|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปฎิจจสมุปบาท เป็นเรื่องลึกซึ้ง เท่ากับเรื่องนิพพาน
ปฎิจจสมุปบาท เป็นเรื่องลึกซึ้ง เท่ากับเรื่องนิพพาน
..........ดูก่อนราชกุมาร! ความคิดข้อนี้ได้เกิดแก่เราว่า "ธรรมที่เราบรรลุแล้วนี้เป็นธรรมอันลึก สัตว์อื่นเห็นได้ยาก ยากที่สัตว์อื่นจะรู้ตาม เป็นธรรมระงับและประณีตไม่เป็นวิสัยที่จะหยั่งลงง่าย ๆ แห่งความตรึก เป็นของละเอียด เป็นวิสัยรู้ได้เฉพาะบัณฑิต.ก็สัตว์เหล่านี้ มีอาลัยเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในอาลัย เพลิดเพลินแล้วในอาลัย;สำหรับสัตว์ผู้มีอาลัยเป็นที่มายินดี ยินดีเพลิดเพลินในอาลัยนั้น ยากนักที่จะเห็นสิ่งนี้ คือ ปฏิจจสมุปบาท กล่าวคือความที่สิ่งนี้ ๆ เป็นปัจจัยแก่สิ่งนี้ ๆ (อิทปฺปจฺจยตาปฎิจฺจสมุปฺปาโท); และยากนักที่จะเห็นแม้สิ่งนี้ คือนิพพาน อันเป็นธรรมเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง เป็นธรรมอันสลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความจางคลาย เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์. หากเราพึงแสดงธรรมแล้วสัตว์อื่น ไม่พึงรู้ทั่วถึง ข้อนั้นจักเป็นความเหนื่อยเปล่าแก่เรา, เป็นความลำบากแก่เรา".
.......... โอ,ราชกุมาร! คาถาอันน่าเศร้า (อนจฺฉริยา) เหล่านี้ ที่เราไม่เคยฟังมาแต่ก่อน ได้ปรากฏแจ่มแจ้งแก่เราว่า:-
"กาลนี้ ไม่ควรประกาศธรรมที่เราบรรลุได้แล้วโดยยาก. ธรรมนี้ สัตว์ที่ถูกราคะโทสะปิดกั้นแล้ว ไม่รู้ได้โดย ง่ายเลย. สัตว์ผู้กำหนัดแล้วด้วยราคะอันความมืด ห่อหุ้มแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันไปทวนกระแส อันเป็น ธรรมละเอียด ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก เป็นอณู" ดังนี้.
ยังมีอีกสูตรหนึ่ง๑ ซึ่งมีเนื้อความเหมือนกันกับข้อความข้างบนนี้ แต่เป็นคำกล่าวของพระพุทธเจ้าวิปัสสี นำมาตรัสเล่าโดยพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ดังต่อไปนี้
..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ได้ทรงพระดำริว่า "ถ้าอย่างไร เราพึงแสดงธรรมเถิด" ดังนี้.
..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ได้ทรงพระดำริอีกว่า "ธรรมที่เราบรรลุแล้วนี้ เป็นธรรมอันลึก สัตว์อื่นเห็นได้ยาก ยากที่สัตว์อื่นจะรู้ตาม เป็นธรรมระงับและปราณีต ไม่เป็นวิสัยที่จะหยั่งลงง่ายๆแห่งความตรึก เป็นของละเอียด เป็นวิสัยรู้ได้เฉพาะบัณฑิต. ก็สัตว์เหล่านี้ มีอาลัยเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในอาลัย เพลิดเพลินแล้วในอาลัย; สำหรับสัตว์ผู้มีอาลัยเป็นที่มายินดี ยินดีเพลิดเพลินในอาลัยนั้น ยากนักที่จะเห็นสิ่งนี้ คือ อิทัปปัจจยตาปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาทกล่าวคือความที่สิ่งนี้ ๆ เป็นปัจจัยแก่สิ่งนี้ ๆ); และยากนักที่จะเห็นแม้สิ่งนี้ คือนิพพาน อันเป็นธรรมเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง เป็นธรรมอันสลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความจางคลาย เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์. หากเราพึงแสดงธรรมแล้ว สัตว์อื่นไม่พึงรู้ทั่วถึง ข้อนั้นจักเป็นความเหนื่อยเปล่าแก่เรา, เป็นความลำบากแก่เรา" ดังนี้
..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ได้ยินว่า คาถาอันน่าเศร้า (อนจฺฉริยา) เหล่านี้ซึ่งพระองค์ไม่เคยสดับมาแต่ก่อน ได้แจ่มแจ้งกะพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ดังนี้ว่า
"กาลนี้ ไม่ควรประกาศธรรมที่เราบรรลุได้แล้วโดยยาก. ธรรมนี้ สัตว์ที่ถูกราคะโทสะปิดกั้นแล้ว ไม่รู้ได้โดย ง่ายเลย. สัตว์ผู้กำหนัดแล้วด้วยราคะ อันความมืด ห่อหุ้มแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันไปทวนกระแส อันเป็น ธรรมละเอียด ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก เป็นอณู" ดังนี้.
Create Date : 23 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 23 สิงหาคม 2553 17:59:51 น. |
|
11 comments
|
Counter : 634 Pageviews. |
|
|
|
โดย: pim blog ***** IP: 125.26.92.156 วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:20:37:24 น. |
|
|
|
โดย: Chulapinan วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:12:27:26 น. |
|
|
|
โดย: Zen Entania วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:10:53:18 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:11:16:58 น. |
|
|
|
โดย: อะไรกัน 0-> IP: 192.168.1.57, 61.7.186.200 วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:14:41:39 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:12:41:23 น. |
|
|
|
โดย: Thank a lot วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:21:29:16 น. |
|
|
|
โดย: อะไรกัน o-> IP: 118.174.191.249 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:1:10:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|