Group Blog
 
 
เมษายน 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
29 เมษายน 2558
 
All Blogs
 

เพลิงแค้นแดนเถื่อน บทนำ

บทนำ

ชลกรรู้สึกปวดแปลบที่ข้อเท้า อาจเกิดจากการที่วิ่งสะเปะสะปะอย่างไร้สติพุ่งตรงเข้าป่ารกและสะดุดก้อนหินล้มถึงสามครั้งและตอนนี้อาการเจ็บกำลังเป็นอุปสรรคอย่างหนักเมื่อต้องประคองเอาร่างเล็กที่เกือบไร้สติของน้องสาวไว้กับอกอีกด้วย

“น้ำ ฟังพี่ น้ำต้องตื่นนะพยายามเดินหน่อยพี่อุ้มเธอไม่ไหว” ชลกรกระซิบบอกน้องสาว

น้ำหรือชลกมลเป็นเด็กสาวอายุสิบแปดปีที่เพิ่งจับมัธยมปลายครอบครัวเกียรติธำรงมาพักที่เกาะสายแห่งนี้ก็เพื่อฉลองความสำเร็จของหล่อนที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ใครจะนึกว่าการพักผ่อนในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขเช่นนี้จะเปลี่ยนเป็นหายนะราวกับอยู่ในนรกไปได้

ชลกมลเป็นเด็กสาวเรียบร้อยร่าเริงหล่อนหัวอ่อนและมีอารมณ์ขัน ชอบทางศิลปะทั้งการแสดงร้องเพลงเต้นรำ ซึ่งต่างจากชลกรโดยสิ้นเชิงน้องสาวคนนี้เป็นคนจิตใจดีชอบช่วยเหลือคนและมักทุกข์ร้อนกับความทุกข์ของคนรอบข้างเสมอหล่อนเป็นสาวน้อยที่หน้าตาสวยงามหมดจดและมีความดีงามจากหัวใจจนทำให้ชลกรที่ค่อนข้างดุและกร้าวกระด้างกลับอ่อนโยนกับหล่อนเสมอเช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่นของครอบครัวที่เห็นว่าชลกมลคือสมบัติล้ำค่าและจะไม่มีวันยอมให้ชลกมลถูกไอ้สัตว์นรกพวกนั้นย่ำยีอย่างเด็ดขาด

สาวน้อยในอ้อมแขนกำลังใกล้จะหมดสติเพราะถูกนางงูพิษที่ครอบครัวของหล่อนไว้เนื้อเชื่อใจแว้งกัดเข้าให้ไม่เฉพาะชลกมลที่ถูกวางยาแม้แต่แก้วกานต์มารดาของเธอก็ถูกนังผกาฆ่าตายไปแล้วเช่นกัน

...นังผกา แววตาของชลกรกร้าวกระด้างขึ้นอย่างช่วยไม่ได้แม้จะไม่ใช่คนพูดจาหยาบคายแต่หล่อนจะเรียกนางอย่างนั้นเพื่อให้สาสมกับจิตใจโสมมต่ำช้าอีผกา นังหญิงคนชั่ว หล่อนสาปส่งสบถอยู่แค่ในใจ

นางคนชั่วนั้นเข้ามาทำงานกับครอบครัวได้ราวครึ่งปีในคราบนักบุญผู้มีหน้าที่ดูแลพยาบาลมารดาของชลกรซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ นางทำตัวให้ทุกคนไว้ใจสุดท้ายก็กลับแว้งกัดเอาอย่างเจ็บแสบแก้วกานต์และชลกมลนั้นตกเป็นเหยื่อความหน้าซื่อใจคดของนางเข้าเต็มๆในขณะที่ชลกรและบิดารู้สึกแปลกตากับท่าทีของนางแต่แรก

“คนพูดจาหวาน ยิ่งหวานมากเท่าไรยิ่งให้ต้องระวังนะชล”

พันตำรวจเอกชรัสนายตำรวจมือปราบผู้เป็นบิดาเคยบอกไว้กับชลกร

“มันเป็นสัญญาณอันตรายว่าเขาไม่จริงใจกับเราหรืออาจกำลังปกปิดบางสิ่งอยู่”

“แบบนี้คนพูดจากระด้างอย่างชลก็ต้องจริงใจกว่าน้ำสิคะคุณพ่อ ทำไมชลโดนคุณแม่เอ็ดเอาตลอดเลยล่ะคะ” หล่อนย้อนถามท่านบิดาหัวเราะเสียงดังก่อนจะจับศีรษะเธอโยกเบาๆ อย่างรักใคร่

อุปนิสัยของบุตรสาวทั้งสองของรองชรัสต่างกันอย่างเห็นได้ชัดชลกรเป็นลูกพ่อ ส่วนชลกมลนั้นถอดแม่มาทุกกระเบียดนิ้ว แม้จะอายุต่างกันเพียงห้าปีแต่ชลกรเป็นผู้ใหญ่กว่าและตัดสินใจทุกอย่างในบ้านแทนบิดาได้อย่างเด็ดขาดแทบทุกเรื่อง

