Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
15 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
4 นิสัย-วัฒนธรรมใช้ถนนคนไทย ที่ควรปรับปรุง

ทุกวันนี้ที่ยอดรถยนต์ใหม่ต่างจำหน่ายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า นั่นชี้ให้เห็นว่าคนจำนวนมากต่างหันที่จะให้ความสะดวกสบายแก่ชีวิตตัวเองมากขึ้น เช่นเดียวกันกับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเส้นทางเพื่อทำธุระส่วนตัวของตัวเอง

รถที่มากขึ้นและคนที่มากขึ้น แม้จะทำให้บรรดาค่ายรถยนต์แฮปปี้ และทำให้คนไทยอีกหลายๆคนมีงานทำจากอัตราจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทว่าปัจจุบันสังคมบนท้องถนนเมืองไทยกลับก้าวสู่วิกฤติ เมื่อมีคนจำนวนมากต่างใช้รถใช้ถนนอย่างไม่เข้ากฏและการปฏิบัติที่ถูกต้อง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้จากความมักง่ายและไม่ใฝ่รู้ของคน

1.ไฟฉุกเฉิน เราเรียกไฟฉุกเฉิน เพราะ หลายคนที่ไม่เข้าใจจะได้รู้ถึงชื่อที่ใช้จริงๆของมัน ไฟฉุกเฉิน หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ไฟผ่าหมาก” นั้น เป็นไฟที่จะทำให้ไฟเลี้ยวกระพริบ 2 ด้าน ซึ่งมีความหมายให้รถหลังแซงเราขึ้นไป ผิดกับไฟเลี้ยว ที่จะเป็นการขอทาง

ความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของไฟฉุกเฉิน เกิดขึ้นจากนิสัยมักง่ายของคนบ้านเรา บวกกับศัพท์ชาวบ้านที่เรียกว่า “ไฟผ่าหมาก” ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อย เข้าใจผิด คิดว่า การที่เราต้องผ่าน 4 แยก ในยามที่ข้างหน้าเราไม่มีรถนั่น โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อ ให้รถที่รออยู่รู้ว่าเราจะตรงไป

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ เนื่องจากไฟฉุกเฉิน ความจริงแล้วคุณจะได้ใช้ใน 2 กรณี คือ 1. เมื่อรถเสีย- ขัด ข้องหรือ มีปัญหา ไม่ว่าจะจอดตายกลางถนน หรือข้างทาง ไฟฉุกเฉิน จะช่วยแสดงตำแหน่งรถที่ตามมารู้ได้ ส่วนอีกกรณีนั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อเราจะเข้าที่จอดรถ การเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้ จริงๆไม่ถูกและไม่ผิด แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมากกว่า เพื่อให้รถที่ตามมารู้ว่าเรากำลังรอรถที่กำลังจะออกจากช่องจอดรถ

2.ไฟเลี้ยว กรณีนี้เป็นกรณีใหม่ ที่เริ่มมีหลายคนพูดถึงและเราไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสอนคนพวกนี้ในการขับรถ พบมากในกลุ่มรถแท็กซี่ และรถรับจ้างอื่นๆ ตามปกติของการใช้ไฟเลี้ยว คือคุณเปิดในทางที่คุณจะไป ยกตัวอย่างเลี้ยวซ้าย <--- ,เลี้ยวขวา ---> ซึ่งจะทำให้รถที่ตามมาด้านข้าง และด้านหลัง รู้ทิศทางที่คุณจะไป

ตามกฏจราจร คุณต้องเปิดไฟเลี้ยวในระยะ 100 เมตร ก็ถึงจุดเปลี่ยนเส้นทาง แต่ในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับสังคมใช้ถนนบ้านเรา คือ เปิดไฟเลี้ยวตรงข้ามกับทิศทางที่จะไป ซึ่งล่าสุดเราเจอเลี้ยวซ้ายเปิดไฟเลี้ยวขวา จนจ๊ะเอ๋เกือบเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคนขับรถที่ทำพฤติกรรมเช่นนี้ให้เหตุผลว่า รถที่มาทางด้านข้าง (ในกรณี 3 แยก) จะได้เห็นว่าเขาจะออกและทำให้ง่าย ซึ่งความมักง่ายนี่เอง เกือบทำให้เราลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นแล้ว

การใช้ไฟเลี้ยวที่ถูกต้องคุณควรให้สัญญาณทางที่คุณไป เพื่อไม่ให้รถที่ตามมาทางด้านหลังสับสน ในกรณี 3 แยกก็ทำแบบเดียวกัน แต่คุณต้องคอยมองกะระยะรถที่ใช้ทาง และออกรถเมื่อเห็นว่าปลอดภัย ไม่ใช่หวังว่าทุกคันจะยอมให้คุณไปได้เสมอ

อีกกรณีที่เราอยากจะฝากไว้เพิ่มเติมคือ ไม่เปิดไฟเลี้ยว ไม่ว่าจะเลี้ยวเข้าซอย หรือไปยังเส้นทางอื่น การเปิดไฟเลี้ยว ล่วงหน้าช่วยให้ผู้ขับคนอื่น รับทราบเส้นทางของเราและทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น การที่คุณไม่เปิดไฟเลี้ยวกรณีเกิดการชนขึ้น อาจโดนข้อฐานขับขี่โดยประมาท ซึ่งทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ หากเกิดอุบัติเหตุ

