบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็ยังเอาชนะพวกเขาได้"

แต่สุดท้าย ยอดโค้ชชาวบราซิลกลับต้องลิ้มรสกับความเจ็บปวดนั้นจนได้เมื่อเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ซองนัมไป 1-2!

การกลับบ้านและความพ่ายแพ้ของโก ซุล-กิ
Credit ภาพ : เพจ BURIRAM UNITED

ถ้ายังอยากเข้ารอบ นอกจากจะพึ่งตัวเองด้วยการเอาชนะกว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ (ที่ตกรอบไปแล้ว) ให้ได้แล้ว ยังต้องแช่งให้กัมบะที่เล่นในบ้านไม่ชนะซองนัมด้วย!

พึ่งตัวเองน่ะไม่เท่าไหร่เพราะคำพระท่านบอกอยู่แล้วว่า “อัตตา หิ อัตตโน นาโถ”

แต่การต้องพึ่งคนอื่นนี่สิ...

“ยอมรับว่าโอกาสเข้ารอบไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับเรา แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดก่อน ผมเชื่อมั่นในทีมและคิดว่าซองนัมจะช่วยให้เราผ่านเข้ารอบ” อเลกซานเดอร์ กามา เฮดโค้ช “ปราสาทสายฟ้า” แถลงก่อนแข่ง

คณะ “เชียร์ทั่วไทย ไปกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” เดินทางมาถึงสังเวียนแข่งแว้วววว

รถแล่นมาถึงนางรอง แวะจอดในปั๊มน้ำมันเพื่อให้สมาชิกในทริปได้ทำธุระหนัก-เบาตามความต้องการ

ที่นางรองฝนไม่ตก แดดส่องจ้า ในสถานการณ์ปรกติ ผมคงเลี่ยงอากาศแบบนี้ แต่ ณ จุดนี้...รีบโผจากแอร์ที่หนาวเหน็บของรถลงไปรับความอบอุ่นทันทีเลยสิคร้าบบบบ จะมัวทำอะไรอยู่ล่ะ

หลังจากที่สมาชิกกลับขึ้นมาบนรถพร้อมหน้าพร้อมตา สต๊าฟก็แจกคูปองลด 5% สำหรับการซื้อของที่ระลึกในบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมกะ สโตร์ให้

แล้วรถก็มุ่งหน้าสู่บุรีรัมย์ สเตเดียม...

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็คือนัดนี้กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟมาแบบ “ไม่ฟูลทีม” เท่าไหร่ เมื่อบวกกับสถานการณ์ที่ตกรอบแน่นอนแล้ว...บางทีนี่อาจจะไม่ใช่งานยากของ “แชมป์เซราะกราว”

“สภาพทีมเรามีปัญหาทั้งผู้เล่นหลักบาดเจ็บและติดโทษแบน ซึ่งเราจะเปิดโอกาสให้เหล่าดาวรุ่งได้ลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์” คอสมิน คอนทรา เฮดโค้ชทีมเยือนแถลงก่อนเกม

โฉมหน้าชาวคณะอีกบางส่วน

ชาวคณะ “เชียร์ทั่วไทย ไปกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” มีเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงที่จะซื้อของที่ระลึก, ถ่ายรูปหรือทำธุระส่วนตัว ก่อนที่เกมจะคิกออฟ...และผมใช้เวลาช่วงนี้ในบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมกะ สโตร์!

ตัดสินใจซื้อเสื้อแข่งเอซีแอล สีดำแขนยาว เบอร์ 5 ติดชื่อตูนเญซ...เอาวะ เต็มที่ก็แค่โดนเธอสั่งให้เอาไว้ใช้แทนผ้าห่มเแหละว้า

แหม่! อุตส่าห์ได้คูปองมา ไม่ใช้ก็เสียเปล่าซี้

เพื่อให้ชัวร์ คราวนี้ ผมไม่โพสต์ลงเฟซบุ๊ค

จากนั้นก็ได้เวลาเดินเข้าสนาม

จุ๊ ๆ อย่าบอกเธอนะว่าผมซื้อเสื้อบอลอีกแล้ว

วันนี้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจัดผู้เล่น 11 คนแรกด้วยระบบเดิม ๆ 3-5-2 มีศิวลักษณ์ เทศสูงเนินเป็นผู้รักษาประตู

แผงหลังประกอบไปด้วยชิติพัทธ์ แทนกลาง, อันเดรส ตูนเญซและกรวิทย์ นามวิเศษ

วิงแบ็กขวาวันนี้สลับมาใช้อนาวิน จูจีน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นเจ้าของสัมปทานคนเดิม ธีราทร บุญมาทัน

แดนกลาง 3 คนมีโก ซุล-กิเป็นตัวรับ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมคอยคุมเกม และประกิต ดีพร้อมเป็นเพลย์เมกเกอร์

คู่หน้าใช้คู่หูจากบราซิล ดิโอโก หลุยส์ ซานโตกับจิลแบร์โต มาร์เซนา

ต่อแถวเดินเข้าสนาม

กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟเป็นฝ่ายเขี่ยเริ่มเกม แล้วก็ทำหืออือซะด้วยเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ก่อนเลย แต่พอเล่น ๆ ไปก็กลับสู่สิ่งที่มันควรจะเป็น นั่นก็คือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดครองเกมได้มากกว่า

