เปรียบเทียบชัดๆ Public vs. Private Cloud ต่างกันยังไง


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โลกในยุคไอที 4.0 แบบนี้ เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่เทคโนโลยีเข้าไปผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วก็คือ เหล่าองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ได้หยิบประโยชน์ต่างๆ จากความทันสมัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรของตน

เทคโนโลยีหนึ่งที่ผู้ประกอบการทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่เริ่มนำมาใช้คือ ระบบ Cloud Computing ซึ่งเป็นบริการที่แบ่งปันพื้นที่ในการเก็บของมูลของผู้ให้บริการ ที่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการ Cloud ในรูปแบบใด วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับประเภทการบริการ Cloud ทั้ง 2 แบบ ซึ่งได้แก่บริการ Private Cloud และ Public Cloud  เพื่อให้เห็นจุดเด่นต่างๆ และประกอบการตัดสินใจ นำไปใช้กับองค์กรต่อไปในอนาคต

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ cloud

Private Cloud

โดยปกติแล้ว Private Cloud จะเป็นที่รู้จักใน Internal หรือ Enterprise Cloud ที่จะอยู่ในระบบ Intranet หรือ  Data Center ภายในของบริษัท ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Firewall

ซึ่ง Private Cloud ถือว่าเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมสำหรับองค์กรหรือบริษัทที่มี Data Center คุณภาพสูงเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เนื่องจากว่าจะสามารถใช้งาน Infrastructure ของตนได้เลย แต่ถึงกระนั้น Private Cloud ก็ยังมีข้อเสียอยู่นั่นก็คือ ในการใช้บริการ Private Cloud นั้น ในเรื่องของขั้นตอนการจัดการ การซ่อมบำรุงต่างๆ รวมไปถึงการอัปเดต Data Center ทั้งหมดจะตกเป็นภาระหน้าที่ของผู้ใช้บริการทันที นอกจากนั้นเมื่อนานวันเข้า เมื่อ Server ต่างๆ เสื่อมสภาพลง ทางผู้ใช้บริการก็ต้องปรับเปลี่ยน หรือต้องซื้อของใหม่มาแทนที่ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง แต่บริการ Private Cloud ก็ได้มีสิ่งที่มาทดแทนในเรื่องนี้ นั่นก็คือเรื่องของความปลอดภัยขั้นสูง ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวอย่างมากอีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่าแทบจะไม่มีการแชร์ทรัพยากรร่วมกับผู้ใช้รายอื่นเลย เหมาะสำหรับองค์กรที่มีข้อมูลที่เป็นความลับ หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในปริมาณมากนั่นเอง


Public Cloud

ข้อแตกต่างระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud ที่เห็นได้ชัดคือ ผู้ใช้บริการไม่ต้องแบกรับภาระเกี่ยวกับการจัดการ หรือการบำรุงรักษาใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลของผู้ใช้บริการจะถูกเก็บไว้ใน Data Center ของผู้ให้บริการ ซึ่งจะเป็นผู้ดูแลการจัดการ และการอัพเดตระบบต่างๆ ให้ โดยบริการ Public Cloud จะตอบโจทย์หลายๆ บริษัท โดยเฉพาะในกลุ่ม Start Up หน้าใหม่ที่ยังไม่มี Data Center เป็นของตัวเอง และยังมีเงินทุนไม่สูงพอที่จะใช้ Private Cloud นอกจากนั้น Public Cloud ยังสามารถช่วยลดความล่าช้าในการ Test และ Deploy Products ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การเลือกใช้บริการ Cloud ไม่ว่าจะรูปแบบใด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับองค์กรว่าจะเลือกใช้บริการรูปแบบใด ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวองค์กร




Create Date : 16 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2560 17:32:53 น.
Counter : 514 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3872753
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พฤศจิกายน 2560

 
 
 
1
4
5
9
10
11
12
18
19
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog