Bloggang.com : cool mint : เพื่อนใหม่ กับการท่องเที่ยวไปใน New Zealand ภาค 2 ประทับใจไม่รู้ลืม

เพื่อนใหม่ กับการท่องเที่ยวไปใน New Zealand ภาค 2 ประทับใจไม่รู้ลืม

มาม่ะเรามาเที่ยวนิวซีแลนด์กันต่อดีกว่าเนอะ
ช่วงที่อยู่ที่ New Zealand อากาศค่อนข้างเย็นกว่าที่คิดนิดหน่อยประกอบกับมีลมด้วยเลยยิ่งเย็นไปกันใหญ่

พวกเสื้อผ้าที่ coolmint เตรียมไปก็นะ collection รับลมร้อนเลย ก็คุณเพื่อนที่อยู่ที่ Australia อ่ะสิบอกว่า โอ๊ยยยย ที่นี่ร้อนจะแย่ สายเดี่ยว แขนกุดกันทั้งนั้นหล่ะ นี่มันฤดูใบไม้ผลิแล้วนะหล่อน

Coolmint ก็เชื่อเพื่อนอ่ะจิ มิวายที่คิดว่าที่ New Zealand น่าจะต้องเย็นกว่านิดหน่อย สมองน้อยๆจึงจับเอาเสื้อหนาๆมาด้วยสองสามชุด รอดตายไปหวุดหวิด แต่ก็ยังไม่วายโดนบรรดาเพื่อนๆสว.(สูงวัย)ของคุณแม่ถามตลอดว่า ไม่หนาวเหรอลูก

หึหึ ก็หนาวอยู่อ่ะคะ แต่มันมีเสื้อผ้ามาแค่นี้นี่นา เสื้อผ้าเรียบร้อยเตรียมใส่วันทำบุญค้า

มาพูดถึงเรื่องเพื่อนๆที่ได้ไปเที่ยวกันคราวนี้ต่อ กลุ่มเราก็ฟอร์มทีมกันได้ทั้งหมด 6 คน หญิง 3 ชาย 3 แหม บังเอิ๊ญ บังเอิญเนอะ

ที่บังเอิญยิ่งกว่านั้นคือ ทั้งสามหนุ่มนี่จบโท จากอเมริกาทั้งนั้น ส่วนสามสาวก็บังเอิ๊ญ บังเอิญ จบโทในไทย พ่อหนุ่มทั้งสามนี่ก็เป็น Gentleman กันสุดๆ (เพราะโดนบังคับ) เนื่องจากทั้งสามคนนี่เป็นลูกของแกนนำการจัดทัวร์ครั้งนี้

สาวๆทั้งสามก็ออกแนวเป็นตัวช่วย ซึ่งช่วยอะไรไม่ค่อยได้เพราะภาษาอ่อนแอกันเหลือเกิน นี่หล่ะเป็นส่วนหนึ่งของความคิดที่ว่า coolmint พลาดอะไรในชีวิตไปหรือปล่าว

ย้อนไปตอนที่ coolmint เพิ่งเรียนจบไม่นาน ในกลุ่มสาวๆทั้งแปดเพื่อนของ coolmint สมัยเรียนป.ตรีอ่ะ ก็คิดว่ายังไงก็ต้องเรียนต่อโทแน่นอน เหมือนเป็นอัตโนมัติอ่ะ ที่นี้มันก็ต้องวางแผนชีวิตแล้วใช่ม่ะ ว่าจะยังไงดี coolmint ก็คิดว่าจะทำงานไปซักพักก่อน แล้วค่อยเรียนต่อ เพราะตอนนั้นเบื่อชีวิตการเรียนมาก เรียนมาตั้ง 18 ปีเต็มตั้งแต่เข้าอนุบาล อยากออกมาเป็นสาวทำงานบ้างแล้วหล่ะ

ตอนนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็เห็นดีเห็นงามด้วย ผ่านไปสองปีไวเหมือนโกหก แต่หล่ะคนก็เริ่มเบื่อชีวิตการทำงานที่ไม่หอมหวาน สวยหรูอย่างที่คิดหล่ะ เรื่องเรียนต่อก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง ตอนนั้นในกลุ่มของ coolmint ก็เริ่มแบ่งเป็นสองส่วนหล่ะคือ ส่วนนึงตั้งใจจะไปเรียนโทเมืองนอก อีกส่วนนึงคือตั้งใจว่าจะเรียนที่นี่

