กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2554
 

ความในใจที่อยากให้รู้



หลังจากที่ผมทอดเวลาอย่างยาวนานกว่า 3 ปีเต็ม
ด้วยการไม่กล้าเปิดใจรักใครอีกเลย
เพราะผมกลัวที่จะต้องพบกับความเศร้าโศกเสียใจอีกครั้ง
แต่เมื่อวันหนึ่ง...เมื่อหัวใจเริ่มโหยหาที่จะมีใครสักคน
ผมก็เริ่มเปิดใจที่จะมีความรักขึ้นในหัวใจอีกครั้ง

ชีวิตรักครั้งใหม่ของผม...เริ่มต้นขึ้นในวัดพระแก้ว
ซึ่งผมวาดหวังว่า ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ อาจทำให้ผมได้พบรักที่สมหวัง
ผมจึงเลือกที่จะนัดเจอเขาครั้งแรก ณ วัดพระแก้ว ตามที่หวัง
วันนั้นเราสองคนได้กราบนมัสการพระแก้วมรกตด้วยกัน
ผมไม่รู้หรอกว่า...ในวันนั้นเขาได้ขอพรอะไรจากพระแก้วมรกต
แต่สำหรับผม พรข้อเดียวที่ผมขอก็คือ "ขอให้รักครั้งนี้ของผมสุขสมหวัง"

หลังจากวันนั้นผ่านไป...วันที่เรานัดพบกันเป็นครั้งที่สอง
ผมก็ยังเลือกที่จะนัดหมายใหม่ ให้เขาไปเจอกับผมที่...วัดสุทัศน์
เพราะผมอยากให้เขามั่นใจว่า...ผมพร้อมจะมีรักใหม่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
นับจากวันนั้นผ่านไป สายสัมพันธ์ของเราเบ่งบานขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจ และมั่นใจที่จะมีความรักอีกครั้ง

เวลาต่อมาไม่นาน เราสองคนได้ตัดสินใจที่จะไปท่องเที่ยวด้วยกัน
เราเลือกที่จะไปกาญจนบุรี สถานที่ซึ่งเป็นปฐมบทแห่งรักของเรา
ทุกวันนี้ผมบอกตัวเองเสมอๆ ว่า...รักของเราเกิดขึ้นที่นั่น
แต่ในขณะเดียวกันนั้น ผมก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้
กับคำร่ำลือว่า "คู่รัก" ใดที่ไปเดินข้ามสะพานมรณะด้วยกัน
กลับมาแล้วความรักจะอัปปางลงทุกคู่




ผมตั้งใจมั่นที่จะทำลาย "คำสาป" นั้นให้จงได้
จึงเลือกที่จะเริ่มต้นความรักของเรา ณ สะพานมรณะแห่งนั้น
เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 3 วัน 2 คืน ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งริมแม่น้ำแคว
ความรักของผมกับเขา ได้เริ่มต้นขึ้น ณ ที่แห่งนี้อย่างสมบูรณ์
ผมรู้สึกมีความสุขอีกครั้งหนึ่งจากคำว่า "ความรัก"

นับจากวันนั้นผ่านเลยมาจนถึงวันนี้...เวลาผ่านมาราวครึ่งปีแล้ว
ความรักที่ผมมีให้กับเขา ได้งอกงามขึ้นทุกๆ วัน
เราเริ่มต้นทำงานด้วยกันทุกวัน...แต่เราก็ยังใช้ชีวิตแยกกันคนละแห่ง
ผมรู้สึกดีใจที่เราได้ใกล้ชิดกัน แต่ก็ยังรู้สึกห่างหายอยู่ไม่น้อย
เพราะฝันของผม อยู่ตรงที่ผมอยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาในทุกๆ วัน
ความใกล้ชิดที่เราได้ทำงานด้วยกันทุกวัน ทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้นกว่าเก่า
ผมได้รู้จักเขามากขึ้น ขณะเดียวกันเขาก็รู้จักผมมากขึ้นด้วยเช่นกัน

