|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
7 เมษายน 2551
|
|
|
|
U2 3D (ตอนที่ 1)
เมื่อกว่า 20 ปีก่อน เป็นปีพ.ศ. 2531 (ค.ศ. 1987) หนุ่มน้อยร่างเพรียวคนนึง มีความฝันอย่างแรงกล้าในด้านดนตรี ได้ตั้งวงดนตรีกับเพื่อน พยายามหาเพลงมาเล่นกับเพื่อนๆ เขาเป็นนักฟังหลากหลายแนว หนึ่งในวงโปรดของเขาคือ U2 ผลงานของ U2 ในช่วงนั้น ช่วงที่ความสนุกในการเล่นดนตรีของเขายังเต็มเปี่ยมอยู่ ก็คืออัลบั้ม The Joshua Tree นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้จักผลงานของ U2
หลังจากนั้นไม่นาน มีผลงานใหม่ของ U2 ออกมา มีทั้งเทปและฉายในโรงหนัง และมีเป็นวิดีโอเทป VHS ด้วย หนุ่มน้อยคนนั้นได้ทำสถิติในการดูหนังซ้ำ ๆ เป็นครั้งแรกในชีิวิตของเขา นับครั้งประมาณได้ 4 -5 ครั้ง ผลงานนั้นคือ Rattle and Hum
เวลานับจากอดีตมาถึงปัจจุบัน 20 ปีผ่านมา หนุ่มใหญ่ร่างอวบ ผู้เลิกเล่นกีตาร์ไปนานหลายปีแล้ว แต่เขายังชื่นชอบผู้ที่มีฝีมือในการเล่นกีตาร์ และหนึ่งในวงโปรดที่ยังอยุ่ในใจเขาอย่างไม่ลืมเลือน ก็ยังเป็น U2
ปีนี้ ปีพ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) U2 ได้ปล่อยผลงานล่าสุดออกมา เป็นคอนเสิร์ตในรูปแบบ 3 มิติ (3 Dimension หรือ 3D) ใช้ชื่อง่าย ๆ ว่า U2 3D หนุ่มใหญ่แฟนประจำ U2 จึงไปดูด้วยความสนใจ และเขาได้มาแบ่งปันเล่าประสบการณ์ในการรับชม ให้พวกเราได้รับฟังกันครับ
"ตอนแรก พอผมเห็นคำว่า U2 3D มาอยู่ในโปรแกรมฉายหนัง ผมไม่รู้หรอกว่า มันคืออะไร จนผมไปอ่านบทสรุปเนื้อเรื่องนิดนึง ทำให้ทราบว่า เป็นคอนเสิร์ตแบบสามมิติ ในใจผมก็ยังสงสัยว่า มันจะเป็นยังไง จะ 3D กันแบบไหนกันนะ Bono จะร้องเพลงน้ำลายกระเด็นเป็นละอองฟองฟ่องล่องลอยกลางอากาศ แล้วเป็นภาพ slow motion หรือเปล่า แบบว่าเน้น 3D ไง The Edge จะเล่นกีตาร์แล้วเอากีตาร์มาแยง ๆ ตาคนดูหรือไม่ Larry Mullen Jr. จะทำไม้กลองหลุดแล้วลอยวิ้ง ๆ เข้าหาเราหรือไม่ Adam Clayton จะเดินเบสและเดินเข้าหากล้องหรือไม่ เพราะหนัง 3 D ที่เคยผ่านตามา ก็จะเป็นประมาณนี้ คือต้องมีวัตถุพุ่งเข้าหาคนดู ทำให้ผวาว่าจะโดนวัตถุนั่นชนเอา
ผมในฐานะแฟนเพลงผู้ชอบ U2 จึงหาเวลาไปดูจนได้ U2 3D ฉายในโรงที่ผมไม่เคยไปดูมาก่อน พอเลิกงานแล้ว ก็ต้องรีบหาทางไปที่โรงหนังนั่นให้ได้ทันเวลาฉาย แถมบัตรราคาแพงเอาการ เอาเป็นว่า คุณสามารถดูหนัง 3 - 4 เรื่องได้จากค่าตั๋วหนัง 3D นี้เรื่องเดียว
สภาพจอฉายหนังในโรงก็เป็นจอสีขาวที่มีความสูงมาก แต่ไม่กว้างเท่าไหร่ เบาะที่นั่งทำได้ดีครับ กว้าง นั่งสบาย พนักวางแขนสามารถเอาขึ้นลงได้ และคนที่นั่งหน้าเราไม่มีทางบังเราได้ นี่เป็นโรงหนัง IMAX โรงแรกที่ผมได้ไปดูเป็นครั้งแรกในชีวิต มีแว่น 3D ให้สวม แต่ก่อนออกจากโรง ก็ต้องคืนให้โรงด้วย (แต่บัตรแพงจัง )
ก่อนฉายหนัง ก็มีตัวอย่างหนัง 3D ให้ได้ชมกัน ผมจึงหาความแตกต่างว่า ถ้าใส่แว่น กับไม่ใส่แว่น จะเป็นยังไง ผลคือ ถ้าไม่ใส่แว่น ภาพจะเบลอ ๆ ครับ เหมือนไม่ได้โฟกัส แต่พอใส่แว่น 3D แล้ว ภาพจะมีความลึก มีระยะใกล้ไกล"
ชายหนุ่มผู้นั้น ขอตัวและบอกว่า ขอพักหยุดเหนื่อยก่อน และจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อในภายหลัง โปรดติดตามตอนต่อไปจากเขาในเร็ว ๆ นี้ครับ
Create Date : 07 เมษายน 2551 |
Last Update : 7 เมษายน 2551 23:33:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 393 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
Past Dweller |
|
|
|
|