Group Blog
 
<<
กันยายน 2559
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
2 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
ใจเจ๊ก บทที่ 10







นวนิยาย “ใจเจ๊ก”

โดย เดชา เวชชพิพัฒน์

บทที่ 10

“เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์อะไรจ๊ะหนู”

มารดาของกรองกาญจน์ถามหลังลูกสาวแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนสนิททั้งคู่เข้าบ้านหลังกินอาหารค่ำเสร็จลูกสาวเจ้าของบ้านพาเพื่อนสนิทเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นที่บิดาซื้อตั้งแต่เริ่มรับราชการผ่านประตูบ้านก็เจอห้องนั่งเล่นบรรยากาศอบอุ่นชุดรับแขกท่าทางนั่งสบายหุ้มด้วยผ้าฝ้ายสีงาช้าง โต๊ะกลางเป็นไม้เนื้อดีสีชาจีนตรงกลางมีโถแก้วใบใหญ่ใส่พลูด่างสีเขียวสดด้านหลังชุดรับแขกที่เป็นฝาบ้านมีชั้นหนังสือสองชั้นที่อัดแน่นด้วยนิยายตั้งแต่ชั้นล่างจนบนสุดด้านหน้าชุดรับแขกที่เป็นหน้าต่างมีตู้วางของขนาดสูงเท่าหัวเข่าบานเลื่อนกระจกใสมองเห็นชุดจานชามกระเบื้องเนื้อดี ท่าทางเก็บไว้นาน อาจเป็นของขวัญวันแต่งงานบนตู้มีโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ ซ้ายขวามีแจกันคู่ใส่ไผ่กวนอิมสีเขียวอ่อนสามีภรรยากำลังนั่งดูละครโทรทัศน์ หันมาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดเมื่อกรองกาญน์พาพรเพ็ญเดินเข้าไปไหว้ก็รับไหว้เพื่อนลูกสาวพร้อมกันพูดคุยไม่กี่คำมารดาของกรองกาญจน์ก็ถามเข้าประเด็น

พรเพ็ญบอกชื่อหนังสือพิมพ์ที่เธอทำงานออกไปอย่างพร้อมสังเกตท่าทางของบิดาและมารดาเพื่อนหากเป็นคนที่นิยมชมชอบพรรคการเมืองที่กำลังทำหน้าที่บริหารประเทศอยู่อย่างเข้าเนื้อละก็อย่างน้อยๆก็ต้องมีความไม่พอใจในแววตา อย่างมากก็อาจถึงขั้นไล่เธอออกจากบ้านในทันทีเพราะหนังสือพิมพ์ที่เธอเป็นนักข่าวอยู่นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจกับพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลอยู่ซึ่งพรเพ็ญก็รู้ดีว่าจริงๆแล้วหนังสือพิมพ์ที่เธอทำงานเป็นศัตรูกับรัฐบาลทุกพรรคก็ว่าได้เพราะไม่เคยเห็นดีเห็นงามกับการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดไหนเลยแม้แต่เรื่องเดียว

แต่แววตาของทั้งสองคนว่างเปล่า พรเพ็ญจึงถอนใจบางๆจัดพ่อแม่ของเพื่อนเป็นผู้สนใจข่าวสารบ้านเมืองระดับทั่วไปไม่ได้เป็นอย่างที่เธอหวั่นใจ หลังได้ยินเพื่อนสาวเล่าว่าชื่นชมนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

สงสัยพ่อแม่พูดไว้สิบ ยายแมวเอามาเล่าเป็นร้อยเป็นพัน

พรเพ็ญคิดก่อนกล่าวไปยิ้มประจบไปตามที่ตกลงไว้กับเพื่อนสนิท “หนูขอนอนค้างหนึ่งคืนนะคะ แล้วพรุ่งนี้จะขอพาแมวเข้ากรุงเทพด้วยค่ะ”

พ่อแม่ของกรองกาญจน์ขมวดคิ้วทันทีมีสีหน้าหน้าตรงกับที่เพื่อนสนิทของเธอพูดไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ...หวงฉันอย่างกับอะไรดี มีลูกสาวสวยฝุดๆก็แบบนี้แหละ