เวลากว่าครึ่งปี...ที่เราต่างได้มองเห็นจุดดี-จุดด้อย ของกันและกัน
ผมเรียนรู้ที่จะยอมรับในทุกข้อบกพร่องของเขาอย่างเต็มใจ
ขณะที่ผมเริ่มรู้สึกว่า...เขาเริ่มยอมรับข้อบกพร่องบางอย่างของผมไม่ได้
ผมรักเขามากขึ้นทุกวัน ขณะที่ผมเริ่มรู้สึกว่าเขามีความรักให้ผมน้อยลง
ผมตั้งใจที่จะมองจุดดีของเขาในทุกจุดที่ผมสามารถจะมองเห็นได้
แต่เขากลับเห็นจุดด้อยของผม แม้บางทีผมพยายามเก็บซ่อนไว้อย่างดี
ผมเริ่มเปิดเผยความเป็นตัวผมจนครบทุกด้าน เพื่อให้เขารู้จักผมดีขึ้น
ขณะที่เขาเริ่มปกปิดโอกาสให้ผมรู้จักเขา อย่างที่ผมควรรู้จัก




เมื่อหลายวันก่อน...เขาทำให้ผมรู้สึกเสียใจจนน้ำตาไหล
ผมร้องไห้หลังจากที่ผมได้รู้ว่า เขาลบ Facebook ของผมจาก List ของเขา
วันนั้นเขาทำให้ผมรู้สึกว่า...เขาอาจกำลังมีรักใหม่ จึงได้ปกปิดผม
นับจากวันนั้นผมไม่เคยมีความสุขเลย เพราะความรู้สึกเสียใจที่เขาทำเช่นนั้น
ผมพยายามที่จะหาโอกาสที่เหมาะสม เพื่อจะบอกความรู้สึกของผม
ให้เขาได้รับทราบและเข้าใจ ว่าผมรู้สึกเสียใจมากมายแค่ไหน

ในเช้าวันหนึ่งผมตัดสินใจที่จะบอกเขาไปว่าผมรู้สึกเสียใจ
ที่ List ชื่อเขาหายไปจาก Facebook ของผม
เขากลับตอบผมว่า...มันคงหลุดหายไปเองเพราะระบบอาจมีปัญหา
คำตอบของเขาทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้น ที่เขาตอบไม่ตรงกับความจริง
มันทำให้ผมคิดต่อไปไกลยิ่งขึ้น ว่าเขาอาจหมดรักต่อผมเสียแล้วจริงๆ
ผมเริ่มรู้สึกท้อแท้ เริ่มรู้สึกเสียใจ ว่าชีวิตนี้ผมคงไม่มีโอกาสได้สมหวังในรัก

จวบจนถึงเมื่อ 3 วันก่อน ในจังหวะที่เราสองคนได้เดินทางด้วยกัน
เพื่อไปทำงานที่เมืองแปดริ้ว วันนั้นตรงกับวันแห่งความรักพอดี
ผมวาดหวังมากว่าจะพูดความจริงกับเขาทั้งหมด ถึงความเสียใจของผม
แต่ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก ที่ผมไม่มีโอกาสได้ทำตามที่ได้ตั้งใจไว้เลย
ผมรู้สึกราวกับเขาปิดโอกาสให้ผมได้พูดกับเขาตามที่ผมตั้งใจจะพูด
ณ วันแห่งความรักที่แสนเศร้า ผมนอนร้องไห้จนหมอนเปียก

กว่าจะผมหลับไปในค่ำคืนที่แสนเศร้า ผมนึกถึงเรื่องราวของเรา
เริ่มต้นจากวัดพระแก้วสู่วัดสุทัศน์ และนึกไปไกลจนสะพานแห่งรักของเรา
ที่ผมเปลี่ยนชื่อเอาเองจากสะพานมรณะเป็น "สะพานแห่งรัก"
ผมเริ่มนึกถึงการเริ่มต้นรู้จักกันของเราจากโลกแห่งไซเบอร์ที่กว้างใหญ่
และผมเริ่มขลาดกลัวว่า เขากำลังจะจากผมไปเพราะโลกไซเบอร์เช่นกัน
ผมเริ่มคิดว่า...เขามาทางไหน เขากำลังจะจากผมไปในทางนั้น




เมื่อวันแห่งความรักที่แสนเศร้าผ่านพ้นไป
ผมกลับรู้สึกเสียใจยิ่งไปกว่าเก่า ที่เห็นเขาจริงจังกับการคุยกับเพื่อน
ทั้ง MSN ทั้งแคมฟ๊อก รวมไปถึง Facebook โดยไม่ใยดีกับผม
ขณะที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องพักของโรงแรม
แต่เขากลับแยกตัวเองออกไปอยู่ในโลกแห่งไซเบอร์
แทนที่เราจะได้นั่งคุยกัน หรือแม้แต่จะแสดงความรักต่อกัน
แต่เขากลับไม่ใยดีต่อผมแม้แต่น้อย จนผมรู้สึกเสียใจเต็มประดา

ผมตัดสินใจปิดไฟนอน...พร้อมกับจับมือเขาเพื่อจะพูดว่า
ผมรู้สึกเสียใจที่เขาทำตัวให้ผมรู้สึกได้ว่า เขาหมดรักต่อผมเสียแล้ว
ผมจำเป็นต้องพูดกับเขาให้หมด จากทุกความรู้สึกที่ผมมีต่อเขา
เพื่อให้เขาได้รับรู้ถึงความเสียในของผม ที่เกิดขึ้นเพราะเขา
แต่หลังจากที่ผมได้พูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมาที่สุด
ทำให้เขาได้มีโอกาสอธิบาย ว่าผมก็คิดของผมไปเองฝ่ายเดียว

เขายืนยันว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนไป แถมยังสรุปว่าผมต่างหากที่เปลี่ยนไป
เขาบอกว่าผมคิดมากเกินไป และผมทำตัวเองในทุกๆ อย่าง
คืนนั้นเราได้คุยกันเกือบสองชั่วโมง เพื่อปรับความเข้าใจต่อกัน
ขณะที่เราได้คุยกันนั้น ผมรู้สึกอัดอัดที่จะพูดกับเขาในทุกๆ เรื่องราว
ที่ผมรู้สึกอัดอั้นอยู่ในใจ ผมเพราะคิดว่าหากผมพูดความรู้สึกจริงๆ ทั้งหมด
อาจทำให้เขารู้สึกโกรธผมได้ ผมจึงเก็บบางความรู้สึกไว้ในใจต่อไป




เมื่อวาน...ขณะที่ผมขับรถเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ผมตัดสินใจที่จะบอกความในใจของผมในส่วนที่ยังเหลืออยู่ให้เขาได้รับรู้
ด้วยประเด็นสำคัญที่เขาลบ Facebook ของผมออกจาก List ของเขา
ผมจำเป็นต้องบอกความรู้สึกของผมอย่างตรงไปตรงมากับเขา
ว่าผมรู้สึกเสียใจมากที่เขาทำเช่นนั้น เพราะมันเหมือนกับว่าเขากำลัง
เริ่มต้นปกปิดผม และเขาทำให้ผมรู้สึกได้ว่า เขากำลังมีรักใหม่แล้วจริงๆ
ผมให้โอกาสเขาได้อธิบาย...อย่างน้อยก็อาจจะทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง

คำอธิบายของเขาฟังดูง่ายๆ แค่เพียงเหตุผลธรรมดาๆ ที่ว่า...
เขาไม่อยากให้ผมได้รับรู้ หรือไม่อยากให้ผมได้เห็นว่าเขากำลังคุยสนุก
กับเพื่อนๆ บางคนที่เขามาทักทาย ในเชิงที่จะทำให้ผมรู้สึกเสียใจได้
เขาบอกว่าคำพูดเชิงล้อเล่นบางประโยคที่แสดงอยู่ใน Facebook ของเขา
อาจทำให้ผมเสียใจได้ ถ้าหากผมเข้ามาอ่าน เขาจึงตัดสินใจลบ List ผมไป
และที่ทำเช่นนั้น แค่เพียงเพื่อให้ผมไม่ต้องเสียใจหากได้เข้ามาเห็นเข้า

