|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มหัศจรรย์แห่ง 'ปัญญาธรรม'
คราวนี้จุฬาภินันท์ขอบอกกล่าวเรื่องปัญญาธรรมค่ะ มีสามชนิดตามที่หลายๆคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว สุตตมยปัญญา จินตามยปัญญา และภาวนามยปัญญา
ปัญญาธรรมเป็นปัญญาที่ละเอียดอ่อนค่ะ ไม่ใช่แค่ฉลาด แต่รู้จริง รู้จริงเรื่องสัจธรรม เรื่องกรรม รู้อดีตของตัวเอง รู้อนาคตของตัวเอง รู้ไปถึงของคนอื่น นั่นเพราะเป็นผลมาจากกรรมทั้งนั้น
'ปัญญา' ที่ใช้กันทั่วๆไป มันคือ 'ความฉลาดและรู้มาก' ที่เกิดจากการอ่านเยอะ ไม่ใช่ปัญญาธรรม ปัญญาทั่วไปจะเป็นสิ่งที่รวมเอากิเลส อคติ ฯลฯ ไว้ด้วย เพราะมันมาจากสมองที่คนเราคิดต่างๆกันไป มีทัศนคติต่างๆกัน
แต่ 'ปัญญาธรรม' เป็นปัญญาที่มาจากการจดจำได้ของจิต จิตใต้สำนึก จิตที่ผ่านอะไรมามากมายหลายภพชาตินับไม่ถ้วนนั่นแหละค่ะ จิตใจ้สำนึกจำได้ทั้งหมด
สุตตมยปัญญา เป็นปัญญาธรรมที่ได้จากทุกอย่างที่รับรู้ด้วยประสาทสัมผ้สทั้งห้า ไม่ใช่รับรู้แบบเข้าห้องแอร์แล้วเย็น ไม่ใช่ถูกตีแล้วเจ็บ ไม่ใช่ได้เอแล้วเรียกว่าเรียนเก่ง ไม่ใช่กินพริกแล้วเผ็ด ฯลฯ เพราะนั่นหยาบเกินกว่าจะเป็นปัญญาธรรม
แต่สุตตมยปัญญาเป็นปัญญาที่อยู่ดีๆก็รู้ว่านั่นเป็นนั่น นี่เป็นนี่ นู่นเป็นนู่น รู้สิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้ ทั้งอดีตและอนาคต เช่น ดูหนังเรื่องโจนส์ออฟอาร์คแล้วเห็นฉากเธอถูกไฟเผา เรารู้เลยว่าเคยเกิดเป็นเธอมาก่อน รู้ว่ารู้ถูกเอง ไม่มีเหตุผล แต่ปัจจุบันจะมีสัญญาณบอกคือกลัวการถูกไฟเผา ทุกคนกลัวแต่คนๆนั้นจะกลัวแบบสนใจเกินปกติ หรือกรณีอนาคต เรารู้เฉยเลยว่า เออ เกิดมาเพื่อเป็นนักบินอวกาศคนแรกของไทย เป็นต้น เหมือนเดิม ไม่มีเหตุผลของการรู้ นอกจากปัจจุบันเราคิดอะไรเกี่ยวเนื่องกันเสมอๆ ถ้ามีการเจ็บตัวในอดีตชาติก็จะมีสัญญาณเตือนในปัจจุบันชาติ เช่น เคยถูกบีบนิ้วนางซ้ายมา ชาติปัจจุบันเราก็เจ็บที่นิ้วนางซ้ายอย่างไม่มีสาเหตุ
แต่เราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เรากำหนดไม่ได้ว่าปัญญาธรรมจะมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าปัญญาธรรมจะมา มันก็มาเอง และเราจะรู้เองว่า เออ นั่นเป็นปัญญาธรรมนะ มันไม่ผ่านความคิดค่ะ
จินตามยปัญญาเป็นปัญญาธรรมจากการคิด เป็นความจริงที่ได้จากการคิดโดยกระบวนการของสมอง แล้วผลที่ได้คือความจริงที่เราไม่รู้อีกเหมือนกันว่าทำไม แต่รู้ได้เองว่า เออ จริง เออ ถูกต้อง จินตามยปัญญาเป็นปัญญาธรรมที่คิดต่อจากสิ่งที่สุตตมยปัญญารู้ คิดแบบเป็นเหตุเป็นผลจนกลายเป็นว่า ทุกอย่างมันเกี่ยวเนื่องกันไปหมด จากอดีตถึงปัจจุบันและต่อไปยังอนาคต จินตามยปัญญาอาศัยการเรียนรู้จากการเติบโตมาในสังคม คิดแบบเป็นระบบ ไม่ใช่คิดเพ้อไปเรื่อยเปื่อย แต่อยู่ๆก็คิดเองนะคะไม่ใช่ตั้งใจคิด
สิ่งที่ปัญญาธรรมสองตัวนี้เหมือนกันคือ ไม่รู้ว่าเวลาไหนจะรู้ ไม่รู้เวลาไหนจะคิด มันเกิดเอง รู้เอง คิดเอง โดยมี 'จิตใต้สำนึก' เป็นตัวบอกให้เรารู้ว่าไม่ผิด หรืออาจพลาดไปได้บ้างก็นิดหน่อย เพราะดันเอาความคิดจากสมองเข้าแทรก แต่ตอนหลังก็จะรู้และคิดสิ่งที่ถูกได้เองซึ่งก็จะใช้เวลาไม่นานนัก เพราะคนได้ปัญญาธรรมจะมีสติตลอดเวลาอยู่แล้ว และจะพิจารณาตัวเองได้ทันทีว่ามีอคติหรืออารมณ์ใดๆหรือเปล่า และไอ้ที่พลาดไปน่ะ ก็พลาดด้วยเหตุที่มีอคติหรืออารมณ์นั่นแหละ
ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการพัฒนาจิตอันเป็นสมาธิในขั้นสูงขึ้น รู้และเห็นจริงในสัจธรรม รู้มากขึ้น มากขึ้นเป็นลำดับขั้น แล้วก็มีสุตตมยปัญญาและจินตามยปัญญาช่วยเสริมให้รู้มากขึ้นไปอีก สามารถอธิบายเหตุและผลของทุกสิ่งได้
ปัญญาธรรมเกิดได้จาก ศีล และ สมาธิ ค่ะ เป็นไปตามลำดับ
โอวาทปาติโมกข์ว่าด้วย การทำดี ละชั่ว ทำใจให้เบิกบาน อันนี้เกี่ยวเนื่องกันกับ ศีล สมาธิ ปัญญาธรรม
ใจเบิกบาน ย่อมมาจากการรักษาศีลด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ ซึ่งนั่นเป็นการละชั่วพื้นฐาน เป็นใจที่มีพรหมวิหารสี่ที่บริสุทธิ์นั่นแหละค่ะ
