วันยิ้มๆ ^__^
วันนี้มีโอกาสได้กลับมาใช้ชีวิตในกรุงเทพเหมือนปกติ...เมื่อเช้านั่งรถเมล์สาย 150 มาทำงานที่รามอินทราค่ะ สังเกตุว่า ก่อนถึงป้ายโรงเรียนคลองเกลือ ซัก 2 ป้ายเนี่ย จะมีเด็กผู้หญิง กับ เด็กผู้ชาย อายุก็คงราวๆ ป.4 นี่ล่ะ อาศัยขึ้นรถเมล์มาด้วยกระเป๋ารถก็ไม่เก็บเงินนะคะ แล้วพอถึงป้ายโรงเรียน คนขับก็จอดให้เด็กๆลงแบบ smooth as silk เชียวล่ะ พอเด็กๆลงจากรถก็ตะโกนบอกว่า ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะดูแล้วแบบ.....เฮ้ย น่ารักเว๊ยยย แล้วแบบ เด็กๆมียกมือบ๊ายบายคนขับรถอีก ไม่เคยคิดว่าจะเคยเห็นงัยคะ พอหลับตานึกย้อน ก็จำได้ลางๆว่า เออ ซักเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนตอนขึ้นรถเมล์สายนี้ก็เคยเห็นเด็ก 2 คนนี้มาก่อนนี่หว่า ครั้งนั้น กระเป๋าก็ไม่เก็บเงินเหมือนกัน แล้วตอนเด็กๆลงจากรถ ก็ทำอาการแบบเดียวกันนี้เป๊ะเลย (สงสัยเป็นเดจาวู)นานมากแล้วที่ไม่ค่อยได้ยิน เด็กๆพูดคำว่า ขอบคุณค่ะ / ขอบคุณครับ คือไม่รู้ว่ามันพูดยากหรือเปล่าล่ะนะ เพราะสำหรับเรามันเป็นคำพูดติดปาก แต่กับคนอื่น รู้สึกว่า....นานแล้วที่ไม่ค่อยจะได้ยินเขียนถึงเรื่องนี้ แล้วก็นึกถึงอีกเรื่องขึ้นมา (คล้ายๆคนแก่นึกถึกอดูต)ตอนนั้นก็นั่งรถเมล์นี่ล่ะค่ะ แล้วก่อนจะถึงป้ายที่เราจะลงรถ ก็มีคุณป้าแก่ๆขึ้นมายืนข้างๆ เราก็เลยลุกให้คุณป้านั่งคุณป้า....แบบ หูยยย พูดขอบอกขอบใจเราใหญ่เลย ถามว่าเราจะไปอีกไกลไม๊ เป็นห่วงว่าเราจะยืนเมื่อย พอเราบอกว่า อีก 2 ป้ายจะลง คุณป้าก็บอกว่าแล้วไป (กลัวเราจะยืนไกล)แล้วคุณป้าก็ชวนคุยบอกว่า กำลังจะไปโรงพยาบาล ไปตรวจเลือด แล้วพอเราจะลงรถ คุณป้าก็ยังพูดขอบใจเราอีกแหมมมมมม.....เช้านั้นเล่นเอาคนตัวอ้วนอย่างเรา ตัวพองเป็น 2 เท่าเลยคนเราเวลาทำดีแล้วมันรู้สึกตัวพองแบบนี้เองมั๊ง (ปกติไม่ค่อยทำดีค่ะ)ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วยเรื่องใหญ่ๆนะคะ เล็กๆน้อยๆเราก็ทำได้ค่ะ เพียงแค่ใส่ใจสิ่งรอบข้างบ้างก็เท่านั้นเองอ่า แต่ว่า....พวกที่ชอบคุยโทรศัพท์เวลาข้ามถนนนี่ วันหลังถ้าดิชั้นขับรถเจอ ดิชั้นจะขับรถเหยียบให้ขรี้แต่กเลยนะคะไม่ทราบว่าคุณเมิงจะมีธุระด่วนขนาดรอข้ามถนนให้เสร็จก่อนไม่ได้เหรอ แบบเจอบ่อยค่ะ แล้วดิชั้นไม่ปลื้มค่ะ^^แว๊กกกกก ดีแตกซะแล้ว อุตส่าห์เขียนเรื่องยิ้มๆมาตั้ง 2 เรื่อง