Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
โบรกแนะสอย 9 หุ้นดาวเด่นขาขึ้น ดัชนีฟื้นตัวระยะสั้น พลังงาน ปิโตร อาหาร สื่อสารแรง!


ที่มา ข่าวหุ้น ดอทคอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10.15 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,063.48 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.47 จุด หรือ 0.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.37 พันล้านบาท นักวิเคราะห์มองดัชนีตลาดหุ้นวันนี้ฟื้นตัวระยะสั้น แต่ภาพใหญ่ยังแกว่งตัว แนะเก็งกำไร AIT, SCB ,TK, IVL ,LPN, PS, SAT, AH และถือต่อหรือซื้อเพิ่ม STA และกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ พลังงาน ปิโตรเคมี อาหาร เกษตร สื่อสาร เป็นต้น



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : น่าเห็นการฟื้นตัวระยะสั้น กลยุทธ์การลงทุน : เพิ่มความระมัดระวังการซื้อเก็งกำไรในระยะสั้น มองภาพรวมมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นหลังการดิ่งหนักของดัชนีวานนี้ ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมในระยะสั้นดูจะอิงทางบวกเป็นส่วนใหญ่ทั้งส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐ, ราคาน้ำมัน และแรงซื้อสุทธิของต่างชาติ อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบหลักเรื้อรังของตลาดยังกดดัน กรอบการปรับขึ้น ตราบเท่าที่ปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่สามารถคลี่คลาย นักลงทุนยังต้องจับตาการเจรจาหนี้ของกรีซต่อไป หากไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ปัญหาอาจลุกลามและส่งผลเชิงลบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศต่างๆ ในยุโรป รวมถึงเศรษฐกิจโลกได้ ดังนั้น ความเสี่ยงทางลงยังมีอยู่ โดยเฉพาะเมื่อเครื่องมือทางเทคนิคในระยะสั้นส่งสัญญาณขายออกมาพร้อมกันด้วย จึงควรระวังหากความผันผวนจะนำไปสู่การอ่อนตัวในระดับต่ำกว่า 1054 จุด อาจลงต่อได้ถึง 1043 อีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน : การซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น แนวต้าน : 1063-1065 แนวรับ : 1054, 1043

การจัดพอร์ตระยะสั้น-หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต: AIT SCB TK IVL

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดมีแกว่งพักฐานบ้างแต่ยังลุ้นโอกาสรีบาวด์ได้ จึงยังเน้นแค่เทรดดิ้ง!!

แนวโน้ม หลังจากที่ประชุมเฟดยืนยันการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปีช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกกลับมาปิดเป็นบวกได้ดี ขณะที่นักลงทุนยังรอดูการเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ของกรีซเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินได้ ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่า SET จะอยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องภายในกรอบ 1050-1076 จุด โดยยังมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นในด้านบวกให้ได้เทรดดิ้งตามรอบเป็นจังหวะได้อยู่ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่คาดว่าจะกดดันตลาดในช่วงจังหวะบวกด้วย ช่วงนี้จึงยังแนะนำเพียงเทรดดิ้งตามรอบในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขายเหมือนเดิม

กลยุทธ์: แนะนำเลือกหุ้นเข้าเทรดดิ้งได้ โดยเฉพาะที่แนวรับทางเทคนิค เพื่อรอลุ้นขายทำกำไรตามรอบเมื่อ SET ดีดขึ้น ซึ่งหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ พลังงาน ปิโตรเคมี อาหาร เกษตร สื่อสาร เป็นต้น