“น้ำน่ะน่าเอ็นดูเป็นลูกที่น่ารัก ส่วนชลเป็นลูกที่พ่อแม่ภูมิใจอย่างที่สุด”

ท่านมีวิธีพูดให้หล่อนยิ้มแก้มปริได้เสมอ ตั้งแต่เล็กจนโตชลกรไม่เคยอิจฉาน้องตรงกันข้ามหญิงสาวตระหนักอยู่เสมอว่าต้องดูแลชลกมลอย่างดีเช่นเดียวกับที่บิดาดูแลสมาชิกในครอบครัว และหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้เพิ่งจะถูกบิดากำชับสั่งเมื่อไม่ถึงยี่สิบนาทีที่ผ่านมานี้เอง

“ชลพาน้องไปหนีไปให้ไกลถ้าเจอบ้านคนให้พยายามหาที่ซ่อน รอจนเช้าค่อยออกไปขอความช่วยเหลือพ่อจะล่อมันไว้ถ่วงเวลาไว้ก่อน หรือถ้าทำได้จะซุ่มยิงมันชลจะได้ไม่ถูกลูกหลงไปด้วย”

แววตาของบิดาเต็มไปด้วยความกังวลใบหน้ามีริ้วรอยเครียดเคร่งแต่ก็นับว่าดีมากแล้วสำหรับชายผู้หนึ่งที่ต้องทนมองหญิงอันเป็นที่รักสิ้นใจตายไปต่อหน้า

ชลกรยังจำสีหน้าและแววตาของผกาได้ดีมันเหี้ยมเกรียมเลือดเย็นจนขนลุกเกรียวไปทั้งร่างดวงตาของนางแห้งแล้งไร้วิญญาณขณะแสยะยิ้มมองคุณแก้วกานต์ที่ดิ้นพราดอยู่แทบเท้ามารดาของหล่อนสะอึกขึ้นอีกครั้งก่อนจะแน่นิ่งไปชลกรรู้ดีว่าท่านเสียชีวิตแล้วในตอนนั้นด้วยอาการหัวใจล้มเหลวทั้งที่เม็ดยาที่จะช่วยยื้อชีวิตท่านอยู่ห่างออกไปแค่เอื้อมมือ ผกาใช้เท้าเขี่ยมันให้ไกลออกไปอีกปล่อยให้มารดาของหล่อนตะเกียกตะกายอย่างทรมานก่อนสิ้นใจ

“จะโทษก็ต้องโทษผัวของแกที่ไม่รู้จักละเว้นมันฆ่าครอบครัวของฉันเสียเกลี้ยงทั้งพ่อแม่พี่ชายและไหนจะน้องชายเขาอายุเพิ่งเจ็ดขวบแท้ๆถูกกระสุนเข้าที่หน้าผากนี่” นางกระชากเสียงชี้นิ้วไปที่หน้าผากของมารดาตามด้วยการใช้เท้าเตะเข้าไปที่ร่างซึ่งแน่นิ่งอยู่กับพื้น

“พวกมึงต้องตายทั้งครอบครัวลูกเมียของมึงไอ้ชรัสกูจะฆ่าให้หมดทั้งโคตร”

ผกากรีดเสียงร้องราวกับคนบ้าลูกน้องของนางต้องช่วยกันห้ามปรามให้สงบสติ ชลกรซึ่งเห็นภาพนั้นกับตาก็ถึงกับสติหลุดลอยหล่อนถูกพ่อปิดปากไว้จึงไม่ได้ร้องกรี๊ดออกมา

ท่านลากหล่อนออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบพาไปยังห้องครัวด้านหลังที่ซึ่งชลกมลถูกพ่อเรียกให้ลุกจากเตียงขึ้นมารอแล้วน้องสาวของหล่อนงัวเงียคอตกไม่ใช่อย่างคนง่วงนอนแต่คล้ายถูกวางยา

“ไปก่อน เราช่วยแม่ของลูกไว้ไม่ได้แล้ว” ชรัสตัดใจ เขาประคองชลกมลลุกขึ้นสอดมือเข้ารั้งเอวของบุตรสาวคนเล็กสั่งให้ชลกรที่ยังตกใจประคองน้องอีกข้างเมื่อกวาดตามองซ้ายขวาไม่เห็นพวกมันอยู่แถวนั้น ก็ออกแรงฉุดกึ่งลากบุตรสาวทั้งสองมุ่งสู่ป่าด้านหลังของตัวบ้านเขาวิ่งและวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเช่นเดียวกับชลกรที่ทำตามพ่อราวหุ่นยนต์

ชายสูงวัยพาบุตรสาวหนีเข้าป่าหญ้าสูงและมีไม้ใหญ่เป็นที่อำพรางได้ดีแต่คงไม่ใช่ที่ซ่อนที่ดีที่สุดหากมันออกตามหาจะอย่างไรก็ต้องเจอ ในตอนนั้นเองที่เขาตัดสินใจได้ว่าต้องมีใครสักคนล่อพวกมันไว้มือที่กระชับอาวุธปืนนั้นชุ่มด้วยเหงื่อชรัสข่มความปวดร้าวที่พลุ่งแรงราวกับระลอกคลื่นที่อยู่รายรอบมันเป็นความเจ็บปวดเจียนตายที่ต้องทนมองภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากทรมานจนสิ้นใจตายไปต่อหน้าโดยไม่อาจช่วย

“พ่อขาแต่ว่าถ้าช่วยกันอาจจะปั๊มหัวใจขึ้นมาได้ เราจะช่วยแม่”

ชลกรเพิ่งพูดได้ตาหล่อนลอยคว้างคล้ายยังไม่รับความจริง

“พวกมันมีมากชลพ่อยอมเสียลูกทั้งสองไม่ได้อีก”

หากมันจะฆ่าเขาและสาวน้อยทั้งสองให้ตายตกไปตามกันชรัสย่อมไม่กลัวแต่เชื่อแน่เหลือเกินว่าพวกมันจะไม่ยอมให้ง่ายเพียงนั้นสาวน้อยวัยแรกผลิงดงามจับตาทั้งยังเป็นดั่งแก้วตาดวงใจคงถูกพวกมันย่ำยีเสียจนแหลกราญคามือ...นั่นเป็นสิ่งที่เขายอมไม่ได้

“ถ้าชลรอดไปได้ บอกกับมงคลว่านังผกากับไอ้เผด็จมันกลับมาแก้แค้นพ่อมงคลเขารู้ดีว่าต้องทำยังไง ...แต่ถ้าชลไปไม่รอด”ดวงตาของอดีตสารวัตรมือปราบแดงก่ำเจ็บช้ำขณะส่งปืนกระบอกเล็กให้กับบุตรสาว

“ชลรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไร”

ชลกรคอแห้งผากหล่อนเข้าใจความหมายนั้นดี...อยู่อย่างไร้เกียรติไม่สู้ตายไปเสียดีกว่าหล่อนเป็นลูกพ่อ พ่อซึ่งเป็นนายตำรวจมือปราบตงฉินที่ไม่เคยเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมจะทนอยู่ให้พวกมันหยามได้อย่างไร

“ดูแลน้องนะชล ต้องดูแลน้องน้ำช่วยเหลือตัวเองไม่ได้น้องถูกวางยา ชลต้องพาน้องไป”

ในหัวหล่อนยังก้องด้วยคำพูดนั้นสะท้อนไปมาแม้ว่าบิดาจะจากไปหลังจากกดจูบที่หน้าผากเป็นครั้งสุดท้าย ท่านดึงชลกมลมากอดแนบอกจูบที่เส้นผมเล็กละเอียดนั้นอย่างแสนรักก่อนจะตัดใจ

ร่างสูงใหญ่นั้นจากไปแล้ว ชลกมลยังทันเห็นน้ำตาหยดนั้นที่หางตาของพ่อมันสะท้อนแสงคล้ายแสงจากดวงดาวที่แทบมองไม่เห็นในคืนที่แสงจันทร์สว่างอาบไล้ไปทั่วเกาะคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงเต็มที่ ณอีกฟากหนึ่งของเกาะสายมีการจัดงานฉลองฟูลมูนปาร์ตี้ที่พ่อห้ามไม่ให้ชลกรและชลกมลย่างกรายไปใกล้อย่างเด็ดขาด

“มีแต่พวกวัยรุ่นเสพยานี่พ่อไม่ได้พกความเป็นตำรวจมาด้วยหรอกนะไม่อย่างนั้นจะเรียกมาอบรมให้เข็ดหลาบผลาญเงินพ่อแม่กันเป็นว่าเล่น เจ้าพวกนี้”

ใครจะนึกว่าผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงพ่อจะเป็นคนออกคำสั่งแกมบังคับให้ชลกรวิ่งเข้าหางานเลี้ยงต้องห้ามนั้นอย่างเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของหล่อนเอง

ขาของหล่อนหยัดยืน ชลกรไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงมหาศาลนั้นมาจากไหนหล่อนเก็บปืนไว้ในกระเป๋ากางเกง มันเป็นเพียงปืนกระบอกเล็กสำหรับผู้หญิงใช้พกติดตัวเพื่อป้องกันเหตุร้ายยามฉุกเฉินแต่อานุภาพของมันก็สามารถปลิดชีวิตได้เช่นกัน หล่อนลากน้องสาวขึ้นอย่างเดียวกับที่พ่อทำพร่ำเรียกสติชลกมลก่อนจะพาตนเองพุ่งไปยังทิศของแสงไฟซึ่งเป็นลำแสงแห่งความหวังเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้




 

Create Date : 29 เมษายน 2558
0 comments
Last Update : 29 เมษายน 2558 21:36:41 น.
Counter : 959 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.