“เข้าไปทำไมจ๊ะ” แม่ของกรองกาญจน์ถามเสียงเข้มขณะที่พ่อมองเขม็ง

พรเพ็ญตอบอย่างแนบเนียน “เพื่อนสนิทอีกคนจะแต่งงานค่ะต้องการคนไปช่วยหลายๆเรื่องเลยค่ะ ก่อนวันงานก็ต้องโทรตามเพื่อนมางาน แต่ละคนตามยากตามเย็นอย่างกับอะไรดีใกล้วันงานก็ต้องเตรียมโน่นเตรียมนี่ ทั้งพิธีในตอนเช้าและงานเลี้ยงตอนค่ำเพื่อนคนนี้ขี้เกรงใจด้วยค่ะ จึงขอแค่สองคนเท่านั้นที่มาช่วยงานงานนี้แมวคงต้องอยู่กรุงเทพสองสัปดาห์เป็นอย่างต่ำ”

“เพื่อนคนที่จะแต่งงานชื่ออะไรจ๊ะ”

“ชื่อมะปรางค่ะ” พรเพ็ญโกหกด้วยการใช้ชื่อเพื่อนร่วมงาน

มารดากรองกาญจน์ขมวดคิ้ว “เอแม่ไม่คุ้นหูชื่อนี้เลยนะ”

กรองกาญจน์รีบกล่าว “แหมคุณแม่จะให้หนูเล่าเรื่องเพื่อนหมดทุกคนได้ไงคะ คนน่ารักอย่างหนูมีเพื่อนเยอะแยะ”

“แล้วแม่มะปรางแต่งกับใครจ๊ะ”

“แต่งกับคนสิคะคุณแม่ขา” กรองกาญจน์ตอบแทนแบบที่ทำให้พรเพ็ญต้องพยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ

มารดาทำตาเขียวใส่ลูกสาว พรเพ็ญจึงรีบตอบแทน “ทราบมาว่าแฟนเขาเป็นเพื่อนร่วมงานค่ะ พวกหนูเองก็ไม่เคยเจอส่วนใหญ่เป็นแบบนี้แหละค่ะ พอเรียนจบแล้วทำงานก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน กว่าจะได้เจอกันอีกทีก็งานแต่งแบบครั้งนี้แหละค่ะ”

ผู้อาวุโสพยักหน้าช้าๆอย่างเห็นด้วย สองสาวเห็นแล้วลอบถอนใจ

“แล้วแกจะพักที่ไหน” พ่อของกรองกาญจน์ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

พรเพ็ญรีบตอบแทนเพื่อน “ที่บ้านหนูค่ะขอพ่อแม่แล้ว ท่านอนุญาตค่ะ”

“อยู่แถวไหน” คุณพ่อผู้หวงลูกสาวถามต่อด้วยน้ำเสียงแบบเดิม

พรเพ็ญรู้สึกราวกับขึ้นศาลแล้วถูกทนายฝั่งตรงข้ามซักถามแต่ฝืนยิ้มแล้วตอบออกไป

ผู้อาวุโสพยักหน้าช้าๆก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มหูขึ้นเล็กน้อย “อยู่แถวชานเมืองใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

“หนูมีน้องชายหรือพี่ชายไหม อยู่บ้านหลังนี้ด้วยหรือเปล่า”

พรเพ็ญงงกับคำถามนี้จนทำให้กรองกาญจน์ตอบแทนด้วยเสียงสูง “คุณพ่อขา ถามแบบนี้น่าเกลียดนะคะเพื่อนหนูไม่ได้มีพี่ชายหรือน้องชายเป็นพวกโรคจิตชอบข่มขืนนะเจ้าคะ”

พรเพ็ญฟังแล้วพยายามตีหน้าตายและกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถเป็นครั้งที่สองแต่ผู้ให้กำเนิดทั้งคู่ไม่เห็นขำ มารดาดุลูกสาวทันที “แกไม่ต้องยุ่ง”

พรเพ็ญจึงตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “หนูมีน้องชายหนึ่งคนค่ะ แต่เสียชีวิตแล้ว”

พ่อแม่ของกรองกาญจน์อึ้ง ไม่กี่วินาทีทั้งคู่ก็พยักหน้า

“ให้ไปก็ได้ แต่พ่อขอบัตรประชาชนของหนูมาจดที่อยู่หน่อย” เขากล่าวกับพรเพ็ญราวนายทหารสั่งพลทหารแล้วหันไปทางลูกสาว “แล้วถ้าพ่อโทรหาแก แกไม่รับสายหรือไม่โทรกลับละก็พ่อจะเข้ากรุงเทพไปลากตัวแกกลับมาทันที”

“ยินดีค่ะ” พรเพ็ญกล่าวแล้วดึงสายกระเป้าเป้หลังเพื่อนเลื่อนให้มาอยู่ด้านหน้าเปิดปากเป้แล้วล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาดึงบัตรประชาชนออกมายืนให้ผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม พร้อมนึกสนุก ... นังแมวเอ๋ยฉันมีเรื่องเด็ดของแกไปเล่าให้เพื่อนๆฟังแล้ว งานนี้ได้ขำกันกลิ้งแน่ๆคุณพ่อคุณแม่หวงลูกสาวราวกับเป็นนางงามจักรวาล

ด้วยเหตุนี้ เช้าวันรุ่งขึ้นสามีภรรยาจึงตื่นมาส่งลูกสาวและเพื่อนด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้นไม่เครียดกังวลเช่นเมื่อวานตอนค่ำ อย่างน้อยก็วางใจว่าลูกสาวไปกับเพื่อนที่ดีนอกจากมีงานทำเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ยังจัดเป็นฐานันดรที่สี่อีกด้วยเป็นอาชีพที่มีมาตรฐานทางความคิดและการปฏิบัติตัวที่สูงกว่าคนทั่วไปแม้ติดใจว่าเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีนโยบายการเสนอข่าวไม่ค่อยถูกใจทั้งคู่แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในการปกครองแบบประชาธิปไตย สื่อมวลชนสามารถเสนอข่าวได้อย่างไร้ข้อจำกัดโดยไม่เอะใจแม้แต่น้อยว่าถูกลูกสาวตัวดีกับเพื่อนสนิทปั้นน้ำเป็นตัวให้ดู

ทันทีที่เพื่อนขับรถพ้นบ้านลูกสาวตัวดีก็ลิงโลดราวกับถูกชายในฝันขอแต่งงาน

“กรี๊ดค่ะ แมวขอกรี๊ดค่ะ”

กรองกาญจน์ร้องลั่นรถพร้อมทำท่าเต้นราวกับอยู่ในผับ

พรเพ็ญยิ้มบางๆก่อนปราม“น้อยๆหน่อยแม่คุณ เดี๋ยวคนแถวนี้จะนึกว่าฉันกำลังพาคนบ้าไปส่งโรงพยาบาล”

“เธอไม่รู้หรอกว่าฉันดีใจแค่ไหนเหมือนนักโทษพ้นคุกพ้นตะรางไม่มีผิดเลยทีเดียวเชียว” กรองกาญจน์กล่าวพร้อมหยุดเต้นเพราะเห็นคนรู้จักเดินสวนมาและมองจ้อง

พรเพ็ญเห็นด้วยแต่เก็บไว้ในใจเพราะเป็นบุพการีของเพื่อนสนิทได้แต่คิดอย่างหวั่นใจ หากเธอมีพ่อแม่แบบนี้ อย่าว่าแต่ทำงานเป็นนักข่าวที่ต้องเสี่ยงภัยการเมืองเลยแค่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันก็คงไม่อาจทำได้

“เธอยังไม่เจองานที่ถูกใจบ้างเลยเหรอ”

พรเพ็ญถามกรองกาญจน์ตามวิธีแก้ปัญหาที่เคยพูดคุยกันอย่างน้อยการทำงานก็ช่วยลดเวลาที่ต้องอยู่กับพ่อแม่ผู้เข้มงวด เรื่องหางานทำในกรุงเทพฯนั้นไม่ต้องพูดถึงพ่อแม่ของกรองกาญจน์ไม่ยอมอย่างเด็ดขาดไม่ยอมให้ลูกสาวอยู่ห่างตาในเมืองที่เต็มไปด้วยโจรผู้ร้ายมีข่าวอาชญากรรมวันละหลายข่าว ส่วนงานในจังหวัดก็มีแต่งานราชการกับงานโรงงานกรองกาญจน์ปฏิเสธทำงานราชการอย่างเด็ดขาด เธอให้เหตุผลว่าละอายใจที่กินเงินจากภาษีแต่ไม่สามารถทำงานให้คุ้มค่าได้รู้ดีว่าระบบราชการยังคงเป็นแบบเช้าชามเย็นชามอย่างเหนียวแน่นเธอเข้าไปทำงานก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

