There'll be Sweeney Todd's Blood in The Mist of Cloverfield @ Vantage Point by Jumper & Juno Gangs ช่วง 1 - 2 เดือนที่ผ่านมา ผมไปดูหนังมาหลายเรื่องเลยครับ อย่างที่เห็นในหัวข้อ Blog นั่นแหล่ะครับ มีเรื่อง American Gangster Cloverfield Jumper Juno The Mist Sweeney Todd There Will Be Blood Vantage Point จริง ๆ มีอีก ได้แก่ The Bucket List, I am Legend, The Kite Runner, Enchanted, Bee Movie, Gone Baby Gone แต่หัวข้อ Blog มันยาวได้แค่นั้นแหล่ะครับ เลยใส่ไม่หมด ก็เลยเอาเท่าที่มีอยู่ในหัวข้อ Blog ละกันนะครับ แต่จะแถม I am Legend ให้ตอนท้าย เขียนเสร็จแล้ว ลืมไปครับ ว่าเพิ่งไปดู The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford มาด้วย ชื่อยาวมากกกกก ครับ เอาไปใส่หัวข้อ Blog เรื่องเดียว ก็จะไม่เหลือแล้ว ผมจะไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องครับ ก็อ่านกันสบาย ๆ ได้ เป็นข้อสรุปที่ผมมีต่อหนังเรื่องนั้น ๆ ว่าชอบหรือไม่ชอบ ชอบตรงไหน American Gangster - เป็นหนังที่เล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นในหนังไว้อย่างดีมาก คือดูแล้วจะเข้าใจตัวละครในหนัง ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ลอยมาแบบ Jumper อิอิ AG เป็นหนังที่ผมชอบครับ โชคดีที่ไม่ได้ดูเรื่องนี้ในไทย (ซึ่งโดนเซ็นเซ่อร์ เหอๆ) แต่โชคร้ายที่ออกเป็น HD DVD ซึ่ง HD DVD คงไม่มีการพัฒนาด้าน hardware ต่อไปแล้ว (น่าจะเขียนเป็นอีก blog เนอะ) Cloverfield - อันนี้ชอบครับ เพื่อนบางคนไปดูแล้วบอกไม่ชอบ มึนเวียนหัว แต่ผมเล่นเกมยิง ๆ มาเยอะ เลยเฉย ๆ หนังทำเก๋ดีเหมือนกันนะ เปิดหนังมาก็เอาเลย แห่ะๆ Odette Yustman นางเอกน่ารักดีครับ (ชาติกำเนิดเป็นคนยิว) เห็นว่าจะมีภาค 2 ก็คงจะตามไปดูครับ Jumper - อันนี้งงครับ มันไม่ได้บอกรายละเอียดของการเป็น Jumper จริง ๆ เรื่องนี้ผมไม่ได้ตั้งใจไปดูหรอกครับ คือจะดู There Will Be Blood แล้วมันต้องรอนาน 2 ชม. ก็เลยดู Jumper ฆ่าเวลา Rachel Bilson ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ แต่สู้ Odette ไม่ได้ เอ๊ะ นี่จะไปดูหนัง หรือไปดูนางเอกกันแน่เนี่ย Juno - เรื่องนี้ ชอบมากกก ครับ เป็น chick flick (หนังสำหรับผู้หญิง) ที่ดีมากเรื่องนึงเลย Ellen Page นี่ จำไม่ได้เลยว่า เคยเล่นเป็น Kitty ที่แสนน่ารักใน X-Men 3 ได้ยังไง ผมชอบตอนที่เค้าปรึกษาเรื่องความหมายของความรัก (คล้าย ๆ กับตอนในเรื่อง Meet Joe Black ) และคำถามของเด็กวัยรุ่นที่มีต่อความรักของผู้ใหญ่ เพลงประกอบ ก็เป็น Acoustic Guitar เป็นหลักครับ ทุกคนเป็นส่วนประกอบที่เข้ากันได้ดีมาก Jennifer Garner บทไม่เยอะ แต่เล่นดี เรื่องนี้มีพูดถึงเพลงเยอะครับ ถ้าคนรู้จักเพลงเยอะ ๆ จะดูสนุกขึ้น อย่างเค้าจะพูดถึงอัลบั้มชุด If I were the Carpenters และอีกหลาย ๆ เพลง หลาย ๆ วง ขำตอน Spinal Tap ฮ่าๆ เป็นหนังที่น่ารักดีครับ สรุปว่า ดูแล้วมีแง่คิดติดไม้ติดมือออกมาหลังจากเดินออกจากโรง The Mist - อันนี้ดูเพราะผู้กำกับอย่างเดียวเลยครับ Frank Danabont ผกก. The Shawshank Redemption, The Green Mile, The Majestic เป็นเรื่องของ Stephen King ซะเยอะเลยนะ เรื่องนี้เป็นหนังแนวที่ต่างจากแนวเดิม ๆ อย่าง Shawshank หรือ The Green Mile แต่ดูแล้วทึ่งกับแนวคิดในหนังครับ ถ้าเรามองทะลุหมอกในใจคนได้ จะเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราคาดไม่ถึง Sweeney Todd - เรื่องนี้เลือดสาดกระจาย แต่ได้ข่าวว่าในไทยโดนเซ็นเซ่อร์กระจายเหมือนกัน เหอๆ เป็นหนังเพลงครับ มุมมืดมาก ๆ หนังก็โทนมืด ๆ อีก น้องที่เล่น Finding Neverland ก็มาเล่นเรื่องนี้ด้วย (Johnny Depp คงประทับใจมาก เพราะเรื่อง Charlie and โรงงานช็อคโลแลตนรก ก็มีน้องคนนี้เล่นด้วย) There Will Be Blood - สไตล์ PT Anderson (ผกก.) เลยครับ มี Long shot ค่อนข้างเยอะ แล้วก็ได้พลังฝีมือของ Daniel Day-Lewis ดาราคนโปรดของผม มาเล่น คือดูพี่ Daniel เล่นอย่างเดียวก็คุ้มแล้วครับ อารมณ์หลากหลายมาก (แอบคิดถึงเรื่อง The Boxer อยากได้ DVD แห่ะๆ) แต่ต้องชม Paul Dano คนที่เคยเล่นเป็น Dwight ใน Little Miss Sunshine มาเล่นกับพี่ Daniel แล้วไม่ตายหรือไม่หายไป ก็เก่งมากแล้วครับ อนาคต Paul Dano คงไปได้ไกลครับ ถ้ารักษาตัวดี ๆ ตอนไปดู ยังไม่ได้ประกาศผลรางวัล Oscar ก็ดูแล้ว อืม แอบเชียร์ Viggo Mortensen จากเรื่อง Eastern Promise เพราะพี่คางเหลี่ยมยังไม่เคยได้รางวัล แต่พอผลประกาศรางวัลออกมา ก็ยอมรับครับ Vantage Point - เพิ่งไปดูมาเมื่อวานครับ (เห็นว่าเมืองไทยจะเข้าฉายช่วงเดือนเมษาโน่นนน) เป็นหนังที่ดูสนุกครับ ดาราแต่ละคน เล่นกันได้ดีเลย ถ้ามีโอกาส ก็ไปดูกันนะครับ แถมท้าย I am Legend ผมชอบประโยคนี้ครับ Light up the Darkness แห่ะๆ แถมน้อยจริง ๆ เรื่องนี้เป็นต้นกำเนิดของหนังพวก Zombie ทั้งหลายครับ (ผมเพิ่งรู้ ) ดู ๆ แล้ว คิดว่าใน DVD มันน่าจะมี Alternative Ending แน่ ๆ ครับ แถมอีกนิด The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford Brad Pitt กับ Casey Affleck ในหนังที่แสดงช่วงชีวิตของ Jesse James ดูแล้วก็ง่วง ๆ ครับ เพราะหนังยาว 160 นาที แอบมีง่วงในโรงด้วย ฮ่าๆ แต่การถ่ายภาพนี่ สวยครับ เรื่องนี้ได้เข้าชิงด้านการถ่ายภาพ โดยตากล้องที่ชื่อ Roger Deakins ซึ่งผลงานอีกเรื่องก็คือ No Country for Old Men ก็ได้เข้าชิงเหมือนกันในปีเดียวกัน แต่ไม่ได้รางวัล หนังก็พูดสำเนียงแปร่ง ๆ ดีครับ เ็ป็นหนังที่คิดว่า คงไม่ได้ฉายในไทย เนื่องด้วยความยาวที่มาก และเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยจะขายความบันเทิงซักเท่าไหร่ แต่ความเป็นศิลปะในเรื่องนี้ มีอยู่ครับ หนังเรื่องต่อไปที่จะดู ก็คงเป็น 3:10 to Yuma ไม่ก็เรื่อง Dan in Real Life ครับ สำหรับวันนี้ ก็ราตรีสวัสดิ์ครับ Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2551 Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2551 22:00:12 น. 0 comments Counter : 502 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet