มีนาคม 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
30 มีนาคม 2549

กล้องจิ๋วของคุณ

ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ

ขออนุญาตขึ้นต้นด้วยประโยคอมตะที่เชยแสนเชย แต่ก็มีความจริงแฝงอยู่ไม่น้อย

ดวงตาที่มีเส้นเลือดแดงก่ำ บ่งบอกว่า เจ้าของเหนื่อยล้า นอนหลับไม่เพียงพอ หรือดื่มมามากไป
เปลีอกตาส่วนที่ควรเป็นสีชมพูเข้ม กลับเป็นสีชมพูซีด บ่งบอกว่า เจ้าของอ่อนเพลีย อาจมีภาวะโลหิตจาง
ตาขาวที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง บ่งบอกว่า เจ้าของอาจจะเป็นโรคตับ
แก้วตาที่เริ่มขุ่นมัว บ่งบอกว่า เจ้าของผ่านร้อนผ่านหนาว บนโลกอันโหดร้ายนี้มาหลายสิบฤดูกาลแล้ว
ดวงตาที่มีน้ำเอ่อล้น บ่งบอกว่า ต้องมีภาวะอะไรบางอย่างบีบคั้นที่หัวใจของผู้เป็นเจ้าของ

จะเห็นได้ว่า พื้นที่เล็กๆขนาดไม่กี่ตารางเซนติเมตรบนใบหน้าของคุณคู่นี้ มีความสำคัญไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

การทำงานของดวงตา เปรียบได้กับกล้องถ่ายรูป แสงถูกส่งผ่าน Cornea ซึ่งเป็นฉากใสด้านหน้าสุดของดวงตา ไปยัง Lens ซึ่งทำหน้าที่โฟกัสแสงเช่นเดียวกับเลนส์ถ่ายรูป ลำแสงจะเคลื่อนต่อผ่านวุ้นในตาที่เรียกกันว่า Vitreous และตกลงบนฉากหลังที่เรียกว่า Retina ซึ่งเปรียบเสมือนฟิล์มที่รับภาพ

เรตินา ประกอบด้วยเซลล์ประสาทรับแสง2ประเภทด้วยกัน ประเภทแรกเรียกกันว่า Cones เปรียบได้กับฟิล์มสี ทำหน้าที่รับภาพในที่แสงสว่างและภาพสี มีจำนวนประมาณ6ล้านเซลล์ มักกระจุกตัวอยู่ในส่วนกลางของเรตินา ประเภทที่สองเรียกกันว่า Rods เปรียบได้กับฟิล์มขาวดำ ทำหน้าที่รับภาพในที่มีแสงจำกัดและภาพขาวดำ มีจำนวนประมาณ125ล้านเซลล์ กระจายตัวอยู่บริเวณด้านข้างของเรตินา

ภาพที่ตกลงบนเรตินาจะมีลักษณะกลับหัว ที่เรตินาแห่งนี้ แสงจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณประสาท ส่งไปตามเส้นประสาท เข้าสู่สมองส่วนหลัง (Occipital lobe) ซึ่งเปรียบได้กับศูนย์ล้างรูป ภาพจะถูกหมุนกลับเป็นหัวตั้งเหมือนภาพจริงที่ปรากฏ และส่งให้สมองได้รับรู้ในแบบreal-time

ดวงตาของมนุษย์แต่ละคนจะมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกันเลย เนื่องมาจากส่วนที่เรียกว่า ม่านตา หรือ Iris ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละคน เหมือนกับลายนิ้วมือ ม่านตาประกอบด้วย กล้ามเนื้อเรียบที่ทำหน้าที่ ปรับปริมาณแสงที่เข้าสู่รูม่านตาให้พอเหมาะ เปรียบได้กับการปรับแสงในการถ่ายรูป และ เม็ดสี ซึ่งมีปริมาณแตกต่างกันไปในม่านตาของแต่ละคน คนที่มีเม็ดสีมาก จะมีดวงตาสีน้ำตาล ถ้าเม็ดสีน้อยลง จะเห็นเป็นสีเขียว ส่วนคนที่ตาสีฟ้า คือคนที่ไม่มีเม็ดสีเลย