ส่วนงานโรงงานนั้นเธอเคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบุคคลโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แต่ทำได้ไม่นานเพราะมีปัญหากับเจ้านายที่บังคับให้พนักงานทุกคนซื้อเสื้อลายดอกไม้ในช่วงสงกรานต์ราคาเสื้อแพงกว่าท้องตลาดถึงหนึ่งร้อยกว่าบาทแน่นอนว่าผู้ได้รับผลประโยชน์จากส่วนเกินนี้คือเจ้านายของเธอเมื่อเธอฟ้องเจ้าของโรงงานที่เป็นชาวต่างประเทศ เรื่องกลับหายเข้ากลีบเมฆรู้ภายหลังว่าเป็นเพราะทั้งคู่ถูกคอกันเป็นพิเศษในเรื่องเที่ยวผู้หญิงทำนองว่าเจ้านายเธอเป็นผู้หาสาวสวยมาเสนอ นายชาวต่างประเทศเป็นผู้รับสนองเธอจึงลาออกด้วยความรู้สึกขยะแขยง

“หูย หายากพอๆกับหาผู้ชายแท้ๆสักคน” กรองกาญจน์ตอบแบบครอบคลุมทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

“แหม ใครจะโชคดีไม่หมดทุกเรื่องละจ๊ะเธอโชคดีมีพ่อแม่รักและหวงขนาดนี้ก็ต้องมีโชคร้ายปนบ้างเป็นของธรรมดา”

“ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนี่ ทั้งเรื่องงานเรื่องผู้ชาย ไม่เห็นแคร์เลยในเมื่อมีเพื่อนดีๆอย่างเธอทั้งคน แสดงละครเก่งอีกต่างหาก หลอกพ่อแม่ฉันได้เนี้ยนเนียน”

พรเพ็ญตาโต “อ้าวนังนี่ แทนที่จะขอบอกขอบใจกลับมาด่าฉันอีก เดี๋ยวเถอะ”

กรองกาญจน์หันมาไหว้เพื่อนอย่างนอบน้อมราวกับไหว้ปู่ย่าตายาย“ขอบคุณนะคะคุณพรเพ็ญที่ทำให้ดิฉันได้ไปร่วมม็อบกับเขาสักที”

พรเพ็ญยิ้มบางๆก่อนกล่าวอย่างเป็นงานเป็นการ“ระวังตัวด้วยนะ เหตุการณ์มันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแกเป็นอะไรไปพ่อแม่แกเอาฉันตายแน่”

“อุ๊ย ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเอาตัวรอดได้”

“อย่าประมาทนะ ฉันขอเตือน”

“เหมือนน้องผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม” กรองกาญจน์หมายถึงสตรีวัยเยาว์คนหนึ่งที่ร่วมชุมนุมหน้ารัฐสภาในปี2551 แล้วเสียชีวิตขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการสลายม็อบ

“นั่นแหละ”

“แต่ฉันไม่กลัว ตายก็ตายสิ เกิดมาก็ต้องตายทุกคน ช้าหรือเร็วเท่านั้นแหละที่สำคัญคือไม่ได้ตายเพราะเรื่องอื่น แต่ตายเพื่อชาติ” กรองกาญจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนพรเพ็ญหวั่นใจแน่นอนว่าเธอเองก็คิดเหมือนเพื่อน ทุกคนล้วนต้องตายเช่นเดียวกันแต่ตายแบบไหนจึงสมกับที่เกิดมาทว่าเธอไม่อยากให้เพื่อนผู้น่ารักคนนี้จากไปก่อนเวลาอันควรจึงเบี่ยงประเด็นให้เพื่อนเห็นใจ

“แกตายไปฉันก็ตายตามไปด้วย ถูกพ่อแม่แกเอาตายฐานรู้เห็นเป็นใจ”

กรองกาญจน์หัวเราะดังลั่นรถ“ฮ่าๆ เจอกับตัวเองแล้วเข้าใจละสิว่านกน้อยที่ถูกขังอยู่ในกรงทองอย่างฉันน่ะทรมานใจเพียงใด”

พรเพ็ญยิ้มบางๆก่อนกล่าวอย่างมีนัยพาดพิงอดีตนายกรัฐมนตรี “ถูกขังกรงดีกว่าต้องไปร่อนเร่ในต่างประเทศนะเธอ”

กรองกาญจน์ค้อนขวับ“นี่ อย่าเอาฉันไปเปรียบไปอีตานั่นนะ โกรธนะยะ”