3. ช้าชิดขวา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แก้ไม่หายสักทีสำหรับคนไทยที่ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะ เขตต่างจังหวัด หรือเส้นทางระหว่างเมือง ทางด่วน หรือ ถนนที่มีหลายช่องทาง ซึ่งเราจะพบว่า เมื่อรัฐบาลประกาศขับ 90 ช่วยชาติประหยัดน้ำมันนั้น คนไทยก็พร้อมกันช่วยชาติ แช่เลนขวานับเลขต่อม่อสะพานกันเพลินๆ

กรณีขับช้าชิดขวานั้นถือว่า มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ในข้อหากีดขวางการจราจร ถ้าเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถจับคุณได้ในข้อหาดังกล่าว ซึ่งมีคนจำนวนมากไม่ทราบและทำกันเป็นประจำ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ที่ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้

การขับช้าชิดขวานั้นเป็นเรื่องที่ผิด เพราะตามหลักแล้วหากคุณไม่ประสงค์จะใช้ความเร็วมากนักในการเดินทาง ตามกฏว่าให้ใช้ช่องทางซ้ายมือ ซึ่งแน่นอนว่าจะไปเจอกับรถบรรทุก ทำให้หลายคนเลี่ยงที่จะมาใช้เลนขวา แล้วขับไม่รู้ร้อนรู้หนาวตามใจฉัน พฤติกรรมเยี่ยงนี้ควรปรับเปลี่ยน เพราะถ้าคุณไม่รีบใช้เลนซ้ายเมื่อจำเป็นต้องแซงก็ค่อยออกเลนกลางหรือเลขขวา ด้วยไฟขอทางมาจะดีกว่า การแช่ขวาทำให้การจราจรเกิดความไม่คล่องตัว และท้ายที่สุดอาจลงเอยด้วยอุบัติเหตุ หรือตำรวจจับได้

4. ไฟตัดหมอก เรื่องนี้เราเคยพูดถึงไปแล้ว แต่ก็จะมาย้ำเตือนกันอีกรอบ ว่าไฟตัดหมอกควรจะเปิดใช้เวลาที่ทัศนวิสัยไม่ดี เท่านั้น นอกนั้นไม่ควรจะนำมาใช้งาน เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากลำแสงไฟนั้นมีลักษณะเป็นสปอร์ตไลท์ เมื่อมันส่อง แม้จะมีระยะสูงจากพื้นไม่มาก แต่การกระจายแสงที่ดีเลิศ ทำให้มันอาจจะแยงตาสำหรับใครหลายๆ ซึ่งเราแนะนำว่าไม่ควรเปิดใช้ โดยเฉพาะในเขตเมือง

การใช้ไฟตัดหมอกนั้นจำไว้ว่าใช้เฉพาะในยามที่ทัศนวิสัยไม่ดี ไม่เฉพาะเพียงหมอกเท่านั้น แต่หมายถึงการขับในถนนเปลี่ยว ยามฝนตกและอื่นๆอีกมา ที่คุณจะได้ใช้ไฟพวกนี้แน่ ไม่ต้องกังวลว่าซื้อมาแล้วเดี๋ยวจะไม่ได้ใช้

นี่เป็นเพียง 4 นิสัยที่ทำให้ถนนเมืองไทยวุ่นวาย ที่หากเราเริ่มต้นที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 4 ข้อที่เรากล่าวมานี้ แค่นี้ ถนนเมืองไทยก็จะน่าใช้ขึ้นแยะแล้ว

ที่มา สนุก ดอทคอม


Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2555 22:44:32 น. 2 comments
Counter : 846 Pageviews.

 
เห็นด้วยจริงๆ หน่วยงานที่เก็บข้องควรประชาสัมพันธ์ บางครั้งเจอรถติดเพราะรถขับช้าแค่สอง สามคับ ทำให้ทุกคนเสียเวลาและเงินค่าน้ำมันกับรถติดไปด้วย


โดย: จริงๆ IP: 61.90.164.27 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:47:18 น.  

 
1. เปิดไฟเลี้ยวในระยะ 5 เมตร...
2. เปิดไฟตัดหมอกทุกครั้ง
3. เปิดไฟฉุกเฉินทุกครั้งที่จอดข้างถนน แทนที่จะเปิดไฟเลี้ยวซ้าย
4. เปิดไฟสูงใส่รถคันอื่น ยิ่งมอไซด์ รถเล็ก มันยิ่งชอบทำ
5. ก่อนจะออกจากที่จอด ไม่เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อขอทาง ให้รถข้างหลังทราบ...แต่ขับออกทันที
6. แช่ขวาตลอด...ก็กรุจ่ายภาษีเหมือนกัน ใครจะทำไม

นี่แค่เล็กๆน้อยๆ

ผมว่า มันอยูที่ขนส่งมากกว่า ที่ไม่มีการอบรมแบบเข้มงวดเหมือนต่างประเทศที่เจริญ บ้านเราเลยมีแต่คนขับรถเป็น แต่ไร้วินัย


โดย: เอ้ นะจ๊ะ IP: 118.174.81.107 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:11:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MR.ITANRICH
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ผมเป็นคนไทยที่รักประเทศไทย
Friends' blogs
[Add MR.ITANRICH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.