แต่ผมกลับอธิบายให้เขาเข้าใจว่า การกระทำเช่นนั้นมันได้ผลตรงกันข้าม
เพราะมันกลับทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากขึ้นยิ่งกว่าอย่างเทียบกันไม่ติด
มันทำให้ผมรู้สึกว่าเขากำลังปกปิดผมอย่างตั้งใจ ผมจึงรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ผมพยายามให้เขาเข้าใจถึงความรู้สึกเสียใจของผมมากขึ้น
แต่เขากลับสรุปว่า...ผมผิดที่คิดไปเอง และคิดเสียใจไปเอง

ขณะที่นั่งรถด้วยนั้น ผมยังพูดลึกไปถึงอนาคตแห่งรักของเรา
เขาเริ่มต้นพูดถึงสิ่งที่เขาคาดหวัง ซึ่งต่างจากที่ผมคาดหวังกันคนละเรื่อง
ความเห็นที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันมากขึ้นของเราทั้งสอง ทำให้ผมจำเป็น
ที่จะต้องสรุปว่าถ้าเราคิดไม่ตรงกันเสียแล้วจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรักกัน
ในเมื่อรักของเขาคาดหวังอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งแตกต่างไปจากผมสิ้นเชิง
ผมอยากให้รักของผม คือเป้าหมายที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างถาวร
แต่เขากลับบอกว่ารักของเขา ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
รักของเขาที่ควรเก็บไว้แค่ในใจ แต่รักของผมกลับอยากให้บอกรักทุกๆ วัน




ความรักของเรา...ช่างมีค่าคาดหวังที่แตกต่างกันเสียจริง
ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้บอกรักเขาในทุกๆ วัน และทุกครั้งที่เจอกัน
แต่เขากลับรู้สึกรำคาญ พร้อมกับบอกผมว่าไม่ต้องบอกรักบ่อยๆ ก็ได้
ขณะที่ผมอยากให้เขาบอกรักผมบ้าง แต่เขากลับบอกว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น
น่าเศร้าจริงหนอ "ความรัก" รักของคนสองคนที่ช่างตรงกันข้ามกันเสียจริง
ผมไม่อยากคาดเดาเลยว่า นับจากวันนี้ต่อไป...รักของเราจะลงเอยอย่างไร
เหนื่อยใจเสียจริง...กับความรัก รักที่ช่างมองไม่เห็นจุดหมาย

แต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม...ผมก็แค่อยากบอกให้เขาได้รับรู้
ว่าทุกวันนี้...ผมรู้สึกรักเขามากขึ้นทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ผมไม่รู้สึกรักเขา
ผมรู้สึกห่วงใยเขา อยากให้ชีวิตเขาได้ดีและประสบความสำเร็จทุกๆ ด้าน
ผมอยากให้เขารับรู้ว่า...วันนี้หัวใจของผม มีรักมอบให้เขาอย่างเต็มหัวใจ
วันนี้ผมรู้สึกอ่อนหล้าเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำงานหนักอะไรมากมาย
ผมรู้สึกเหนื่อยใจ จนทำให้รู้สึกร่างกายอ่อนแรงจนเจ็บปวดถึงกระดูก

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น...กับ "ความรักของเรา"
แต่อย่างน้อยคืนนี้ ผมรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยที่ได้เขียนเรื่องราวในใจ
ไว้ในบล็อคนี้ เผื่อว่าอย่างน้อย...อาจมีใครบางคนรู้สึกเห็นใจผม
และยินดีที่จะอวยพรให้ "รักของเรา" ได้ผ่านพ้นห้วงเวลาอันแสนเศร้า
เพื่อพาลพบกับความสุขสมหวังดั่งใจหมายนับจากวันนี้สืบไป
"ราตรีสวัสดิ์ครับ"



Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2554 20:48:04 น. 5 comments
Counter : 1890 Pageviews.  
 
