โบรกแนะเก็งกำไร 7 หุ้นเด่น ดัชนีผันผวน แก้หนี้ยุโรปเริ่มชัดเจน แต่กังวลน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.49 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.81 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ หลังจากตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวแรงในวันศุกร์และวันจันทร์ที่ผ่านมารับข่าวดีเรื่องหนี้ยุโรป แต่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ นักวิเคราะห์คาดวันนี้ดัชนีหุ้นไทยผันผวน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในประเทศ แต่ปัจจัยต่างประเทศจะปรับตัวดีขึ้น เก็งกำไร 7 หุ้นเด่น ได้แก่ BGH, CPF,PTTEP,TUF, DCC, DRT, TASCO
บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนหนักท่ามกลางการติดตามสถานการณ์น้ำ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะมีความผันผวนในระดับสูง ท่ามกลางการติดตามสถานการณ์น้ำท่วม แต่อาจมีดีดตัวก่อนจากที่ในช่วงที่ไทยติดวันหยุดยาวตลาดต่างประเทศดีดตัวขึ้นค่อนข้างแรงบนความคาดหวังเรื่องหนี้ยุโรป โดยดาวโจนส์ปิดบวก 2 วันทำการกว่า370 จุด น้ำมัน NYMEX ดีดตัวเกือบ 6 เหรียญ อย่างไรก็ดี การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในการประชุมสุดยอดรอบสองในวันพุธนี้ และผู้นำยุโรปยังคงมีความเห็นแตกต่างกันเป็นอย่างมากในเรื่องขนาดความสูญเสียที่เอกชนผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซจำเป็นต้องยอมรับ ขณะที่ปัจจัยลบภายในเรื่องภาวะน้ำท่วมเข้าสู่กรุงเทพฯ จะเป็นตัวฉุดตลาดให้ยังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาลงต่อกลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นแนะนำทยอยขายในช่วงดีดตัว แนวต้าน : 921-930 แนวรับ : 910-900
การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%
ถือต่อในพอร์ต : หุ้นที่ปรับออก : DTAC (เลื่อนจ่ายปันผลพิเศษ)
BGH, CPF
หุ้นที่ปรับเข้า :
1. PTTEP เก็งกำไรตามการดีดตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกราคาพื้นฐาน 214 บาท กรอบแนวรับ-ต้าน 150-155 บาท
2. TUF เก็งกำไร กลุ่มอาหารยังเป็นบวกจากภาวะน้ำท่วมราคาพื้นฐาน 64 บาท
บล.ฟินันซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ น้ำเริ่มเข้า กทม.-SET ยังเสี่ยงแกว่ง ดังนั้นเน้นเล่นสั้นและลดพอร์ตเมื่อบวก
แนวโน้ม ในช่วงวันหยุดของตลาดหุ้นไทยวานนี้ ตลาดหุ้นต่างประเทศยังสามารถขยับบวกขึ้นต่อเนื่องได้ จากความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขวิกฤติหนี้ในยุโรป ขณะที่มีแนวโน้มน้อยลงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนในสหรัฐด้วย อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังมุ่งเข้าสู่พื้นที่ กทม. กลับดูน่าเป็นห่วงมากขึ้น ทำให้ FSS คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนอยู่ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ กทม.โดยเฉพาะที่อาจลุกลามเข้าสู่พื้นที่ชั้นในได้นั้นจะยังเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศได้ ซึ่งยังต้องรอติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงท้ายของสัปดาห์อีกครั้ง (28-29 ต.ค.) จากน้ำทะเลที่หนุนสูงและคาดการณ์ที่ว่าน้ำเหนือจะไหลมาถึง กทม.ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย
กลยุทธ์: ดังนั้นแม้ว่าจะยังสามารถเลือกหุ้นเข้าเทรดดิ้งได้ แต่ก็ควรจำกัดพอร์ต และควรหาจังหวะขายทำกำไรตามรอบเมื่อตลาดบวกขึ้นด้วย ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ยังแนะนำให้ทยอยขายเพื่อลดพอร์ตลงอีกเพื่อรอดูสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.อีกครั้ง
แกว่งตัวลง กังวลน้ำท่วม
KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันอังคารทรงตัวถึงอ่อนตัวเล็กน้อย เนื่องจากน้ำท่วมเริ่มเข้ามาในเขตกรุงเทพฯ แล้วและเสี่ยงสูงที่จะขยายวงเข้ามาในกรุงเทพฯ ชั้นใน ในช่วงที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุดในปลายสัปดาห์นี้ (27-28 ต.ค.) เราคาดว่าจิตวิทยาการลงทุนจะไม่ดีนักเนื่องจากภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วม
แย่กว่าเมื่อวันศุกร์ค่อนข้างมาก และในวันศุกร์ตลาดหุ้นได้รีบาวด์รับรู้ความหวังต่อปัจจัยภายนอกไปแล้วได้แก่การประชุม EU Summit เพื่อหาทางออกใน 2 ประเด็น ได้แก่การเพิ่มขนาดของกองทุนสร้างเสถียรภาพ (EFSF) และการเจรจาระหว่างทางการกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนของกรีซว่าด้วยการลดหนี้ ซึ่งการประชุมดังกล่าวมี 2 รอบ คือครั้งแรกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมรอบที่ 2 และเป็นที่คาดหมายกันว่าจะหาข้อสรุปได้อย่างน้อยหนึ่งในสองประเด็นที่กล่าวไปข้างต้นกล่าวโดยสรุป: ตลาดหุ้นน่าจะแกว่งตัวลง อาจมีสลับรีบาวด์ในวันจากปัจจัยภายนอกที่ดีขึ้น แต่ปัญหาน้ำท่วมน่าจะเป็นเรื่องหลักและมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยภายนอก
กลยุทธ์เทรดดิ้ง: แนะนำให้ชะลอการลงทุนต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตามสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งน่าจะนำไปสู่การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง กรอบการซื้อวันนี้มองแนวรับที่ 909 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 925 จุด สำหรับหุ้นที่น่าจะเด่นกว่าตลาด เรายังมองกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์หลังน้ำลด เช่น DCC, DRT, TASCO เป็นต้น
Create Date : 25 ตุลาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 25 ตุลาคม 2554 14:09:22 น. |
Counter : 515 Pageviews. |
|
|
|