น้ำตา มีความสำคัญในการเคลือบส่วนหน้าสุัดของดวงตาที่เรียกว่า Cornea เพื่อไม่ให้corneaแห้งเกินไป และเกิดเป็นแผลได้ นอกจากนี้ น้ำตายังมีอิมมูโนโกลบูลินและเอนไซม์ ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย ในภาวะปกติ ดวงตาจะมีน้ำตาในปริมาณประมาณ 6 ไมโครลิตร และมีอัตราการหมุนเวียนที่ประมาณ 1.2 ไมโครลิตรต่อนาที(1) แต่ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นได้ ในภาวะที่หัวใจอ่อนแอลง

ดวงตาเป็นอวัยวะในกลุ่มรับสัมผัส (Sensory organs) ที่มีพัฒนาการช้าที่สุด เด็กแรกเกิดจะยังไม่สามารถโฟกัสได้ เนื่องจากการปรับของเลนส์ยังไม่ดีพอ ภาพที่เห็นจึงไม่คมชัดเท่าผู้ใหญ่ ก่อนอายุสามเดือน เด็กจะเห็นภาพจากด้านข้าง หรือภาพจากมุมตา ได้ชัดกว่าภาพตรงหน้า และเห็นแค่ในระยะไม่เกิน 9-12 นิ้ว จวบจนกระทั่งอายุประมาณหกเดือน ดวงตาจึงมีพัฒนาการที่ดีจนเกือบเท่าผู้ใหญ่

นอกจากดวงตาจะเป็นอวัยวะที่มีพัฒนาการช้าแล้ว ยังเป็นอวัยวะที่มีการเสื่อมไปตามวัยค่อนข้างมาก มีการศึกษาพบว่า คนในวัย70จำนวนมาก มีโรคที่เกี่ยวกับตาโดยตรง ที่พบได้บ่อยคือ ภาวะเสื่อมของแมคูลา(Macular degeneration), ความดันในตาสูง หรือ ต้อหิน และ ต้อกระจก(2)

จะเห็นได้ว่า กล้องขนาดจิ๋วที่มนุษย์เรามีติดตัวกันคนละคู่เดียวนี้ นอกจากมีพัฒนาการช้าแล้ว ยังเสื่อมหมดสภาพได้ง่ายอีกด้วย ดูแลกล้องขนาดจิ๋วของคุณให้ดีๆ บันทึกภาพแห่งความประทับใจเก็บไว้มากๆ และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมสิ่งที่ Antione de Saint-Exupery บอกไว้ว่า สิ่งที่สวยงามและสำคัญที่สุดไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่ต้องใช้หัวใจมอง

"It is only with the heart that one can see rightly;
what is essential is invisible to the eye."


อ้างอิง
1.//www.gpnotebook.co.uk/cache/1315635265.htm
2.//www.lef.org/magazine/mag2002/feb2002_cover_eye_01.html




 

Create Date : 30 มีนาคม 2549
3 comments
Last Update : 1 เมษายน 2549 9:45:11 น.
Counter : 726 Pageviews.

 

Hey love your story....you should go to openonline.com na

and also check out this crazy guy yeebud....so funny wa

 

โดย: paumee IP: 24.60.190.224 25 เมษายน 2549 20:54:18 น.  

 

thk God for create our eyes,
thk u for create lovely lecture.

 

โดย: dorayaki IP: 203.113.67.70 14 มิถุนายน 2549 19:23:02 น.  

 

ชื่อเรี่องน่ารักมากๆค่ะ ทำให้อยากถนอมเขา..แต่พันทิป ทำให้เราต้องนั่งจ้องจอนานนนนนนนนนนนนนนมาก ..เพราะเจอเรื่องที่น่าอ่านแบบนี้ ทำไงได้ อุอุ

 

โดย: podduang-pk 13 สิงหาคม 2550 17:41:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Cafe_noir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Cafe_noir's blog to your web]