ในเวลานั้น coolmint อยู่ในกลุ่มที่จะไปเรียนที่เมืองนอก ก็มีการเตรียมหาที่เรียน ที่พัก เรียนภาษา coolmint ตั้งใจจะไปเรียนที่ Miami เพราะมีญาติเป็นหมออยู่ที่นั่น สาวโสดไม่มีแฟน ที่สำคัญเค้ากลับมาพักผ่อนที่เมืองไทยทุกปีก็มาอยู่ที่บ้าน coolmint นี่หล่ะ ดูๆแล้วก็ perfect นะไม่น่าติดอะไร แต่มันเพราะโชคชะตาหรืออะไรอ่ะ ตอนที่จุฬาเปิดสอบปริญญาโทปีนั้น ภาควิชาที่ coolmint อยากเรียนเปิดรับคนด้วย แถมเปิดโปรแกรม เรียนโท เอก สามปี ในเงื่อนไขที่ว่า วิทยานิพนธ์เราต้องมีศักยภาพพอที่จะทำ PhD.ได้

น่าสนใจอ่ะ เพราะภาควิชานี้ที่เมืองไทย มีสอนที่นี่ที่เดียว ที่สำคัญเปิดสอนเฉพาะภาคปกติ ที่บังคับทำวิทยานิพนธ์ แปลว่า ต้องลาออกจากงานสถานเดียว เรื่องนี้ coolmint ไม่ห่วงเพราะไปเรียนต่อต่างประเทศยังไงก็ต้องลาออก จะหนักใจอยู่เรื่องเดียวก็คือ เรื่องบังคับทำวิทยานิพนธ์นี่สิ อันนี้โหดกลัวไม่รอด

ตอนนั้นคิดแค่ว่า ลองสอบเล่นๆดู แต่ไม่คิดว่าจะสอบติดเพราะเปิดรับน้อยมาก แต่พอประกาศผลสอบข้อเขียนก็กรี๊ดตัวลอยเลย ผ่านอ่ะ แต่ก็ยังไม่มั่นใจเพราะมีสอบสัมภาษณ์อีก และการสอบสัมภาษณ์ก็โหดสุดขีด เพราะเค้าประกาศเลยว่า ทุกคนต้องคิดหัวข้อในการทำวิทยานิพนธ์มา present กับกรรมการด้วย ตายหล่ะหว่า coolmint ยังไม่ได้เริ่มเรียน ที่สำคัญตอนป.ตรี ก็ไม่ได้เรียนคณะนี้ด้วยอ่ะ แถมไม่ได้ใกล้เคียงกันแม้แต่น้อย แล้วจะเอาอะไรมา present อ่ะ

แต่ก็คิดๆไป หาข้อมูล ไปอ่านวิทยานิพนธ์ของรุ่นพี่มาดูแนว ถึงวันก็เข้าไปสัมภาษณ์และ Present ทางคณะกรรมการก็ถามว่าสนใจจะเรียนต่อเอกหรือปล่าว เราก็ตอบไปตามความจริงในตอนนั้นว่า สนใจค่ะ เพราะกำลังเบื่อชีวิตการทำงานแล้ว อยากหนีมาเรียนหนังสือเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง (ชีวิตวัยหวาน)

ตอนนั้นพอสัมภาษณ์เสร็จก็ 50 50 นะค่ะ ไม่แน่ใจว่าเค้าจะเลือกรับเราหรือปล่าว กลับไปนอนตื่นเต้นอยู่หลายคืน เพราะอยากเรียนที่นี่มากเลย ถือว่าเป็นคณะในฝันเลยหล่ะ

วันประกาศผลก็ไปดูตอนเย็นหลังเลิกงาน จำได้ว่าชื่อตัวเองอยู่ท้ายๆเลย เพราะเรียงตามตัวอักษร ก็บอกคนที่ไปให้กำลังใจว่าถ้าสอบติดนะจะกระโดดกอดเลย เค้าก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะกล้าทำ

ปรากฏว่าวันนั้น coolmint ก็เป็นคนจริงไปอีกหนึ่งวันเพราะได้กระโดดกอดคนท้าด้วย คนโดนกอดหน้าม้านไปเลย โด่เอ้ย ทำเป็นมาท้า