“โกรธทำไมยะ เปรียบกับมหาเศรษฐีหลายแสนล้านเชียวนะ”

“แล้วเป็นไงล่ะ มีความสุขน้อยกว่าขอทานอีก”

“ขนาดนั้นเชียว”

“อ้าว ฉันว่าใช่นะ คิดดูสิเป็นขอทานยังมีความสุขกว่าอีกมีกินบ้างไม่มีกินบ้างแต่ไม่มีเรื่องร้อนใจแม้แต่นิดเดียว”

พรเพ็ญพยักหน้าช้า“จริงของเธอ คนเรานะเรื่องใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด สำคัญกว่าปากท้องอีก”

“ถามจริง ถ้าเธอเป็นเขาเธอจะทำอย่างไร”

พรเพ็ญทำท่าคิดครู่เดียวก็กล่าว“ถ้าฉันเป็นเขาเหรอ อืม ฉันว่าฉันคงยอมรับผิดตั้งแต่แรกแล้วล่ะ”

“ยอมติดคุกติดตะรางน่ะเหรอ”

พรเพ็ญพยักหน้า“ยอมสิ เธออย่าลืมนะว่าตอนนั้นคนไทยนิยมชมชอบเขามากเพียงใดตัวเขาเองก็มีอำนาจมากเพียงใดทั้งคนในรัฐบาลและคนในหน่วยงานราชการน่ะพวกเขาทั้งนั้นแค่ยอมรับผิดไปตามคดีได้ไม่นานก็สามารถกลับมามีอำนาจเหมือนเดิมไม่ต้องลำบากเหมือนทุกวันนี้”

“ลำบากอะไรยะ นอนแต่โรงแรมหรู” กรองกาญจน์กล่าวเสียงประชด

พรเพ็ญพยักหน้า“ไม่มีที่ไหนเหมือนที่บ้านหรอกให้เลือกระห่างนอนโรงแรมคืนละแสนกับนอนที่บ้าน เธอว่าฉันเลือกอะไร”

“เลือกโรงแรมสิยะ คืนละตั้งแสน”

พรเพ็ญยิ้มชอบใจ“แหม รู้ใจจริงนะเธอ แต่ขอนอนอย่างมากก็เดือนเดียวพอนะ พักร้อนเสร็จก็กลับไปนอนบ้านอยู่กับพ่อแม่ไม่ใช่นอนเป็นปีๆ”

“แต่พ่อแม่ฉันไม่คิดแบบนี้นะท่านบอกว่าคนเก่งๆเข้มแข็งแบบอดีตนายกรัฐมนตรีน่ะ เรื่องแค่นี้ถือว่าจิ๊บจ๊อยผู้นำประเทศตั้งหลายคนที่ต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศโน้นประเทศนี้แต่ในที่สุดก็ได้กลับแผ่นดินเกิด กลับอย่างผู้ชนะเสียด้วย”

พรเพ็ญยักไหล่“มีคนไทยจำนวนมากที่ยังชื่นชอบอดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้”

“ฉันเองยังเคยชื่นชอบเขาเลย ตั้งแต่เล่นการเมืองใหม่ๆเชียวล่ะเห็นว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ น่าจะแก้ปัญหาปากท้องให้แก่คนไทยได้และที่สำคัญคือรวยล้นฟ้าขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องการทรัพย์สินเงินทองอะไรอีกนอกจากผลงานที่ทำให้คนไทยยกย่องชมเชย”

พรเพ็ญเบะปาก “แล้วเป็นไงล่ะ”

กรองกาญจน์ทำจมูกย่น“เป็นแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ไง คนไทยแบ่งเป็นสองฝ่ายเคยอยู่กันอย่างสงบสุขจนประเทศอื่นๆอิจฉากลับต้องมาต่อสู้กันเอง แหม ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอยากไปร่วมม็อบเร็วๆขับซิ่ง กว่านี้หน่อยได้ไหมยะ”

พรเพ็ญค้อนเพื่อนสนิทแต่เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วอีกนิดเธอเองก็อยากถึงกรุงเทพฯเร็วๆ เพราะคิดถึงงาน




Create Date : 02 กันยายน 2559
Last Update : 3 กันยายน 2559 9:07:15 น. 1 comments
Counter : 614 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:08:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dejaboo44
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dejaboo44's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.