แต่โอกาสเสียวครั้งแรกดันเป็นของทีมเยือนซะงั้น เมื่อหลู หลินได้โอกาสหลุดเข้าเขตโทษไปปั่น ถ้าเป็นสำเนียงพากย์ของคุณอัฌพงศ์ สีมาก็ต้องบอกว่า

“ปั่นโค้ง ๆ โค้ง ๆ” (เวลาอ่านทำเสียงใหญ่ ๆ ด้วยนะครับ จะได้อารมณ์มาก)

ลูกโค้งผ่านมือศิวลักษณ์ไปแล้วแต่ดันไปชนกึ่งคานกึ่งเสาซะอย่างงั้น

นาทีที่ 12 ประตูที่ชาวอีสานใต้รอคอยก็มาอย่างรวดเร็ว จิลแบร์โต มาเซนาเปิดบอลเข้ามาเขตโทษให้ดิโอโก หลุยส์ ซานโตโฉบเข้ายิง

1-0 ซะแล้ว!

สกอร์บอร์ดได้เปลี่ยนเลขอย่างรวดเร็ว

3 นาทีต่อมา เฟง ซู-อุยลากเข้าเขตโทษบุรีรัมย์อย่างคล่องแคล่ว ขณะที่ผมลุ้นอยู่นั้น พี่ผู้ชายคนข้าง ๆ แกไม่สนครับดูโทรศัพท์อยู่นั่น ลูกนี้เฟงจ่ายต่อให้จาง ชัวยิง แต่ตรงตัวแชมป์

“เย้! ซองนัมนำแล้ว” พี่คนข้าง ๆ เฉลยว่าเขาลุ้นอะไรอยู่ ทำเอากองเชียร์ละแวกผมกระชุ่มกระชวยขึ้นเยอะ

สักพักเขาชวนผมคุยต่อ “นี่กำลังจะเข้าทุกคู่เลยนะ เหลือแค่คาชิวานี่แหละไม่ยิงเวียดนามสักที อ้อ! บุรีรัมย์ขออีกลูกนะ ไม่งั้นหูอยู่ไม่ครบแน่!”

อ้อ...อย่างนี้นี่เอง

เกมของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดพอปลดล็อกได้ก็ลื่น ๆ มาเลย

แฟน ๆ เฮฮาหลังทีมขึ้นนำ 2-0

นาทีที่ 36 ก็หนีห่าง 2-0 สำเร็จ “กัปตันกบ” สุเชาว์เปิดให้ตูนเญซเทคตัวโขกสบาย ๆ

ถัดมาอีก 2 นาที ดิโอโกก็ทำสกอร์หนีห่างไปอีกเป็น 3-0

ช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์เปลี่ยนประกิตออก แล้วส่ง “เดอะดวง” นฤพล อารมย์สวะลงมาแทน แล้วก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์สบาย ๆ ของ “ปราสาทสายฟ้า” 3-0

ส่วนนี่จังหวะเฮตอน 3-0

ครึ่งหลัง กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟแก้เกมด้วยการส่งมิเกล “มิเชล” เอร์เรโร ฆาบาโรยาสลงมาบงการเกมแทนพาร์ค จอง-วู

แม้จะผ่านการเล่นให้บาเลนเซีย, เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญา, เลบานเต ไปจนถึงเคตาเฟมาแล้ว แต่มิเชลก็ยอมรับว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากเกี่ยวกับคุณภาพของสโมสรจากประเทศไทยเมื่อครั้งให้สัมภาษณ์กับโกลดอทคอม

“สำหรับผม พวกเขาเป็นทีมที่ดีมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรกและทำให้ผมเซอร์ไพร้ส์มั่ก ๆ ที่บุกชนะพวกเราได้ถึงจีนในเกมก่อนหน้านี้ พวกเขามีสนามที่ดี นักเตะก็ซู้ดหย่อด และนั่นแหละ...ทำให้ผมตระหนักถึงคุณภาพของสโมสรไทย!”

GU12 กำลังใจสำคัญของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลังเปิดฉากมาแค่ 9 นาที ดิโอโกก็ทำแฮททริกให้ทีมฉีกนำห่าง 4-0

ถัดมาอีก 6 นาที จิลแบร์โต มาร์เซนาก็ขอบ้าง กระชากเข้าไปยิงเป็น 5-0 รักษาสถิติชอบยิง “สิงห์บลูเมืองจีน” เอาไว้ต่อไปเพราะสมัยที่เขาเล่นในไชนิส ซูเปอร์ลีกนั้นก็สามารถยิงกว่างโจว อาร์แอนด์เอฟได้ถึง 4 ประตูจาก 6 นัดที่พบกัน แล้วก็ยังมาตีลังกายิงให้บุรีรัมย์ได้อีกตอนที่เจอกันนัดแรกที่เมืองจีน

“มาจนได้” ผู้ชายข้าง ๆ ผมสบถ

“คาชิวายิงได้แล้วเหรอครับ” ผมเอาใจช่วยให้เขามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

