BlogGang.com : : Haniballector : อยากเป็นเด็กชาวคริสต์ในวันคริสมาสต์ ตอน 2

อยากเป็นเด็กชาวคริสต์ในวันคริสมาสต์ ตอน 2

ฮ่า ฮ่า เขียนตอนแรกแต่ดันเก็บเป็นดราฟ เพิ่งรู้ เลยเพิ่งเอาขึ้น ควันหลง ช้าหน่อย แต่กะเขียนไว้ให้ตัวเอง
และแล้ววันคริสมาสต์ก็มาถึง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กๆ ดีใจจนไม่กินข้าวเช้า ไอเดียคือปิดห้องนั่งเล่นและให้ทุกคนทานข้าวเช้ากันก่อน หลานสาว 8 ขวบตื่นเต้นจนแทบจะกลืนไข่คนหมดใน1นาที ลูกเราไม่รู้เรื่องรู้ราว คงมีแต่ไคที่พอจะเข้าใจเกี่ยวกับของขวัญจากซานต้า
อาหารเช้าบ้านนี้เหมือนเป็นธรรมเนียมคือ Hopewell bagles เบเกิ้ลถือเป็นอาหารเช้าของคนที่อาศัยอยู่นิวยอร์ค ขายกันดาษดื่น กินกับครีมซีส ดังกิ้นก็ยังขาย เราไม่กินหรอกเพราะแคลอรี่สูงมาก แต่ก่อนที่จะให้เข้าไหห้องนั่งเล่นคุณปู่ก็พาเด็กดูนอกหน้าต่างตรงลานบ้าน บอกว่าซานต้ามาแล้ว ดูสิมีขี้กวางเกลื่อนเลย (หมายเหตุ เป็นขี้แมวที่แม่สามีเลี้ยงไว้ที่บ้าน คุณปู่เอาไปวางเอง และเก็บเองหลังจากงานเลิก น่าสงสาร) และชี้ไปที่โต๊ะทานข้าวที่มีจานคุ๊กกี้เป็นเศษๆ บอกว่าแซนต้าทานคุ๊กกี้ด้วย (หมายเหตุ เป็นคุ๊กกี้ที่ข้าพเจ้าซื้อมาลองกินตกชิ้นละ 1 ดอลล์ ใจจริงอยากเก็บไว้ทานเองแต่เห็นว่ามันอร่อยเลยเอามาให้คนอื่นลองทาน แหม ถ้ารู้ว่าเอามาเล่นอย่างนี้ ตูเก็บกินเองดีก่า)

และแล้วนาทีที่ให้เด็กๆเข้าห้องนั่งเล่นไปดูของขวัญจากซานต้าก็มาถึง แน่นอนว่าปฎิกิริยาของเด็กโดยเฉพาะหลานสาวเธอกรี้ดสลบ ไค ตื่นเต้นมากกับของขวัญกองโต คีแก้นเฉยๆ วิ่งไปที่กองของไค ก็เปิดกันมันไปเลย
ในงานนี้มุมมองของเราว่ามันเข้าท่าดี ในการที่ใช้เรื่องซานตาคลอส ส่งเสริมให้เด็กเล็กๆมีพฤติกรรมทางบวก โดยเฉพาะยิ่งใกล้คริสมาสต์ แต่ละคนยิ่งเนี้ยบกันใหญ่ เปรียบเทียบกับที่ตัวเองสมัยเด็กๆที่ผู้ใหญ่เวลาใช้การปรับพฤติกรรมโดยการตี หรือหลอกให้กลัว (การลงโทษ) ไม่ใช่ว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้การลงโทษในการปรับพฤติกรรม วิธีการนี้ยังถือว่าคลาสสิคและได้ผล แต่มันให้ผลลัพท์ที่ออกมาสองด้าน และเป็นวิธีสุดท้ายที่เราจะแนะนำให้ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็ก เพราะสิ่งที่เค้าเรียนรู้คือความเจ็บปวดจากการลงโทษ ไม่ใช่เหตุผลที่โดนลงโทษ

ในช่วงคล้อยสายก็เริ่มจัดที่ทางสำหรับของขวัญ ธรรมเนียมบ้านนี้ก็แปลกอีกนั่นแหล่ะ เค้าจะเอาของขวัญที่ทุกคนจะให้กองไว้ให้คนๆนั้นและเปิดกันเลย แรกๆเราก็ไม่รู้ธรรมเนียมเพราะคนไทยพอเค้าให้ เราก็ขอบคุณและเอากลับมาเปิดที่บ้าน ธรรมเนียมต่างชาติคือเปิดกันซึ่งๆ หน้า ยิ่งถ้าคนรับแสดงอาการชื่นชอบมากๆ คนให้เค้าจะดีใจมาก ส่วนตัวก็ว่าดีนะ แต่มันกลายมาเจอปัญหาทีหลังที่ว่า ถ้าเราไม่ชอบของขวัญที่ได้ คนรับที่เมืองนี้เลยมีการคืนกันเป็นว่าเล่น ขนาดป้ายราคาที่เมซี่จะติดป้ายรับคืนพร้อมไปด้วย และช่วงหลังคริสมาสต์เค้ามีแถวแยกสำหรับคนเอาของมาคืนทีเดียว ดังนั้นตอนซื้อของขวัญให้ขอ Gift receipt แยกไว้

บ้านนี้ครอบครัวใหญ่ เลยใช้เวลานาน ในการเปิด แถมยังมี Stocking gift อีก มีการพักยกกินกลางวันด้วยพวกแอนตี้พ้าสโต้ จากนั้นแกะต่อ และทานข้าวเย็น จำไม่ได้แล้วว่ากินอะไร แต่รู้อย่างเดียวว่ากินเยอะ อ้อ ปีนี้พิเศษพ่อแม่น้องสะไภ้มาร่วมอาหารเย็นด้วย และเราทำซี้เค้กบลูแบรี่ ขายดี

ส่วนของขวัญที่เราชอบมากๆคงเป็นเตาย่างเนื้อไฟฟ้า ตอนแรกกะจะขอตอนวันเกิดป้าสามีรู้ เซอร์ไพส์ทีเดียว สามีให้แหวนเก่าแก่ที่เป็นโอปอลล้อมเพชร ไม่ค่อยเซอร์ไพส์หรอก เพราะเราบอกให้เค้าซื้อเก็บไว้ ให้เป็นสมบัติตระกูล (หมายเหตุ เพิ่งมาเริ่มสร้าง) ในภาคหน้าเผื่อลูกชายจะหมั้นสาวก็จะส่งต่อ ดูขลังดี อื่นๆก็ดี
ตอนเย็นก็เก็บของหลับบ้าน นอนท้องอึดอาหารไม่ย่อย
เทศกาลที่นี่กินกันบ้าคลั่งทีเดียว โดยเฉพาะของหวาน

Create Date : 04 มกราคม 2554

Last Update : 4 มกราคม 2554 8:43:26 น.

1 comments

Counter : 592 Pageviews.

แวะมาอ่านจร้าขออนุญาตฝากเว็บไว้ในอ้อมกอดน้อยๆด้วยนะครับ|เข้าชมเว็บ บิ๊กอายขอบคุณครับ

โดย: bigeye (tewtor

) วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:3:36:20 น.