และคนที่ไปให้กำลังใจในวันนี้หล่ะ เป็นคนสำคัญที่คอยให้กำลังใจ และคอยสนับสนุน coolmint ตลอดเวลาสองปีที่เรียนอยู่ที่นี่ จนต้องจารึกชื่อเค้าเอาไว้ในวิทยานิพนธ์ของ coolmint เลย ขอบคุณนะคะ

ตอนนั้นเรื่องที่ coolmint จะไปเรียนต่อ ตปท.ก็ทิ้งไปเลย เหตุผลนึงที่ coolmint อยากไปเรียนต่อตปท.เพราะ coolmint ภาษาไม่ดี อยากไปเรียนที่นู้นเพื่อเอาภาษา แต่ที่สำคัญที่สุดคืออยากออกไปใช้ชีวิตอิสระแบบที่ไม่ต้องโดนคุมเข้มเหมือนตอนอยู่เมืองไทย แต่ตอนนั้นความดีใจที่สอบได้มันทำให้เราลืมความตั้งใจทุกอย่างที่ตั้งใจไว้เลยค่ะ

ช่วงเวลาสองปีที่เรียนป.โท ต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ Amazing มาก ถึงกลุ่มเพื่อนๆจะไม่สนิทกันมากหรือรักกันมากเท่ากลุ่มที่เรียน ป.ตรี แต่มันแลกกับการที่ coolmint รู้สึกสนุกกับการเข้าห้องเรียน เข้าห้องสมุดและเขียนpaper มากมาย

ตลอดเวลาในชีวิตการเรียนหนังสือของ coolmint ตั้งแต่อนุบาลจนจบป.ตรี coolmint รู้สึกว่ามันคือหน้าที่ ที่เราต้องรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคม เรียนแบบต้องเรียนอ่ะ ถึงจะมีวิชาที่ชอบเรียน แต่มันก็ไม่ได้มีความสุขขนาดฉันอยากเรียนเหลือเกิน

แต่ตอนเรียนป.โท coolmint ได้มาเรียนวิชาที่ชอบ ตลอดเวลาสองปีจึงมีแต่ความสุข ไม่รู้สึกว่าต้องบังคับตัวเอง หรือต้องฝืนอะไรเลย การบ้านทุกชิ้นทำแบบอยากทำ มีความสุขสุดๆ การไปเรียน เหมือนการได้ไป shopping การอ่านตำราเรียน เหมือนอ่านนิยายยอดฮิต มันเป็นชีวิตในความฝันที่เปี่ยมไปด้วยความสุขแบบสมบูรณ์จริงๆ

แต่ถึงแม้ว่าจะมีความสุขกับการเรียนแค่ไหน แต่ที่นี่ก็ทำให้ coolmint เสียน้ำตาไปครั้งนึงเหมือนกัน ตอนนั้นคือ ช่วงที่ใกล้ถึงวันสอบขออนุมัติหัวข้อทำวิทยานิพนธ์ ก็เครียดอ่ะ ถึงจะเตรียมตัวมาดีตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่มันก็ยังมีแรงกดดันพอสมควร อันนี้เกิดจากคนรอบข้างอ่ะ ส่วนใหญ่คนที่เรียนที่นี่ ต้องการต่อเอกกันทุกคน ดังนั้นแต่ละคนจึงมีความตั้งใจเรียนกันสูงมาก ผิดกับ coolmint และเพื่อนอีกสองคน ที่เรียนเพราะอยากเรียน เลยกลายเป็นสามสาวที่ประหลาดๆนิดหน่อย วันๆคุยกันเรื่องไป shopping กินข้าว แต่งหน้า หลังเลิกเรียนก็ไป shop กันตลอด มีคนนึงหัวค่ำไปเที่ยวก่อน ค่อยกลับมาทำการบ้านตอนดึก ตอนเพิ่งรู้จักแรกๆนึกว่าโม้ มีอยู่วันนึงจะโทรไปถามเรื่องเรียนซะหน่อย ปรากฏว่า she อยู่ข้าวสารอ่ะ กำลัง Dance ได้ที่เลย บอกให้โทรไปใหม่ตอนตีหนึ่ง พอโทรไปตอนตีหนึ่ง she เข้าโหมดเรียนหล่ะ เก่งจริงๆคนเรา นับถือ

นี่หล่ะการได้ทำอะไรในสิ่งที่เรารักมันจะไม่รู้สึกว่าถูกบังคับแต่จะสุขใจที่ได้ทำ

มาเข้าเรื่อง coolmint ต่อ ก็นะ เริ่มรู้สึกอ่ะว่าความสุขที่ได้จากการเรียนโทที่นี่ มันคุ้มกับการที่ไม่ได้ไปเรียนต่อโทที่อเมริกาหรือปล่าว ตอนนี้เพื่อนๆในกลุ่มของ coolmint ที่ไปเรียนต่อที่นู้นก็กลับกันมาหมดแล้วและก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในตัวเพื่อนๆของ coolmint ตอนนี้มันเลยเริ่มทำให้ coolmint เริ่มคิดทบทวนตัวเองกับชีวิตแล้วหล่ะ อืมมมจะยังไงดีน้า คงต้องเริ่มใช้เวลากับตัวเองบ้างแล้ว coolmint จะทำยังไงที่จะมีความสุขกับการทำงาน ได้เหมือนกับตอนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ อะไรคือสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ แต่ที่แน่ๆ

ตอนนี้อยากพาเพื่อนๆใน bloggang ไปเที่ยว เราไปเที่ยวกันดีกว่าเนอะ

จุดเด่นของเมือง น้ำพุร้อน มีขึ้นทุกที่ของเมือง บางทีก็ขึ้นตามข้างถนนเลยอ่ะ

แปลหน่อยจิ

มาเที่ยว Red Wood กันต่อ ป่าสวยและสมบูรณ์มาก ชอบที่นี่มากเลย อากาศดี

แต่ละต้นนี่บะละเฮิ้มเลย (ใหญ่มาก)

ดูแล้วสดชื่น

มาเที่ยว Huka Falls กัน น้ำที่นี่แรงและสีฟ้าสวยมากๆ

ที่นี่เค้ามีกิจกรรมล่องเรือกัน อู้ยเห็นกระแสน้ำและราคาแล้วกรี๊ด 90 เหรียญต่อคนอ่ะ

พามาเที่ยวทะเลกันต่อ

เห็นไหม Information มีทุกที่จริงๆ

ที่ NZ ทุกอย่างสวย สะอาด เป็นระเบียบมาก ดูสิถังขยะยังสวยเลย

ร้านขนมปัง น่าทานไหมค่ะ คนเค้าก็ยิ้มแย้มนะคะ

พามาเที่ยวสวนก่อนสั่งลา nz

ที่นี่มีทั้งสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบและการจัดสวนที่หลากหลายให้เลือกดู

แล้วก็บ๊ายบาย nz ด้วยสายการบิน pacific blue เพื่อไป hello australia ตอนหน้าค่ะ

จบการเที่ยว NZ แบบประทับใจมากค่ะ กะว่าจะกลับไปอีกแน่นอน ที่นี่เที่ยวเองไม่ยากเลย สะดวก สบาย สงบ ไม่แพงมาก ร้านอาหารไทยก็มีให้หาทานง่าย คนที่นี่ก็น่ารักค่ะ

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2550

Last Update : 23 มีนาคม 2551 5:59:19 น.

12 comments

Counter : 680 Pageviews.

อยากไปบ้างจัง อากาศน่าจะดีนะครับ

โดย: ภูสูง

วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:15:31 น.

แวะมาเที่ยวด้วยคนครับและเอาภาพ Concert มาฝากครับ

อยากดูแบบบรรยากาศแบบเต็มๆ คลิกที่รูปได้เลยครับ

โดย: มิสเตอร์ฮอง

วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:40:31 น.

สวัสดีค่ะ ...

ธรรมชาติสวยจังค่ะ ขนมปังอร่อยมั้ยคะ อิอิอิ

มีแต่ความสุขนะคะ

โดย: ทิวาจรดราตรี

วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:46:46 น.

ตามมาเที่ยวต่อจ้า..เค้าอยากนั่งสปีดโบ๊ทอ่ะ ท่าทางจะเสียวมากมายเนอะ..

เออ..น้ำพุร้อนบ้านเค้ามีต้มไข่อ่ะป่าว เห็นที่เมืองไทยที่ไหนมีน้ำพุร้อน ที่นั้นต้องมีต้มไข่