 
 
 
เป็นกำลังใจให้นะคะ
 
 

โดย: บ้านสีลูกกวาด วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:40:44 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 
 

โดย: LoveTurJang วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:39:56 น.  

 
 
 
เข้มแข็งนะคับ เราได้ทำดีที่สุดกับคนที่เรารักแล้ว หวังว่าเขาคงจะรับรู้ได้ อีกอย่างพี่คบกัน มันมีพื้นฐานมาจากความรัก ผมเชื่อว่าพี่และเขาจะผ่านมันไปได้
 
 

โดย: หนึ่ง IP: 113.53.62.206 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:14:30 น.  

 
 
 
ได้อ่านบทความแล้วเหมือนบางจุด บางข้อความโดนกับเรามาก่อน ความรักมันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนที่คนที้งสองจะต้องปรับเข้าหากันให้ได้ แต่มีบางสิ่งมาเป็นอุปสรรค ใจคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิทย์เข้าใจในหัวอกพี่นะครับ เพราะมันเหมือนที่วิทย์เป็นตอนนี้เลย เรารักเค้ามาก อยากอยู่ร่วมกับเค้า แต่เค้ากับมีความคิดไม่เหมือนเรา บางครั้งใน Facebook ที่วิทย์อ่านเจอของคนที่เรารัก เค้าโต้ตอบคนอื่น ให้เบอร์โทร บางกระทู้เหมือนอยากมีแฟน วิทย์เคยถามเค้าบอกว่าจะไปเชื่ออะไรกับอินเตอร์เน็ต เค้าอยากให้เพื่อนๆๆมาตอบกระทู้ที่เค้าตั้ง แต่เรากลับไม่ใช่อย่างนั้น เค้าบอกให้เกียรติเค้าบ้าง ไว้ใจเค้าบ้าง เค้าจะรู้ไหมว่าเรารักเค้า เป็นห่วงเค้า อย่างน้อยพี่ก็มีคนนี้ที่มีชีวิตคล้ายๆๆพี่ วิทย์ขอให้พี่ผ่านพ้นอุปสรรค์สิ่งเหล่านี้ไปได้ด้วยใจที่พี่มีหวัง สู้ๆๆๆครับพี่ เป็นกำลังใจให้เสมอ เค้าบอกว่าฟ้าหลังฝนย่อมมีอะไรที่สวยงามเสมอนะครับ
 
 

โดย: wit-nakhonsawan IP: 115.67.103.231 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:42:53 น.  

 
 
 
ความรู้สึกของคุณมันเรียกร้องมากจนเกินไปนะ ความรักไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันก็ได้เหมือนที่ฝ่ายหญิงบอก การบอกรักทุกวันมันก็ไม่จำเป็น ถ้าคิดว่าเขาปิดบังซ่อนเร้นเรา มันก็คงจะจริง การอยู่ในโลกไซเบอร์ทำให้ลืมเรื่องหลายๆ เรื่องได้ บางทีเขาคงยังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่กับคุณหรอก อย่าหลอกตัวเอง และอย่าให้เขาหลอกคุณอีกต่อไป คุณทำใจเสียเถอะเพราะว่าเขาสองจิตสองใจ ถ้าไม่มีคุณเขาก็อยู่ได้หรือมีคนใหม่ ถ้ามีคุณเขาก็อยู่ได้ แต่อาจต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่อคุณไม่สามารถให้ความสุขอะไรบางอย่างให้เขาได้ คุณต้องรู้ตัวเองแล้วล่ะว่ามันเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุอะไร ไม่ได้ไม่ให้กำลังใจนะคะ แต่ว่า เป็นความรู้สึกเฉพาะคนค่ะ คุณต้องกลับไปสำรวจแล้วว่าเหตุมันเกิดเนื่องจากอะไรค่ะ เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ สู้ๆนะ
 
 

โดย: Baybay IP: 180.180.96.162 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:17:22:36 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อิสรภาพของหัวใจ
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add อิสรภาพของหัวใจ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com