เมื่อใจเบิกบาน แล้วทำสมาธิ จิตก็เปิดรับธรรมได้มากขึ้น บวก ทำความดี เป็นบุญหนุนเนื่องกันไป ปัญญาธรรม ก็เกิดได้ง่ายขึ้นค่ะ
ใครๆก็สามารถได้ปัญญาธรรมได้ค่ะ เพราะจิตใต้สำนึกของแต่ละคนจำสิ่งที่เคยเป็นมาทั้งนั้น และกรรมเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ก็เลยสามารถรู้อนาคตได้ เพราะกรรมในอดีตที่ทำมานั่นเอง
ศีลต้องรักษาอย่างบริสุทธิ์ สมาธิก็แค่อานาปานสติก็พอ รู้ลมหายใจ อย่าเหม่อ อย่าว่าง แต่รู้ตลอดว่าหายใจอยู่ ยุบหนอพองหนอ พุธโธ นั่นแหละค่ะ บังคับความคิดของตัวเองให้อยู่กับลมหายใจ จิตจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ บวกบุญกรรมแต่ปางก่อนหนุน ก็ได้ปัญญาธรรมได้ไม่ยากค่ะ
Create Date : 25 มกราคม 2553 |
Last Update : 15 เมษายน 2553 19:22:44 น. |
|
33 comments
|
Counter : 1478 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Nepster วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:23:54:15 น. |
|
|
|
โดย: 123 IP: 203.144.144.164 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:2:45:15 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:5:46:11 น. |
|
|
|
โดย: วรบรรณ วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:6:24:54 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:43:13 น. |
|
|
|
โดย: kwan_3023 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:12:09:22 น. |
|
|
|
โดย: deeplove วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:19:18:50 น. |
|
|
|
โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:1:08:15 น. |
|
|
|
โดย: babyann วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:10:46:19 น. |
|
|
|
โดย: blog pu วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:11:58:25 น. |
|
|
|
โดย: ลั่นทมขาว วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:15:03:45 น. |
|
|
|
โดย: hi hacky วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:15:16:23 น. |
|
|
|
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:16:28:31 น. |
|
|
|
โดย: มะหมู (mondoyka ) วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:18:29:40 น. |
|
|
|
โดย: แม่เด็กชายเอื้อ (viji ) วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:18:38:59 น. |
|
|
|
โดย: Bluejade วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:22:10:08 น. |
|
|
|
โดย: ชิโยจัง วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:10:27:32 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:15:11:39 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:19:21:19 น. |
|
|
|
โดย: Tookie (black_sesami ) วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:20:04:10 น. |
|
|
|
โดย: wetrip วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:22:26:25 น. |
|
|
|
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:0:35:45 น. |
|
|
|
โดย: Antonymer วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:2:50:03 น. |
|
|
|
โดย: พิกุลแก้ว (nslife2514 ) วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:10:50:31 น. |
|
|
|
โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:14:03:54 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:17:42:02 น. |
|
|
|
โดย: Adija วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:21:03:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนนี้ก็เหอๆ รอพิสูจน์ตัวเองต่อไป แฮ่ๆ
อ่านเรื่อง มหัศจรรย์แห่ง 'ปัญญาธรรม แล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยจะมีปัญญาเลยค่ะ แฮ่ๆ
ตอนนี้กำลังจะฝึกสมาธิค่ะ ตั้งใจจะเริ่มตั้งนานแล้ว แต่ว่าไม่ได้เริ่มสักที
หาข้ออ้้างไปร้อยแปดเลย หุหุ