“แหม่! ดันเป็นกัมบะน่ะสิ” เขาตอบ

เอาล่ะ...ซองนัมจะยันสกอร์นี้เพื่อบุรีรัมย์ได้ไหม?...นี่กลายเป็นสิ่งน่าลุ้นกว่าเกมที่อยู่ตรงหน้าซะแล้ว

เกมที่บุรีรัมย์เริ่มเอื่อยลง เจ้าถิ่นหันมาเล่นติ๊ดชิ่ง มีโอกาสถึงค่อยโจมตี

และแล้วฟ้าก็ผ่าลงมากลางสนามจนได้

“โดนจนได้” พี่ผู้ชายข้าง ๆ ผมร้อง “กัมบะขึ้นนำ 2-1”

ช่วงท้ายเกมก็เลยไม่มีใครลุ้นเกมในสนามเลย หันไปสวดมนต์, อ้อนวอน, ฝากลมฝากฟ้า ฯลฯ หวังว่าซองนัมจะยิงคืนได้

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีประตูทั้งที่เมืองไทยและญี่ปุ่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดชนะ 5-0 แต่ต้องกระเด็นตกรอบอย่างน่าเสียดาย

ที่เจ็บไปกว่านั้น (สำหรับพี่คนข้าง ๆ ผมก็คือ...บินเดืองดันยิงได้ด้วยนี่สิ!)

เชื่อว่าคงไม่มีใครช้ำใจไปกว่าเขาอีกแล้ว!

แฟน ๆ เซราะกราวได้เฮอีก 2 เฮในครึ่งหลัง ก่อนจะสะอึกกับข่าวร้ายจากแดนไกล

“สำหรับเด็กทุกคนก็ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว แต่ผมก็ขอโทษแฟนบอลชาวไทยและบุรีรัมย์ทุกคนที่พาทีมเข้ารอบต่อไปไม่ได้” คุณเนวินให้สัมภาษณ์หลังจบเกม

ส่วนกามา เฮดโค้ชคู่ใจบอกว่า “วันนี้เราเล่นได้ดีมาก ทุกคนตั้งใจเล่นเพื่อชนะ แล้วก็ทำได้ แต่เกมนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา...”

ส่วนฝั่งผู้แพ้ คอสมิน คอนทราคอมเมนท์ว่า “เป็นผลการแข่งขันที่ผิดหวังมาก ช่วง 15 นาทีแรกเราเล่นได้ดี มีโอกาสทำประตู แต่ฟุตบอลระดับนี้ไม่มีอะไรง่าย หากเราไม่แกร่งพอ โอกาสจะชนะก็มีน้อย เราต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก”

ด้วยผลงานการทำแฮททริกในนัดนี้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโตจึงได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แม็ทช์ไปอย่างเป็นเอกฉันท์ ดาวยิงหมายเลข 40 เผยความรู้สึกว่า

“มันยอดเยี่ยมมากที่ทำแฮททริกได้ ผมมีความสุขมาก แต่มันกลับไม่ดีพอที่จะช่วยให้ทีมเข้ารอบ ผมจะขอแก้ตัวด้วยการยิงประตูช่วยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก รวมทั้งเป็นดาวซัลโวฤดูกาลนี้ด้วย”

รางวัลแมน ออฟ เดอะ แม็ทช์...ดิโอโก หลุยส์ ซานโต

สต๊าฟนัดลูกทริปมาเจอกันที่นัดหมายตอน 2 ทุ่ม เผื่อใครอยากไปส่งนักบอลขึ้นรถ, ถ่ายรูปหรือทำอะไรตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

พอคนมากันครบ รถก็ออกเดินทางไปนางรองเพื่อกินข้าวที่นั่น ระหว่างทางมีการจับสลากเพื่อชิงเสื้อแข่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดพร้อมลายเซ็นต์นักบอล 1 ตัว

กินข้าวเสร็จ แวะปั๊มเพื่อให้ทุกคนทำธุระส่วนตัวอีกครั้งก็ดิ่งตรงสู่กรุงเทพฯ

รถปิดไฟมืดมิด ผู้โดยสารเริ่มเข้าสู่นิทรารมณ์

“เราเล่นดีตลอดทัวร์นาเมนท์ แต่นี่แหละฟุตบอล แต่เราจะกลับมาเล่นในเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกอีกครั้งด้วยการเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก...และเราจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้” ตอนนึงของการให้สัมภาษณ์ของดิโอโก หลุยส์ ซานโตหลังคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แม็ทช์

“ระหว่างทาง“ บางครั้งอาจจะเจอสิ่งงดงาม บางคราพบสิ่งน่าลืมเลือน...นอนพักบ้างก็ได้นะ ถ้ารู้สึกหัวใจอ่อนล้า

พอสดชื่น ก็ลุกขึ้นมาไล่ล่าความฝันใหม่บนทางสายนั้นอีกครา...

Create Date : 09 พฤษภาคม 2558
Last Update : 9 พฤษภาคม 2558 2:44:28 น.		0 comments
Counter : 1417 Pageviews.
Share Tweet