KGI ประเมินหุ้นไทยวันพฤหัสฯ รีบาวด์ปานกลาง ภาพใหญ่แกว่งตัว ต้าน 1,060 รับ 1,054 จุดเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ร่วงในช่วงบ่ายหลังมีรายงานข่าวว่าทหารไทยกับกัมพูชาปะทะกันที่ปราสาทตาควายใกล้ชายแดน แต่ภายหลังทางการไทยได้ปฎิเสธข่าวแล้ว ดัชนีฯ จึงน่าจะมีช่วงเด้งได้ ด้านปัจจัยภายนอกเป็นบวกปานกลางเช่นกัน หลังจากธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% ตามที่ทุกฝ่ายคาดการณ์ แต่ที่เป็นข่าวดีในระดับหนึ่งได้แก่การส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับต่ำมากเช่นนี้ไปถึงปลายปี 2557 (อีกประมาณ 3 ปีจากปัจจุบัน) ซึ่งถือว่ายาวนานขึ้นกว่าที่เฟดเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่าดอกเบี้ยจะอยู่ต่ำไปถึงกลางปี 2556 ถึง 18 เดือนด้วยกันนอกจากนี้ในเชิงเศรษฐศาสตร์มีพัฒนาการของเฟดอย่างหนึ่ง ได้แก่เฟดประกาศเป้าหมายเงินเฟ้อ(Inflation Target) เป็นครั้งแรก โดยตั้งเป้าดัชนีราคาของการใช้จ่ายของประชาชน (PCE Price Index) ที่ 2.0% ต่อปี ทั้งนี้การตั้งเป้าที่ระดับค่อนข้างต่ำในขณะที่ประกาศตรึงดอกเบี้ยยาว 3 ปีนั้น ชี้ว่าเงินเฟ้อไม่เป็นปัญหาต่อสหรัฐฯ และจะหนุนให้นโยบายสภาพคล่องสูงดำรงอยู่ต่อไปอีกนานส่วนความเสี่ยงของตลาดยังอยู่ที่เรื่องกรีซ ซึ่งพบว่าทางการกรีซกับเจ้าหนี้เอกชน จะกลับมาเจรจากันอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการลดหนี้ สว็อปพันธบัตร และเกี่ยวกับดอกเบี้ยของพันธบัตรชุดใหม่ เราคิดว่าตลาดหุ้นจะยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนจนกว่าจะมีข้อสรุปเกี่ยวกับกรีซ ทั้งนี้เส้นตายของการสรุปดีลคือวันที่ 13 ก.พ. 2555

ด้านปัจจัยในประเทศ ให้ติดตามนโยบายพลังงานของ รมว.ท่านใหม่ อารักษ์ ชลธาร์นนท์ ซึ่งสั่งทบทวนนโยบายทั้งระบบภายในวันที่ 16 ก.พ. 55 และจะมีนัยต่อเงินเฟ้อของไทยและการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไป หลังจากเมื่อวานนี้ กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 3.00% ตามที่เราและตลาดคาดการณ์และส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยจะทรงตัวที่ระดับนี้พักหนึ่งก่อนตัดสินใจวางนโยบายอีกครั้ง ด้านการซื้อขายของผู้เล่นกลุ่มต่างๆ พบว่ายังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสลับขายออกมาตลอด ยังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนว่าจะเป็นการไหลเข้าหรือออกอย่างเช่นที่เคยเป็นปกติตามสไตล์ต่างชาติ

กลยุทธ์: แนะนำถือพอร์ตหุ้นหลักต่อไป หรือซื้อเก็งสั้นหุ้นหลักๆ (พร้อมตัดขาดทุนหากลงต่ำกว่าแนวรับ1,054 จุด) ส่วนระยะสั้นๆ เชื่อว่ากลุ่มบ้านและที่ดินยังเด่น ซื้อ LPN, PS, SAT, AH และถือต่อหรือซื้อเพิ่ม STA ตามประเด็นราคายางที่ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐฯ รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคยานยนต์ส่งผลดีต่ออุปสงค์ยางในระยะถัดไป


Create Date : 26 มกราคม 2555
Last Update : 26 มกราคม 2555 11:59:18 น. 0 comments
Counter : 486 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tangmo_tsu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add tangmo_tsu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.